จบสงกรานต์-นับแสนกลับกรุง รฟ.-บขส. คนเอี้ยด!! สรุปยอด รวม 5 วัน ตาย 323

จบสงกรานต์-นับแสนกลับกรุง รฟ.-บขส. คนเอี้ยด!! สรุปยอด รวม 5 วัน ตาย 323

คนนับแสน แห่กลับกรุง หลังปิดฉากสงกรานต์ปี" 61ถนนสายหลัก เหนือ อีสาน ใต้ แน่นขนัด รถไฟ-บขส.เอี้ยด "บิ๊กแป๊ะ"สั่งตร.ทุกหน่วย ดูแลความปลอดภัยประชาชน ช่วงเดินทางกลับ ศปถ.แถลงยอด 5 วัน ดับรวม 323 ราย เจ็บ 3 พันกว่า สั่งการทุกจังหวัด ดูแลถนนสายหลัก รองรับคนเดินทางกลับ รองโฆษก คสช.เผย ยอดยึดรถเมา-ขับทะลุหมื่นคัน ขณะที่อุบัติเหตุยังเกิดในหลายพื้นที่ กรุงเก่าบัสคว่ำเจ็บ 23 ราย ประจวบฯรถตู้ตกถนนเจ็บยกคัน ท่าแซะสลด มิวเอ็กซ์ชนต้นไม้แม่-ลูกดับ

ศปถ.แถลง 5 วันดับ 323 ราย

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายดำรง ลิมาภิรักษ์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 (ศปถ.) โดยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 552 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 69 ราย ผู้บาดเจ็บ 589 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 42.03 ขับรถเร็ว ร้อยละ 25.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.53 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 65.04 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.86 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.05 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 32.61 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 23.25

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 20 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ชลบุรี 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 27 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (11-15 เม.ย. 61) เกิดอุบัติเหตุ 3,001 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 323 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,140 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต(ตายเป็นศูนย์) มี 7 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง สตูล สมุทร สงคราม หนองคาย หนองบัวลำภู และอ่างทอง จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 119 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 19 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,031 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,354 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 886,202 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 178,191 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 51,488 ราย ไม่มีใบขับขี่ 46,094 ราย

เพิ่มจุดตรวจรับคนเดินทางกลับ

นายดำรงกล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ทำให้เส้นทางสายหลักที่เชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ และมุ่งสู่กรุงเทพฯ มีปริมาณรถมาก ศปถ.จึงประสานให้จังหวัดเพิ่มจุดตรวจและจุดบริการประชาชนบนเส้นทางสายหลักเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่อำนวยการจราจรและเปิดช่องทางพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางที่มีการจราจรแออัด นอกจากนี้ ให้จังหวัดร่วมกับขนส่งจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมบริการรถโดยสารประจำทางให้เพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง เข้มงวดการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ กวดขันไม่ให้มีรถเสริมที่ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการ ศปถ.เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์บนเส้นทางสายหลัก พบว่าจุดเกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตรง ซึ่งในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับ และการท่องเที่ยวและเล่นน้ำสงกรานต์ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาอาจส่งผลให้ผู้ขับขี่เกิดความอ่อนล้า จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครเข้มข้นการดูแลเส้นทางที่มีจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะทางโค้ง และ เส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว


ยอดยึดรถเมา-ขับทะลุหมื่นคัน

วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยถึงภาพรวมการจัดงานสงกรานต์ทั่วประเทศช่วง 5 วันที่ผ่านมา ว่าทุกภาคส่วนพร้อมใจกันจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของไทย และดำรงไว้ซึ่งการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือโดยพบว่าการจัดงานทั้งในกทม. แหล่งท่องเที่ยว และตามจังหวัดต่างๆ เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้ร่วมงานต่างมีความสุข คสช.ขอขอบคุณผู้จัดงานประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูแลสถานที่ อำนวยความสะดวกผู้ร่วมงานและบริหารจัดงานได้เป็นอย่างดี

พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากกำลังเดินทางกลับทำให้การสัญจรในเส้นทางต่างๆ หนาแน่นเป็นระยะและคาดว่าจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่กำลังเร่งอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรอย่างเต็มที่ ให้การระบายรถ มีประสิทธิภาพ รวมทั้งความพร้อมของจุดบริการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้พักระหว่างเดินทาง สอบถามเส้นทาง หรือตรวจเช็กสภาพรถยนต์ เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดย 5 วันที่ผ่านมามีผู้สัญจรใช้บริการ จุดบริการประชาชนของกองทัพบกถึง 61,758 คน

สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เม.ย. 2561 มีดังนี้ ในส่วนรถจักรยานยนต์พบการ กระทำความผิด 52,698 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึด ใบอนุญาตขับขี่ไว้ 2,999 ราย จำเป็นต้องยึดไว้ 2,069 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 41,443 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 38,956 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 3,544 ราย ยึดรถยนต์ 814 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 24,936 คน

โดยตลอด 5 วันที่ผ่านมา (11-15 เมษายน 2561) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการความปลอดภัย ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 10,099 คัน (รถจักรยานยนต์ 7,372 คัน และรถยนต์ 2,727 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 113,450 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 69,898 คน

"อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การเดินทางสัญจรทั่วประเทศรวมถึงบริเวณด่านชายแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะผลัดเปลี่ยนปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเดินทางกลับถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ" พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว

ผบ.ตร.สั่งเข้ม-ดูแลคนกลับกรุง

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ประชาชนเดินทางกลับจากไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ภูมิลำเนาเพื่อเตรียมตัวกลับมาทำงานที่กทม. ภาพรวมของการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีสำหรับการเดินทางกลับกทม. โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งบริษัท ขนส่ง จำกัด ประเมินว่าในวันที่ 16-18 เม.ย. จะเพิ่มรถโดยสารอีก 1,000-1,500 เที่ยว โดยเฉพาะสายอีสานจะเสริมรถกว่าร้อยละ 70 และคาดว่า จะมีประชาชนเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ วันละ 1.4-1.5 แสนคน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์สำหรับพนักงานขับรถ หากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด

ส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทยประเมินว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟมากที่สุดในวันที่ 16-17 เม.ย. ประมาณ 1.2 แสนคน ทางตำรวจรถไฟและตำรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบจะออกตรวจตราความเรียบร้อยพร้อมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยจังหวะช่วงเทศกาลขนย้ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนการเดินทางที่สนามบินแห่งต่างๆ ได้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไว้แล้วเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการเดินทางและเกิดความปลอดภัยอย่างถึงที่สุด และป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง และตำรวจท้องที่ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยจัดการปัญหาจราจรบริเวณทางเข้าสนามบิน และกวดขันเรื่องปัญหารถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร และประสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนเผื่อเวลาในการเดินทางล่วงหน้าด้วย ในส่วนการเดินทางในท้องถนนพบว่าหลายเส้นทางมีการจราจรที่หนาแน่น มีปริมาณรถจำนวนมาก และบางเส้นทางเป็นทางคอขวด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมเปิดช่องทางพิเศษในการแก้ปัญหาไว้แล้ว อีกทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางเพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่มีรถยนต์ของพี่น้องประชาชนที่ขัดข้อง หรือเกิดอุบัติเหตุ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปแก้ปัญหาให้ทันท่วงทีและบริการยกรถของท่านเพื่อเร่งการระบายการจราจรไม่ให้กีดขวางการจราจรอีกส่วนหนึ่ง โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อาสาสมัครกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทางหลวง หน่วยงานทางการแพทย์ เพื่อลดอุบัติเหตุ และทำให้การจราจรในเส้นทางต่างๆ คล่องตัว


