จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!

จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!

เฟซบุ๊กผู้ใช้ชื่อว่า รังสิต ทองสมัคร์ ซึ่งเป็นของ นพ.รังสิต ทองสมัคร์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าศาลา นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความถึงจิมมี่ ชวาลาด้วย ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าประทับใจ สุดซาบซึ้งต่อคำว่า ให้ ของเศรษฐีใจบุญผู้นี้ จึงขอนำมาเสนอต่อดังนี้

วันนี้อยากคุยถึงคุณจิมมี่

ข่าวที่คุณจิมมี่บอกว่าจะบริจาคเงินช่วยโครงการของตูน บอดี้สแลม ๑๖ ล้านบาทนั้น ทำให้ผมได้รับการติดต่อและถามจากนักข่าวส่วนกลางที่เคยติดต่องานสมัยน้ำท่วมเมืองคอนหลายแห่งว่า

"คุณจิมมี่คือใคร?"

ผมบอกว่าในรายละเอียดเรื่องประวัติที่มาเป็นอย่างไรนั้นผมไม่ทราบมากนัก แต่ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือมากที่สุดท่านหนึ่งของเมืองคอน พร้อมกับบอกแหล่งข้อมูลอื่นที่มีรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวติดต่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้

ผมติดตามข่าววิ่งของตูนมาตั้งแต่วันแรก จนถึงวันเวลาสำคัญที่สุด เมื่อตูนได้เจอคุณจิมมี่

คุณจิมมี่ได้โอบกอดตูนด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น สองมือคุณจิมมี่ที่ประคองศีรษะตูนแล้วก้มลงหอมบนผมของตูน เป็นภาพที่ผมต้องกลั้นน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ.....ถ้าใครสังเกตุดีดีจะเห็นตรงแขนของคุณจิมมี่ยังมีสายน้ำเกลือคาเส้นอยู่เลย

คนดีของบ้านเมืองสองคนได้มาสร้างภาพที่ทรงพลังทางความรู้สึกที่ดีให้กับคนทั้งประเทศอย่างชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่จะอยู่ในความทรงจำไปตราบนานเท่านาน

.......................................

ในส่วนอื่นผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะสื่อทุกช่องทางนำมาเผยแพร่กันมากมายแล้ว แต่ผมแค่อยากบอกกล่าวในสิ่งที่ครอบครัวของผมได้รับจากคุณจิมมี่

๑.เมื่อราวสิบกว่าปีก่อน ผมไม่รู้จักคุณจิมมี่ว่าคือใคร รู้จักแต่ร้านจิมมี่ที่ขายผ้าอยู่แถวท่าวัง แค่รู้ว่าร้านจิมมี่ขายผ้าดี คนขายพูดดีมากกกกก เงินทอนจะได้แบงค์ใหม่ทุกครั้ง

ผมกับคุณจิมมี่ไม่น่ามีวงโคจรมาซ้อนทับกันได้เลยถ้า น้องฟ้าไม่ได้เล่นไวโอลินในงานแต่งของลูกชายคุณจิมมี่ในครั้งนั้น

น้องฟ้าเรียนไวโอลินกับคุณลุงสุธี เจริญสุข ที่ต้องไปเล่นในงานแต่งที่ทวินโลตัส น้องฟ้าร่วมเล่นด้วยหลายเพลง ผมตามลูกสาวไปถ่ายภาพ แล้วถือโอกาสถ่ายภาพบรรยากาศงานแต่งไปด้วยเลยทั้ง ๆ ที่มีช่างภาพมืออาชีพอีกสิบกว่าคนช่วยทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว

ผมส่งภาพให้ร้านโปรโฟโต้ไปอัดขยาย ทางร้านโทรมาขอภาพเพื่อส่งให้คุณจิมมี่ด้วย ผมโอเคด้วยความยินดี

