อ.เจษฎา อธิบายแล้ว ทำไมพระพุทธรูปหนักกว่า 300 กก. ลอยน้ำได้


อ.เจษฎา อธิบายแล้ว ทำไมพระพุทธรูปหนักกว่า 300 กก. ลอยน้ำได้

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีพระพุทธรูปทองเหลืองเก่าแก่ ปางเปิดโลก อายุกว่า 100 ปี หนักกว่า 300 กก. ลอยน้ำได้กลางบ่อน้ำมนต์ ภายในวัดตาลเจ็ดช่อ ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง นั้น ทาง อ.เจษฎา อธิบายว่าเกิดจากแรงลอยตัวขององค์พระพุทธรูป

แรงลอยตัวในน้ำ คือแรงพยุงของน้ำที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในน้ำนั้น ทำให้วัตถุลอยอยู่ในน้ำได้ การที่วัตถุบางชนิดลอยอยู่ในน้ำได้ เพราะแรงลอยตัวที่กระทำต่อวัตถุนั้น มีค่ามากเพียงพอที่จะต้านน้ำหนักของวัตถุซึ่งเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก

อาร์คิมีดิส นักปราชญ์ชาวกรีก เป็นผู้ค้นพบแรงลอยตัว และได้ให้หลักการเกี่ยวกับการจมและการลอยของวัตถุในของเหลวว่า "แรงลอยตัวที่กระทำต่อวัตถุ มีค่าเท่ากับน้ำหนักของของเหลวที่ถูกแทนที่ ด้วยปริมาตรของวัตถุส่วนที่จมในของเหลวนั้น"

จากหลักของอาร์คิมีดิส จะพบว่า แรงลอยตัวนั้น เท่ากับ ความหนาแน่นของของเหลว (ซึ่งก็คือ มวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตร) คูณปริมาตรวัตถุส่วนที่จมในของเหลว คูณค่าความเร่งโน้มถ่วงของโลก (FB = pVg)

ด้วยเหตุนี้ ความหนาแน่นของวัตถุ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้วัตถุนั้นจมหรือลอยในน้ำ ถ้าวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าความหนาแน่นของน้ำ (1,000 กก./ลบ.ม.) วัตถุจะลอยน้ำ, ถ้าวัตถุมีความหนาแน่นเท่ากับน้ำ วัตถุจะลอยปริ่มน้ำ และถ้าวัตถุมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ วัตถุจะจมน้ำ

ดังนั้น แม้ว่าพระพุทธรูปดังกล่าวจะมีน้ำหนักมาก แต่ถ้ามีรูปทรงที่ทำให้มีปริมาตรมากด้วย ก็ทำให้ความหนาแน่นน้อยลง และก็จะสามารถลอยน้ำได้ เหมือนเรือที่ทำด้วยเหล็ก แต่ถูกต่อมาให้มีความกว้างยาวลึกมากขึ้น ความหนาแน่นรวมของทั้งลำเรือก็จะน้อยลง เรือจึงลอยน้ำได้


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์