หน้ากากมหัศจรรย์!! The Mask Singer พาเวิร์คพอยท์ เรตติ้งพรวดอันดับเท่านี้แล้ว!!

หน้ากากมหัศจรรย์!! The Mask Singer พาเวิร์คพอยท์ เรตติ้งพรวดอันดับเท่านี้แล้ว!!

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่พูดถึงหน้ากากทุเรียน หน้ากากอีกา และอีกสารพัด

"หน้ากากนักร้อง-The Mask Singer" รายการสุดฮิต ติดกระแสสังคม ที่ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมลุ้น ร่วมทาย กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เนื่องจากจุดเด่นรายการที่น่าสนใจ พร้อมกระตุกต่อมอยากรู้อยากเห็นของคนดู ว่า เบื้องหลังหน้ากากแล้ว ใครคือผู้ร้องเพลงนี้

ทำให้เกิดกระแส บอกต่อ แชร์ต่อ ใครไม่ดูถือว่าเฉยมากๆ!!!

พร้อมส่งให้เรตติ้งคนดูโดยรวมทั่วประเทศของช่อง 23 เวิร์คพอยท์ จากข้อมูลนีลเส็น ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ 18.00-22.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีคนดูทีวีมากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ แซงหน้าแชมป์เก่า "ช่อง 3-7" ขึ้นเป็นเบอร์ 1

หรือถ้าจะมองภาพใหญ่ทั่วประเทศ วิเคราะห์ตัวเลขเรตติ้งคนดูจากการประมวลผลของนีลเส็น พบว่ารายการนี้มีคนดูโดยเฉลี่ยถึง 5.2 ล้านครัวเรือน และช่วงพีกสุดๆ พุ่งขึ้นไปถึง 7.8 ล้านครัวเรือนเลยทีเดียว

"ชลากรณ์ ปัญญาโฉม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิตอลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า "เราถูกถามเรื่องนี้ทุกวัน มีเรื่องเล่ามากมาย แต่ต้องบอกว่า คนที่แนะนำให้ซื้อลิขสิทธิ์นี้ คือโปรดิวเซอร์ "I Can see your voice" ที่เกาหลี ซึ่งเมื่อดูครั้งแรกก็ชอบ แต่ยังลังเลอยู่ สุดท้ายก็ตัดสินใจปล่อยรายการนี้ออกมา"

"หากวิเคราะห์แล้ว หลักๆ มี 2 ส่วนคือ ฟอร์แมตรายการแข็งแรง แม้จะเป็นรายการร้องเพลง แต่ก็มีรูปแบบที่น่าสนใจ อีกส่วนคือ การปรุงส่วนผสมได้ถูกจริตคนดู"

คีย์แมนช่อง 23 ยังบอกด้วยว่า จริงๆ แล้วเรตติ้งรายการอื่นๆ ก็โตไม่น้อยกว่า "The Mask Singer" เพียงแต่รายการนี้เป็นกระแสในสังคมมากกว่า ส่วนรายการอื่นๆ เช่น ปริศนาฟ้าแล่บเด็ก, I Can see your voice ไมค์ปลดหนี้ และอีกหลายๆ รายการ ก็มีเรตติ้งที่ดี มีคนดูประจำ

จึงทำให้เรตติ้งโดยรวมช่วงไพรม์ไทม์โตขึ้นต่อเนื่อง

"ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา พบว่าคนดูคุ้นชินกับการดูช่อง 3-7 เมื่อจำนวนช่องจากทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น วิธีของเราคือต้องทำให้คนคุ้นชินกับช่องเรา เมื่อมีรายการที่คนชอบเกิดขึ้นบ่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนดูก็เริ่มติด เริ่มเปิดทิ้งไว้ เมื่อคุ้นชินก็จะไม่เปลี่ยนช่อง เรตติ้งของเวิร์คพอยท์ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น"

นั่นหมายถึงการดึงให้คนดูช่องเวิร์คพอยท์ นานขึ้น

กลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งที่เวิร์คพอยท์นำมาใช้ควบคู่กัน และถือเป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรตติ้งช่อง 23 มาแรงแซงโค้งคือ การวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นทั้งช่องทีวีควบคู่กับการเป็นผู้ผลิตรายการ และพร้อมจะขยายคอนเทนต์เข้าไปในไลน์ทีวี ยูทูบ เฟซบุ๊ก ไม่ยึดติดว่าคอนเทนต์จะออกอากาศแค่ช่องทีวีเวิร์คพอยท์เท่านั้น

เพื่อสอดรับกับเป้าหมายใหญ่ที่ "เวิร์คพอยท์" วางไว้ คือ ... คนดูอยู่ตรงไหน เราก็จะไปตรงนั้น

"ชลากรณ์" ขยายความว่า วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งได้ย้ายการดูรายการทีวีไปยังโลกออนไลน์ โดยใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ไลน์ทีวี ยูทูบ เฟซบุ๊ก ดูหนัง ดูรายการ บนออนไลน์ และบริษัทในฐานะผู้ผลิตรายการ ก็มองว่าช่องทางนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทด้วย

ข้อดีคือ ถ้ามีคนดูเยอะก็มีรายได้เยอะ ถ้ามีคนดูน้อยก็มีรายได้น้อย ขณะที่ทีวีมีคนดูเยอะก็มีรายได้เท่าเดิม เพราะขายโฆษณาเต็มเวลาไปแล้ว