ผ่านไปหนึ่งเดือนร้านโปรโฟโต้โทรมาบอกว่าคุณจิมมี่ฝากเงินมาให้ผมเป็น"คำขอบคุณ"จำนวนหกพันบาท ผมปฏิเสธที่จะรับ แต่ร้านโปรฯบอกสั้น ๆ ว่า งานนี้คุณหมอต้องรับครับ คุณจิมมี่ตั้งใจขอบคุณทั้งคุณพ่อทั้งลูกสาวที่ไปช่วยงานแต่ง นี่คือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักตัวตน(บางส่วน)ของคุณจิมมี่(แต่ยังไม่เคยเจอกันเป็นการส่วนตัว)

๒. ๓๐ ธันวาคม ของปีใดปีหนึ่งเมื่อราวสิบปีก่อน ผมอยู่บนไร่ชาบนดอยแถวแม่จันเชียงราย ขณะกำลังถ่ายภาพแสงยามเช้า ผมได้รับโทร ฯ จากใครสักคนที่ไม่อยู่ในลิสต์รายชื่อผม

"ใช่น้องรังสิตหรือเปล่าครับ......" เสียงทุ่ม นุ่ม เบา ฟังดูอบอุ่นใจท่ามกลางความหนาวยะเยือกของอากาศยามนี้

"พี่จิมมี่นะครับ......" ผมแปลกใจที่คุณจิมมี่โทรมาหาตั้งแต่เช้า

"วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสมพรใช่มั๊ยครับ"

"น้องรังสิตอย่าลืมกอดน้องสมพรและหอมแก้มเนื่องในวันสำคัญนะครับ"

ผมไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากคุณจิมมี่ ไม่เคยได้คุยกันแม้แต่ครั้งเดียว แต่เมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างใส่ใจแบบนี้ เป็นสายใยแห่งความประทับใจที่ยังจดจำได้แม่นยำมาถึงทุกวันนี้

คุณจิมมี่รู้ได้อย่างไรว่าวันนี้เป็นวันเกิดแฟนผม

คุณจิมมี่ตั้งใจโทรมาอวยพรครอบครัวของเราให้มีความสุข

คุณจิมมี่รู้เบอร์มือถือผมได้อย่างไร...นี่คือความตั้งใจของท่าน

หลังจากนั้นเกือบทุกปี ผมจะรับรู้ได้เลยว่าถ้ามีโทรศัพท์มาในเช้าของวันที่ ๓๐ ธันวาคม จะต้องเป็นคุณจิมมี่โทรมาอวยพรวันเกิดของแฟนผม

๓.น้องเอกลูกชายผม หกล้มเข่าเป็นแผลลึก ต้องไปทำแผลที่ รพ.นครินทร์ ทุกคืน

คืนหนึ่งเจอคุณจิมมี่บนโรงพยาบาล คุณจิมมี่เดินเข้ามาถามอาการของน้องเอกด้วยความห่วงใย ไม่ใช่ถามเพียงมารยาท แต่ถามถึงอาการ ถึงลักษณะบาดแผล แล้วใส่ใจไปถึงว่าคุณหมอที่รักษาว่าอย่างไรบ้าง ?

เมื่อร่ำลาจากกัน ผมกับน้องเอกเดินไปจ่ายเงิน จนท.ห้องการเงินแจ้งว่าคุณจิมมี่ฝากเงินไว้ให้สี่พันบาทเป็นค่าทำแผลให้กับน้องเอกที่ต้องมาทำทุกวันจนกว่าจะหาย....เราสองคนพ่อลูกตกใจ แปลกใจ แม้จะรู้ว่าท่านใจดีมีน้ำใจมากมาก แต่นึกไม่ถึงว่าท่านจะมีความเมตตาถึงเพียงนี้

มันมากกว่าความดีใจ มันมากกว่าค่าเงินสี่พันบาทที่คุณจิมมี่ตั้งใจมอบให้ แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นบนความเอื้ออารีที่ประเมินค่าไม่ได้ น้องเอกทำแผลจนหายดี เงินสี่พันยังคงเหลือบางส่วน จึงนำไปมอบคืนให้ท่าน ไม่ต้องบอกว่าน้องเอกจะประทับใจคุณจิมมี่มากมายขนาดไหน

