เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยสำนักคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และภาคเครือข่าย จัดเสวนา "จิบกาแฟ นั่งคุย กะเทยเกณฑ์ทหาร ผ่านสื่อ" เนื่องด้วยทุกวันที่ 1-12 เมษายนของทุกปี เป็นช่วงการตรวจเลือกทหารกองประจำการหรือเรียกว่าการเกณฑ์ทหาร
นายเจษฎา แต้สมบัติ ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม (กห.) มีพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานการจัดบริการเกณณ์ทหารที่ละเอียดอ่อนและเคารพกลุ่มกะเทยดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเปลี่ยนเอกสารรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองประจำการ หรือสด.43 ที่มีถ้อยคำว่า "โรคจิต วิกลจริต" เป็นคำว่า "ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด" อย่างไรก็ตาม ยังติดปัญหาเรื่องการให้แพทย์ตรวจรับรองเพศที่ต้องมีเกณฑ์พิจารณาไปในทางเดียวกัน เนื่องจากพบว่ากะเทยหลายคนขอใบรับรองแพทย์ไม่ทัน บางคนแพทย์ไม่ออกใบรับรองให้เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ซึ่งก็เป็นหนึ่งที่เราจะทำงานร่วมกับกลุ่มแพทย์ และโรงพยาบาลทหารที่รับตรวจต่อไป
พ.อ.สมพล ปะละไทย ผู้อำนวยการกองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ปฐมนิเทศน์กับผู้แทนกองทัพภาคต่างๆและหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกมีความเข้าใจในการปฏิบัติต่อบุคคลที่มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด ตั้งแต่การจัดเก้าอี้ให้นั่ง การไม่พูดจาที่สร้างความอึดอัดใจ อย่างถามว่าน้องมีแฟนหรือยัง มีห้องลับที่มิดชิดสำหรับตรวจร่างกาย โดยให้เพียง 3 คนเท่านั้นที่เข้าไปตรวจ ได้แก่ สัสดีจังหวัด ประธานกรรมการตรวจเลือกในพื้นที่ตรวจเลือกนั้น และกรรมการแพทย์ รวมถึงได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติเสมือนเป็นน้องสาวของเรา ที่จะทำให้เกิดความสบายใจที่สุด ก็เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติในปีนี้จะเรียบร้อยและดียิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งนี้ ปัจจุบันเราได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มคนเหล่านี้ไปตรวจขอใบรับรองแพทย์ว่าเป็นบุคคลจำพวกที่ 2 ซึ่งไม่ต้องเกณฑ์ทหาร กับโรงพยาบาลในเครือข่าย ตั้งแต่การมาลงทะเบียนเมื่ออายุ 17 ปี ตอนมารับหมายเรียกเมื่ออายุ 20 ปี เราก็แจ้ง
พ.อ.สมพลกล่าวอีกว่า หากกลุ่มกะเทยที่มาตรวจรับไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์มา สามารถทักท้วงได้ว่าเป็นบุคคลที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด หรือหากทักท้วงไม่ทัน เข้าไปจับได้ใบแดงแล้วนั้น ก็ยังสามารถร้องคณกรรมการชั้นสูงที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีสัสดีจังหวัด อัยการจังหวัด พิจารณาได้ หากตัดสินให้ผ่านก็จะงดส่งเข้ากองประจำการ แต่จริงๆ ก็อยากให้ไปตรวจขอใบรับรองแพทย์มาก่อนจะดีกว่า
นายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ได้รวบรวมและวิเคราะห์ข่าวของสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ที่ออกข่าวกะเทยไปเกณฑ์ทหารในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบมีทั้งหมด 72 ข่าว แต่ใน 69 ข่าวหรือร้อยละ 97 พบเป็นข่าวที่มุ่งเน้นที่กลุ่มกะเทยในเรื่องความสวยไม่สวย เด่นไม่เด่น ความฮือฮามากกว่าการให้คำแนะนำกลุ่มกะเทยถึงกระบวนการเตรียมตัวไปเกณฑ์ทหาร ก็ฝากให้สื่อให้ความสำคัญเรื่องสิทธิทางเพศและนำเสนอในเชิงบวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานได้มีการแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยวงเสวนาเห็นร่วมกันว่าสื่อและสังคมไม่ควรมองเรื่องกะเทยไปเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องตลก เป็นความแปลก แต่ควรมองคุณค่าในตัวบุคคลที่เขาได้มาแสดงตนในการรับใช้ชาติ แม้จะไม่มีโอกาสตรงนั้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
