GPSพาหลอน!! สาวโพสต์เล่าเรื่องราวสุดหลอนขับรถตาม GPS หวังอาจพาตัดไปทางลัด โผล่มาอีกทีแทบผงะ!!

GPSพาหลอน!! สาวโพสต์เล่าเรื่องราวสุดหลอนขับรถตาม GPS หวังอาจพาตัดไปทางลัด โผล่มาอีกทีแทบผงะ!!

วันที่ 6 พ.ย.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wanpimon Melody Chansiha ได้โพสต์เหตุการณ์สุดหลอนที่ได้เจอกับตัวเพราะ GPS ที่สุดแสนจะไม่อัพเดทของแอพพลิเคชั่น จนทำให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่ชอบใช้ GPS โดยที่เธอเป็นช่างภาพมีงานที่จะไปถ่ายรูปรับปริญญาให้กับคนที่รู้จัก โดยมีช่างแต่งหน้าที่รู้จักขับรถไปด้วยกันซึ่งเธอได้ให้น้องส่งโลเคชั่นมาในไลน์เพื่อไปตาม GPS เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์สุดหลอนจนทำให้ชีวิตวัยเบญจเพสของเธอปีนี้ที่ต้องจำไปจนตาย โดยเธอเล่าว่า

GPSพาหลอน!! สาวโพสต์เล่าเรื่องราวสุดหลอนขับรถตาม GPS หวังอาจพาตัดไปทางลัด โผล่มาอีกทีแทบผงะ!!

GPS สยอง... ฉลองเบญจเพศ
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นในวันที่มีเรามีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์พอดี วันที่ 04/พย./2017 (วันเสาร์ที่ผ่านมา) เราจะต้องไปถ่ายรูปรับปริญให้น้อง แต่จะพาน้องช่างแต่งหน้า (เรากับน้องช่างแต่งหน้าสนิทกันและบ้านอยุ่ตรงข้ามกัน) ไปแต่งหน้าให้บัณฑิตก่อน ซึ่งก็รู้ว่าการแต่งหน้าจะต้องแต่งกันตั้งแต่เช้ามืด เลยต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 2 ครึ่ง และให้น้องบัณฑิตส่งโลเคชั่นมาให้ เพราะไม่รู้เส้นทางอะไรเลยยย ใน กทม. เราก็ขับมาเรื่อยๆ ขับตามมันมาเรื่อยๆ บอกให้เลี้ยว กูก็เลี้ยววว จนเวลาตี 3:05 โดยประมาณ มันก็พาเลี้ยวเข้าซอย นวมินทร์ แล้วเข้ามาก็จะเป็นหมู่บ้าน ซึ่งเงียบมาก เพราะมันยัง 03:00 อยู่ เราก็ขับตามมันไปเรื่อยๆ แม่งบอกละเอียดมากกกก ให้กูเลี้ยวที่ แยกนี้ 18-11 เราก็ยังแอบคิดในใจทำไมมันบอกละเอียดจังวะ แต่ก็คิดว่า เออ ก็ดีแล้วแหละ ขับตามมันไปเรื่อยจนมาถึงทางๆนึงเป็นทางแยกที่ไม่มีคอนกรีต เอาง่ายๆว่ามันคือทุ่งนา และข้างทางคือมีแต่หญ้าที่ขึ้นสูงๆ รกๆ และทางก็เป็นทางลูกรัง มันไร้ซึ่งบ้านคน ไร้ซึ่งแสงไฟ คือตอนนั้นนั่งอยู่ในรถกัน 3 คน แต่หลับกันหมด อี GPS แม่งก็บอกให้กูตรงไป กูก็ตรงไป ขับตรงมาได้ประมาณ 100 เพื่อนที่นั่งมาด้วยก็ตื่น เพราะรถมันตกหลุม ทุกคนบนรถตกใจมาก ว่ามาทางนี้ได้ไง และหลอนกันมาก เพราะข้างทางมีแต่ป่า

GPSพาหลอน!! สาวโพสต์เล่าเรื่องราวสุดหลอนขับรถตาม GPS หวังอาจพาตัดไปทางลัด โผล่มาอีกทีแทบผงะ!!

แต่เรากะเพื่อนเห็นว่า "เห้ย ข้างหน้ามันมีไฟรถ และคิดว่ามันน่าจะเป็นทางที่ตัดเข้าถนนใหญ่ข้างหน้าแน่" เลยตั้งสติค่อยๆขับไปอีกประมาณ 50 เมตร ปรากฎว่ามันมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังนึง เป็นบ้านกลางนาที่มืดสนิท แล้วมันเป็นทางตัน ขับต่อไม่ได้ แล้วหน้าบ้านก็มีศาลไม้เก่าๆ อารมณ์แบบศาลตายาย ที่มี 4 ขา และไอ้แสงไฟที่เราเห็นกับน้องคือแสงไฟที่มาจากศาล และในขณะที่สามคนบนรถกำลังมองหน้ากันด้วยความตกใจและประหลาดใจ ก็มีเสียงGPS พูดขึ้นมาว่า คุณ.. มา... ถึง... ที่... หมาย... แล้ว... #เย็ดเข้ 