๔. ผมมักไปช่วยถ่ายภาพงานแต่งให้น้องน้องในนครอยู่บ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง งานแต่งจัดขึ้นที่หอประชุมเมือง ทุ่งท่าลาด ผมไปเป็นช่างภาพให้เต็มตัว คุณจิมมี่นั่งตรงด้านข้างของโต๊ะกลาง ผมเดินไปเดินมาไม่ทันเห็นคุณจิมมี่ พอหันมาก็เห็นสายตาอ่อนโยนคู่นั้นมองมาที่ผมอยู่แล้ว คุณจิมมี่ส่งยิ้มมาให้ ผมรีบเดินเข้าไปสวัสดีพร้อมกับคุกเข่าลงที่พื้น แล้วเข้าไปใกล้เผื่อคุณจิมมี่พูดอะไรมาจะได้ฟังชัดชัด คุณจิมมี่ยกมือมาแตะที่ไหล่

"พี่รู้ว่าน้องรังสิตมาทำงานที่น้องรังสิตชอบ แต่น้องรังสิตรู้มั๊ยว่า สิ่งที่น้องรังสิตทำให้อยู่นี้นั้น เป็นการให้เกียรติอย่างสูงแก่เจ้าภาพ เหมือนที่พี่ได้รับจากน้องรังสิตตอนงานแต่งลูกชาย"

ผมพูดอะไรไม่ออก เพียงแต่บอกว่า "ขอบคุณครับพี่....ผมยินดีครับ" ก่อนขอตัวไปถ่ายภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่อ

ผ่านมาสิบกว่าปี คุณจิมมี่ที่ตอนหลังผมเรียกท่านว่า "พี่จิมมี่" จนติดปาก ยังจำได้แม่นยำ เป็นความใส่ใจในรายละเอียดของท่านอย่างมาก

๕.น้องนาวิน ส่งภาพขาวดำภาพนี้มาให้ผม ถามมาว่า "คนนี้ใช่คุณจิมมี่หรือเปล่าครับพี่หมอ"

ผมบอกว่าใช่ ......เป็นภาพช่วงที่ในหลวง ร.๙ เพิ่งเสด็จสวรรคตใหม่ ๆ ผู้คนยังเศร้าโศกอย่างหนัก มีการจัดกิจกรรมหลากหลาย หลายจุด

น้องนาวินกับทีมถ่ายภาพอีกสิบกว่าคนกระจัดกระจายออกเก็บภาพเหมือนทุกครั้งที่มีกิจกรรมทำนองนี้ นาวินไปเจอคุณจิมมี่นั่งทำสมาธิอยู่ตรงข้างอุโมงค์ลอดถนนหน้าวัดพระธาตุคนเดียว ประชาชนคนอื่น ๆ อีกเป็นพันคนรอตักบาตรอยู่ทางด้านหน้า

นาวินบอกว่า ผมได้ภาพนี้ภาพเดียวพอแล้ว เก็บกล้องได้เลย

ผมเสนอนาวินว่า เราทำหนังสือให้พี่จิมมี่สักเล่มดีกว่า....ผมกับนาวินเลือกภาพที่พสกนิกรชาวนครศรี ฯ ทำกิจกรรมรำลึกให้พ่อหลวงได้มาราวห้าสิบภาพ มาทำเป็นโฟโต้บุ๊คภาพกิจกรรมของคนนคร โดยผมเลือกภาพในหลวงที่น้องนาวินขอพี่จิมมี่ถ่ายมาจากห้องทำงานของท่านมาเป็นภาพหน้าปก ปกรองเป็นภาพพี่จิมมี่นั่งพับเพียบบนพื้นฟุตบาททางเดิน

ภาพทั้งหมดพี่จิมมี่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนกระทั่ง....

...............................

ผม นาวิน หยก น้องเอกลูกชาย นัดหมายเลขาของพี่จิมมี่เพื่อขอเข้าพบพี่จิมมี่ที่ห้องทำงานชั้นบนของร้าน

สองชั่วโมงที่เราสี่คนได้รับความรักความเมตตาจากท่าน เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต ทุกคำพูด ทุกกิริยาที่ท่านพร่ำพูดกับเราอย่างไม่รู้จักหมด เป็นสิ่งมีค่ามากมายมหาศาล

ท่านเล่าเรื่องราวของชีวิตในมุมมองที่นึกไม่ถึงมากมาย......

