จม.จากหมอวรงค์ ถึง ยิ่งลักษณ์ คดีจำนำข้าวดึงสติ วัฒนา!!

จม.จากหมอวรงค์ ถึง ยิ่งลักษณ์ คดีจำนำข้าวดึงสติ วัฒนา!!


13 ม.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการโพสต์ข้อความไว้ในเฟซบุ๊คซึ่งเป็นจดหมายที่ระบุถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า..

จดหมายถึงคุณยิ่งลักษ์
ผมตั้งใจเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคุณยิ่งลักษณ์ เพราะคดีต่างๆของคุณยิ่งลักษณ์และนายบุญทรง กำลังขึ้นสู่การสอบพยานในชั้นศาลฎีกา ขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมา ก็มีคนของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายวัฒนา เมืองสุข ก็มีความพยายามออกมา สื่อสารกับสังคมหลายครั้ง โดยพยายามเน้นว่า นโยบายจำนำข้าวนั้น เป็นนโยบายที่ต้องการช่วยชาวนา แล้วมันมีความผิดได้อย่างไร ผมก็ได้พยายามทำความเข้าใจไปหลายครั้ง ว่ามันมีปัญหาการทุจริต แต่ดูแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ผมจึงขอฝากคำถามผ่านคุณยิ่งลักษณ์ถึงนายว้ฒนาดังนี้

ข้อ1 ถ้าท่านตรวจสอบพบว่ารัฐบาล ทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีสัญญาที่หนึ่ง ในราคาเหมารวมข้าวสารทุกชนิดตันละ 10000 บาท ผู้ซื้อส่วนใหญ่เลือกเอาข้าวสารหอมมะลิออกไป ซึ่งราคาข้าวสารหอมมะลิ ขณะนั้นสูงถึงประมาณตันละ 32000 บาท ท่านคิดว่ารัฐบาลนั้นมีเจตนาโกงไหม และจะดำเนินการอย่างไร

ข้อ2 ในสัญญาตามข้อ1 ช่วงทำสัญญาระบุให้ การชำระเงินต้องผ่านแอลซี (letter of credit) เพื่อให้ดูว่าเป็นการทำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ แต่พอผ่านไป มีการขอแก้ไขสัญญาจากชำระเงินผ่านแอลซี มาชำระผ่านแคชเชียร์เชค หรือโอนเงิน ท่านคิดว่ารัฐบาลดังกล่าวมีเจตนาโกงไหม ควรจะทำอย่างไร

ข้อ3 แม้การทำสัญญาจีทูจีฉบับที่สอง จะมีการกำหนดขายข้าวสารหลายชนิด แต่ราคาขายข้าวสารขาว 5% สูงถึงตันละ 16000 บาทเศษ เพราะราคาข้าวสารช่วงนั้นราคาสูง ขณะที่การเบิกข้าวสาร ตามสัญญาฉบับที่สองไปไม่ถึงไหน ก็มีการทำสัญญาจีทูจีฉบับที่สามตามมา โดยกำหนดราคาข้าวสารขาว5%ในราคาตันละ 13000 บาทเศษ ข้าวชนิดเดียวในสัญญาที่สอง แต่ราคาถูกลงถึงตันละ 3000 บาทเศษ ท่านคิดว่ารัฐบาลดังกล่าวมีเจตนาโกงไหม ควรทำอย่างไร

ข้อ4 แม้สัญญาฉบับที่สามมีการขายข้าวสองชนิด แต่เนื่องจากมีการทำสัญญาราคาที่ถูกลง จึงมีการเบิกข้าวมากกว่าที่กำหนดในสัญญา จากตามสัญญาที่สาม ขายข้าวสองชนิด 1ล้านตัน แต่เบิกจริงประมาณ 1.65 ล้านตัน แต่สัญญาที่สอง ข้าวมีราคาสูงกว่ากลับเบิกไม่หมด ท่านคิดว่ารัฐบาลดังกล่าวมีเจตนาโกงไหม ควรทำอย่างไร

ข้อ5 หลังจากทีฝ่ายค้านตรวจสอบว่า รัฐบาลมีการขายข้าวแบบจีทูจีเก้ แทนที่รัฐบาลดังกล่าวจะเกรงกลัวต่อความผิด ด้วยการยุติการเบิกข้าวทุกชนิด กลับยังดำเนินการให้มีการเบิกข้าว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่านคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร

ข้อ6 ที่หนักหนาสาหัสกว่าข้อที่ 5 นั่นคือ นอกจากให้มีการเบิกข้าวตามปกติ หลังจากเรื่องจีทูจีเก้ได้รับความสนใจของประชาชน ในรัฐบาลชุดดังกล่าว ยังปล่อยให้มีการทำสัญญาจีทูจีเก้รอบสอง กับบริษัทจากประเทศจีนอีก โดยพบแคชเชียร์เช็คการซื้อขาย 1,822 ใบ วงเงิน 96,390 ล้านบาท ลักษณะการทำสัญญาคล้ายจีทูจีเก้รอบแรก แต่เปลี่ยนหน้าบริษัทและตัวละครผู้เล่น ซึ่งขณะนี้ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ท่านคิดว่ารัฐบาลดังกล่าวเหิมเกริมหรือไม่ สมควรทำอย่างไร

ข้อ7 ยังมีข้อมูลเสริมอีกว่า บริษัทจากจีน ที่มาทำสัญญาระบายข้าวจีทูจีเก้นี้ ยังไปทำสัญญาซื้อมันสำปะหลังในรูปแบบจีทูจีเก้ คล้ายที่ทำกับข้าวสารด้วย รัฐบาลแบบนี้ท่านคิดว่าสมควรทำอย่างไร
ข้อ8 ยังมีการทุจริตที่ตรวจสอบพบข้าวเน่า เสื่อมสภาพ คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานร่วม 5.9 ล้านตัน มีการพบนั่งร้านในกองข้าว ข้าวสารหาย ท่านคิดว่าควรทำอย่างไร

ข้อ9 ระหว่างที่ดำเนินโครงการรับจำนำ ช่วงรอบฤดูที่4 และรอบฤดูที่5 เพราะการทุจริตในระดับต่างๆ การขายข้าวสารไม่เป็นไปตามแผน ทำให้โครงการดังกล่าวขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมาจ่ายชาวนา จนชาวนาต้องฆ่าตัวตายถึง 16 ราย ท่านคิดว่าควรทำอย่างไร

ที่กล่าวมาทั้งหมด เพียงต้องการให้คุณยิ่งลักษณ์ สื่อสารผ่านไปยังนายวัฒนาให้เข้าใจว่า โครงการช่วยชาวนาอย่างจำนำข้าวนั้นไม่ผิด แต่ผิดที่การทุจริต และเนื่องจากโครงการจำนำข้าวนั้น เอื้อให้เกิดการทุจริตอย่างมาก เราจึงคัดค้านโครงการดังกล่าว

อย่างที่กล่าวมานั้น เราต่อสู้ทางความคิด ต่อนโยบายดังกล่าวมาตั้งแต่กลางปี 2554 มาจนถึงปี 2559 ซึ่งถ้าไม่โกหกตนเองจนเกินไป ข้อเท็จจริงก็ได้รับการพิสูจน์ จนเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ว่า ความล่มจมของโครงการนั้นเพราะมีการทุจริตเกิดขึ้น จนขนาดอดีตเลขานุการรัฐมนตรีบุญทรง คือนายแพทย์วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว ยังหนีหมายศาลอยู่เลย

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไหนๆท่านก็ยังไม่ยอมรับผิด แต่พวกเราก็มีหลักฐานเพียงพอว่าพวกท่านผิด ทางออกทุกอย่างจึงมาจบที่ศาล ซึ่งถือว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย ในเมื่อเรื่องดังกล่าวมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ทางที่ดีพวกเราควรให้ หลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าวได้รับพิสูจน์โดยศาล ไม่ควรที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาพูด จนกว่าศาลจะพิสูจน์ข้อเท็จจริง และที่สำคัญที่สุดนั่นคือ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบแก่แต่ละฝ่าย ขอให้เคารพในผลการตัดสินที่จะเกิดขึ้น และหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์เหมือนอย่างในอดีต ที่มีการกล่าวหากระบวนการยุติธรรม เมื่อได้ผลไม่เป็นที่พอใจ


จม.จากหมอวรงค์ ถึง ยิ่งลักษณ์ คดีจำนำข้าวดึงสติ วัฒนา!!


ขอบคุณที่มา >> Facebook >>> Warong Dechgitvigrom

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์