หลังจากนั้นกูรวบรวมสติรีบกลับรถ แล้วขับออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แล้วรีบโทรหาน้องบัณฑิต ว่าทำไมจีพีเอสมันพามาตรงนี้ แล้วก้ส่งโลเคชั่นให้น้อง น้องบอกพี่ไปตรงนั้นได้ไง มันคนละที่เลยเราก็รวบรวมสติ แล้วให้น้องส่งโลเคชั่นมาใหม่ ก็ขับตามไปจนถูกอ่ะ
และ... วันรุ่งขึ้น เราก็ล้อกอินไลน์ในคอมเอาโลเคชั่นที่เราหลงเข้าไป ไปเสริ์ทหาดาวเทียมดูอีกครั้ง ทำให้ความสังสัยทวีคูณ กูเกิ้ลแม่งเข้าไม่ถึง ไม่มีภาพดาวเทียมของที่ตรงนี้ แล้วไอ้ซอยที่กูเลี้ยงเข้าป่า(จำชื่อซอยได้) "ชุมชมสุวรรณนิเวศน์" แม่งเป็นทางตัน เย้ดเข้!!! คือถ้าให้เดาอาจจะมีการทุบกำแพงมั้ง แล้วกูเกิลอาจจะไม่ได้อัพเดทภาพดาวเทียม
#ไปละ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่าไปไหนมาไหนก็หัดศึกษาเส้นทางบ้างง 555555
ปล.ภาพที่เอามาประกอบไปเซฟถาพที่ไก้ลเคียงมากที่สุดเพื่อให้มีอรรถรสในการอ่านนะจ้ะ กล้องหน้ารถแม่งหลุดไปตอนไหนไม่รู้

GPSพาหลอน!! สาวโพสต์เล่าเรื่องราวสุดหลอนขับรถตาม GPS หวังอาจพาตัดไปทางลัด โผล่มาอีกทีแทบผงะ!!

นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท โกลบเทค จำกัด ซึ่งทำแผนที่นำทางประเทศไทยมากว่า 30 ปี ภายใต้แบรนด์ NOSTRA ได้เคยกล่าวถึงกรณีข่าวที่กำลังแชร์ภาพกันสนั่นโลกออนไลน์ว่า GPS พาหลงทาง ว่า จริงๆ แล้วการใช้งานระบบนำทางเราเรียกว่า "เนวิเกเตอร์" ส่วนGPS เป็นเพียงระบบที่ใช้รับ-ส่งสัญญาณ โดยระบบนำทางจะมีหน่วยประมวลผล(ชิพ)และเครื่องรับGPS เพื่อทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณดาวเทียมเป็นตำแหน่งบนโลกสำหรับปัจจัยที่ทำให้ระบบนำทาง หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า GPSทำงานผิดเพี้ยนไป นายวิชัย กล่าวว่า มีอยู่ 4ปัจจัย ได้แก่
ปัจจัย 1.สภาพอากาศ เนื่องจากการรับส่งสัญญาณ ข้อมูลจะรับ-ส่งผ่านสัญญาณวิทยุ ดังนั้น หากสภาพอากาศไม่ดี อยู่ในที่อับ เช่น อยู่ในเมืองล้อมรอบด้วยตึกสูง ใต้ทางด่วน โทลเวย์ ตำแหน่งที่รับมาและแปลค่าอาจผิดไปจากตำแหน่งจริงหลายเมตร ทำให้ตำแหน่งปัจจุบันผิดไป ซึ่งจะทำให้การนำทางผิดเส้นทางไปได้
ปัจจัยที่ 2 ซอฟต์แวร์ หมายถึง แอพพลิเคชั่นที่เขียนมีความเก่งกาจมากเพียงใดในการระบุตำแหน่ง โดยการใช้งานระบบนำทาง ผู้ใช้งานต้องตั้งค่าการใช้งานให้ชัดเจน เช่น ตั้งให้ค้นหาเส้นทางที่รถยนต์สามารถผ่านได้ เนื่องจากในระบบนำทางจะมีเส้นทางทุกเส้นทางสัญจร ทั้งคนเดินได้ รถจักรยานยนต์ผ่านได้ และรถยนต์ผ่านได้ ซึ่งการตั้งค่านอกจากการระบุเส้นทางการใช้งานแล้ว ยังมีการตั้งค่าให้ไปถึงจุดหมายโดยใช้ระยะทางที่สั้นที่สุด ซึ่งบางครั้งเส้นทางนั้นรถยนต์อาจจะไปได้ แต่ไม่สะดวก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่แคบหรือรถติด การตั้งค่าการเดินทางควรตั้งแบบให้รถยนต์วิ่งและระยะเวลาที่เร็วที่สุด
ปัจจัยที่ 3 เนื้อหาของแผนที่ต้องมีการอัพเดทและมีข้อมูลที่ละเอียด โดยระบุชัดเจนว่าเส้นทางนี้ให้คนเดิน เส้นทางนี้สำหรับรถเล็กวิ่งผ่าน หรือเส้นทางนี้สำหรับรถใหญ่วิ่งผ่าน ซึ่งการอัพเดทแผนที่ทางบริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ระบบนำทาง จะแจ้งให้ผู้ใช้งานที่ซื้อไปทำการอัพเดทแผนที่อยู่เสมออาจจะอัพเดททุก 6 เดือน แต่เนื่องจากแผนที่ของผู้ให้บริการแผนที่ของแต่ละบริษัท มีคุณภาพและความถูกต้องที่แตกต่างกัน จึงควรศึกษาและเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงในการทำแผนที่ในตลาดด้วย
ปัจจัยที่ 4 คือ คนใช้งานระบบนำทางต้องมีวิจารณญาณพิจารณาว่าเส้นทางนั้นสามารถขับรถไปได้หรือไม่ เนื่องจากทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเจอเส้นทางที่พิจารณาแล้วไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ ให้ขับผ่านไปเพราะระบบนำทางจะทำการค้นหาเส้นทางใหม่ให้

 


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u1264395445
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 01:38 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์