และ The Mask Singer ถือเป็นโมเดลที่มีความชัดเจน สำหรับการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ควบคู่ไปกับการออกอากาศสด

เพราะมีคนดูสดผ่านเฟซบุ๊กช่วงเวลาเดียวกับที่ The Mask Singer ออกอากาศสดทุกวันพฤหัสบดี เฉลี่ย 1.5 ล้านคน

ยูทูบเฉลี่ย 500,000-1,000,000 วิว และยังมีคนดูย้อนหลังผ่านยูทูบไม่ต่ำกว่า 10 ล้านวิวต่อตอน

จำนวนยอดคนดูผ่านออนไลน์ที่เกิดขึ้น ยังไม่นับรวมคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่ถูกตัดขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ ดึงให้คนกลับมาดูสด หรือตัดเป็นคลิปรายการสั้นๆ รองรับกลุ่มดูอีกกลุ่มด้วย

เมื่อเรตติ้งออนไลน์โต เรตติ้งทีวีก็โตด้วย ไม่ได้แย่งกัน เพราะคนดูเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน

ฟากมีเดียเอเยนซี่ "ธราภุช จารุวัฒนะ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ให้มุมมองว่า เวิร์คพอยท์ถือเป็นช่องที่มีเรตติ้งโดดเด่นในจำนวนช่องใหม่ ปัจจัยหลักๆ มาจากคุณภาพคอนเทนต์ ซึ่งเวิร์คพอยท์ก็พยายามพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการจัดวางผังรายการให้สอดรับกับจริตคนดูในแต่ละช่วงเวลา ทำให้มีฐานคนดูประจำ

โดยกรณีเวิร์คพอยท์ใช้เวลาไม่นานในการปรับพฤติกรรมความคุ้นชินผู้ชม สร้างเรตติ้งให้ติดตลาดได้ในเวลารวดเร็วเมื่อเทียบกับช่อง 3 ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะมีเรตติ้งใกล้เคียงกับช่อง 7

จุดเด่นอีกเรื่อง การโปรโมตรายการผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ก็ดึงให้คนกลับมาดูรายการสดที่หน้าจอหลัก ก็เพิ่มเรตติ้งได้อีกแรง

ยกตัวอย่าง The Mask Singer ช่วงที่ออกอากาศแรกๆ เรตติ้งก็ไม่ดี แต่เมื่อโปรโมต ตัดคลิปสั้นๆ โชว์ว่าของมีอะไรดูบนออนไลน์ คนก็สนใจและกลับไปดูย้อนหลังเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อเนื่องให้คนกลับมาดูรายการสดมากขึ้น

ม่เพียงเท่านั้น ยังทดลองวางโฆษณาคั่นระหว่างการออกอากาศสดบนเฟซบุ๊ก พร้อมจัดรายการ "นินทาหน้ากาก" คั่น ช่วงที่หน้าจอหลักตัดเข้าโฆษณา พร้อมไท-อิน (Tie-in) สินค้าไปในรายการไปในตัว สร้างรายได้อีกส่วนหนึ่ง ในแง่ผลตอบรับจากผู้ชมก็มีหลากหลาย ทั้งรำคาญ เข้าใจ และรับได้ อาจจะต้องมีการปรับวิธีนำเสนอให้เหมาะสม เนียนขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อรายการกระแสดี คนก็อยากติดตาม คนติดแล้วก็ไม่อยากดูย้อนหลัง เพราะไม่ทันใจ สุดท้ายก็มาดูสดที่จอทีวี

ความร้อนแรงของ "หน้ากากนักร้อง" ก้าวต่อไป เวิร์คพอยท์วางเป้าหมายว่า จะรักษาการเติบโตของเรตติ้ง ด้วยการปรับผังรายการให้สอดรับกับคนดู อาจจะมีการเปลี่ยนผังบ่อยขึ้น เพราะพฤติกรรมคนดูซับซ้อน และหลักๆ คนยังชอบรายการคอเมดี้ ดราม่า แต่ต้องเปลี่ยนวิธีนำเสนอ และอะไรที่คนดูไม่ชอบก็ดึงออก และหาอะไรที่คนชอบเข้าไปแทน ด้วยขุมกำลังสนับสนุน ทั้งสตูดิโอและทีมครีเอทีฟ โปรดิวเซอร์กว่า 100 ชีวิต และมีการประชุมแลกเปลี่ยนไอเดียทุกอาทิตย์ เก็บสต๊อกไอเดียไว้รองรับพฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนเร็ว

หากรายการไหนฮิต ติดกระแส ก็พร้อมปล่อยของทันที ตามโอกาสจังหวะเหมาะสม

ขณะเดียวกันก็จะมีการเติมรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่รายการเดิมที่มีเรตติ้งดี เพื่อตรึงคนดูให้ดูซ้ำๆ เรื่อยๆ

เมื่อ The Mask Singer เป็นโปรดักต์ที่กำลังได้รับความนิยมและกำลังมาแรง เวิร์คพอยท์คงไม่มีเหตุผลอื่นที่ต้องรอ


หน้ากากมหัศจรรย์!! The Mask Singer พาเวิร์คพอยท์ เรตติ้งพรวดอันดับเท่านี้แล้ว!!


Cr.* matichon

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์