เสียดายที่ผมเก็บรายละเอียดคำพูดของท่านมาได้ไม่มาก

ท่านเป็นคนง่าย ๆ ใส่ใจทุกคนที่ท่านพบเจอ ท่านผูกมิตรไมตรีด้วยความดีที่เรียบง่ายอย่างที่สุด

...............................

เห็นท่าที่พี่จิมมี่รับมอบหนังสือภาพจากผมซิครับ ท่านลงคุกเข่ากับพื้นก่อนผมเพราะผมนึกไม่ถึงว่าท่านจะทำแบบนั้น แต่ทุกกิริยาท่านทำออกมาแบบเป็นธรรมชาติ งดงาม อบอุ่น อย่างที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน

ท่านเชิญชวนเรานั่งบนเก้าอี้เสมอท่าน ท่านเล่าเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมาย ทุกเรื่องเป็นสิ่งดีดีที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าต่อจิตใจยิ่งนัก

ท่านเปิดหนังสือภาพดู.....ท่านบอกว่าท่านจำภาพหน้าปกนี้ได้ดี พอท่านเปิดไปที่หน้ารองปก ท่านเพ่งพินิจดูภาพนั้นสักพัก ท่านก็ปิดหนังสือ พยายามข่มความรู้สึกบางอย่างที่กำลังเอ่อท้น....ความนิ่งเงียบปกคลุมห้องทำงานท่านเกือบสิบนาที ท่านนั่งนิ่งหายใจช้า ๆ น้ำตาท่านก็เอ่อท่วมล้นออกมา

"พวกเราก็คงคิดถึงพระองค์ท่านนะครับ"

เราพยักหน้าตาม....ผมปล่อยให้น้ำตาหยดหลั่งลงบนหลังมือผม

ตรงหน้าผม ผมได้มานั่งคุยกับคนรวยที่ผมกล้าเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า "เศรษฐี"

ตรงหน้าผม คือบุรุษที่รักในหลวงด้วยหัวใจ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

ตรงหน้าผม คือแบบอย่างที่ผมต้องทำตาม แม้เพียงสักเสี้ยวหนึ่งของท่านก็ดีมากแล้ว

ขอบคุณพี่จิมมี่ที่มาเป็นแบบอย่างแห่งการปิดทองหลังพระมาทั้งชีวิต

...............................

ขอบคุณพี่จิมมี่ด้วยหัวใจครับ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายแพทย์รังสิต ทองสมัคร์ อดีตผู้อำนวยโรงโรงพยาบาลท่าศาลา และประธานชมรมช่างภาพจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เล่าถึงความภาคภูมิใจที่ได้ถวายงาน ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปีพุทธศักราช 2539 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริที่จะรวบรวมศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ทั่วประเทศไทยไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า อาณาจักรไทย ก็ได้มีการคัดเลือกช่างภาพฝีมือดี 50 คน ของเมืองไทย เพื่อถ่ายภาพลงในหนังสือเล่มนี้

"นายแพทย์รังสิต ก็เป็นช่างภาพหนึ่งใน 50 คนที่ได้รับการคัดเลือกให้ถ่ายภาพวิถีชีวิตและประเพณี ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และใกล้เคียง ซึ่งก็มีภาพที่ได้รับการคัดเลือกลงในหนังสือฉบับประวัติศาสตร์นี้ ถึง 4 ภาพ คือ ภาพชนวัวที่จังหวัดนครศรีธรรมราชา ภาพเด็ก ๆ แต่งตัวเป็นเปรต ในงานประเพณีชักพระ ภาพการทำหนังตะลุง และภาพขบวนแห่หมัน บุญสารทเดือน 10 ซึ่งในหนังสือก็จะมีบันทึกของช่างภาพแต่ละคนด้วย หลังการตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ได้ นำไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ ที่ช่างภาพ ภาคภูมิใจ"


จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!


จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!


จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!


จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!


จิมมี่ ในโฟกัสช่างภาพผู้เคยถวายงาน อีกเรื่องเล่าของเศรษฐีใจบุญ อ่านแล้วน้ำตาไหล!


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u2031542940
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 01:39 น. ]
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์