ปิดฉากสงกรานต์-แห่กลับกรุง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยวันนี้เป็นวันหยุดชดเชยวันสุดท้าย ทำให้ถนนสายหลักทุกสายแน่นขนัดไปด้วยรถยนต์ ขณะเดียวกันตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟในจังหวัดใหญ่ อาทิ จ.เชียงใหม่ จ.นครราชสีมา หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่างก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการ จนต้องมีการเพิ่มเที่ยวรถเพื่อให้เพียงพอกับจำนวนประชาชน ขณะที่ถนนสายเอเชีย (พหลโยธิน) และถนนทางหลวงหมายเลข 117 (ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก) ในช่องทางขาล่อง โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกหน้าค่ายจิรประวัติ สี่แยกเชิงสะพานเดชาติวงศ์ สี่แยกพหลโยธินและสามแยกเวียงดอย อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณรถหนาแน่น รถเคลื่อนตัวได้แต่ไม่สามารถทำความเร็วได้ รถติดขัดไปจนถึงแยกเขาทองเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร นอกจากนี้เส้นทางสายเลี่ยงเมือง ทางหลวงหมายเลข 122 ก็ยังมีปริมาณรถสะสมหนาแน่น จึงทำให้การจราจรรถเคลื่อนตัวได้ช้าและคาดว่าในช่วงบ่ายถึงค่ำคืนนี้ปริมาณรถจะหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น

มิตรภาพแน่นขนัด

ขณะที่ภาพรวมการจราจรบนถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯเช้านี้ มีรถหนาแน่นมากอยู่ 2 จุด คือบริเวณแยกบ้านวัด ต.ตลาดแค อ.โนนสูง และบริเวณริมทางขึ้นเขา ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ซึ่งตำรวจทางหลวงมีการเปิดช่องทางการจราจรพิเศษ ให้รถวิ่งสวนทางได้ 1 เลนแล้วทั้ง 2 จุด เพื่อเร่งระบายรถให้สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนถนนสาย 304 ปักธงชัย-กบินทร์บุรี รถยังวิ่งได้คล่องตัว

โดยคาดกันว่าตลอดทั้งวันไปจนถึงตอนกลางคืนจะมีปริมาณรถเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 101 หน้าเรือนจำสีคิ้ว จุดรับรถยนต์จากทางหลวง 24 ถ.เลี่ยงเมือง โชคชัย-สีคิ้ว ทางหลวง 201 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว และตัวเมืองนคร ราชสีมา มีปริมาณรถสะสมเพิ่มขึ้น รถยนต์ต้องชะลอความเร็วสลับหยุดนิ่งท้ายแถวติดสะสมยาวนับกิโลเมตร เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครราชสีมา ที่ 2 ต้องเปิดช่องทางพิเศษให้รถยนต์แล่นสวนทางกัน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 87+700-103+200 ตั้งแต่ทางต่างระดับสีคิ้วถึง ต.คลองไผ่ เพื่อเร่งระบายรถให้มากที่สุด ภาพรวมแม้ปริมาณรถเพิ่มขึ้นแต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ในระดับความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 60 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ต้องประเมินสถาน การณ์ทุก 2 ชั่วโมงเพื่อปรับการจราจรตาม

เพชรเกษมขึ้นกรุงเทพฯก็หนาแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพถนนเพชรเกษมขาขึ้น ช่วงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางยาวถึง 222 กิโลเมตร มีปริมาณคับคั่งทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร ต้องทำงานกันอย่างหนัก บางช่วงมีรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร นายสุพจน์ ล้อมทรัพย์ หัวหน้าหมวดการทาง กรมทางหลวง ประจวบฯ ได้ประชาสัมพันธ์เร่งรถที่ชะลอตัวบริเวณสี่แยกทางเข้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ ให้รีบเดินทางโดยมีตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธรช่วยกันเร่งระบายรถ

นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้า ปภ.ประจวบฯ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณรถเริ่มมากตั้งแต่เที่ยง โดยศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำสถิติไว้ในวันที่ 11 และวันที่ 12 มีปริมาณรถที่วิ่งลงสู่ภาคใต้วันละ 1 แสนคัน วันที่ 13 วันละ 5 หมื่นคัน แต่เวลากลับจะกลับพร้อมๆ กันในวันที่ 15-17 จึงต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่มาช่วยกันระบายรถ โดยใช้ทั้งสัญญาณไฟและสัญญาณมือสลับกันตามปริมาณของรถ และจะปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางกลับอย่างปลอดภัย

ด้านพ.ต.ต.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ สว.จร.สภ.เมืองสมุทรสาคร เผยสภาพการจราจรถนนพระรามที่ 2 ขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 เม.ย. พบว่าประชาชนเริ่มเดินทางกลับ ทำให้มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงบ่ายถึงค่ำยาวไปจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน สาเหตุนอกจากจะมาจากประชาชนที่ทยอยเดินทางกลับแล้ว น่าจะมาจากการเล่นน้ำริมถนนและมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังริมถนนพระราม 2 จึงทำให้รถเกิดการชะลอตัว ขณะที่การจราจรวันนี้ ก็คาดว่าจะมีสภาพคล่องจนถึงครึ่งวัน ส่วนในช่วงบ่ายถึงค่ำคาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่น แต่ไม่ถึงกับหยุดนิ่งยังคงเคลื่อนที่ได้เรื่อยๆ


ระทึก!กรุงเก่าบัสคว่ำเจ็บ 23 ราย

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.นฤดม มารศรี ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรี อยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบัสตกร่องกลางถนน บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าใกล้ต่างระดับบางปะอิน ก.ม.52+200 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ไปตรวจสอบพบรถบัสเสริมไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-3211 นครราชสีมา ของบริษัทเชิดชัยทัวร์ วิ่งรับผู้โดยสารมาจาก จ.อุบลราชธานี-กรุงเทพ มหานคร พลิกตะแคงข้างอยู่ร่องกลางถนน มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 23 ราย จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง สอบสวนทราบว่ารับผู้โดยสาร 40-42 รายมาจากอุบลฯ โดยมีคนขับรถเพียงคนเดียว ก่อนเกิดเฉี่ยวชนกับรถเก๋งจนเสียหลักตกร่องถนน ซึ่งจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ประจวบฯรถตู้ตกถนนเจ็บยกคัน

ด้านพ.ต.ต.อุฤทธิ์ ขรรค์แก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกร่องกลางถนนชนต้นไม้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 320+600 หมู่ 7 บ้านสวนขวัญ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถตู้ส่วนบุคคล โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีเทา ทะเบียน ฮธ 2645 กทม. ตกอยู่ในร่องกลางถนน โดยพลิกคว่ำชนกับต้นไม้จนหลังคายุบ กระจกหน้า-หลังแตกพังเสียหายเกือบทั้งคัน มีสิ่งของสัมภาระที่บรรทุกมาหล่นกระจัดกระจายเกลื่อน และมีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย เป็นผู้ใหญ่ 8 ราย เด็กหญิง อายุประมาณ 9-11 ขวบ 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบช่วยเหลือนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบฯ สอบ สวนนายธาราฤทธิ์ ดีวิญญา อายุ 36 ปี คนขับ ให้การว่า นำผู้โดย สารทั้งหมดกลับจาก ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และกำลังจะเดินทางกลับที่จังหวัดปทุมธานี ระหว่างทางถึงจุดเกิดเหตุรถได้เกิดยางหน้าขวาระเบิด

มิวเอ็กซ์ชนต้นไม้แม่-ลูกดับสลด

ร.ต.อ.สนธยา ไทยประดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 3 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จึงไปตรวจสอบ พบเป็นถนนสี่เลนบริเวณช่องทางขาขึ้นในร่องกลางถนนติดกับจุดกลับรถพบรถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 3 กส 4316 กรุงเทพฯ อัดติดกับขอบปูนคูระบายน้ำกลางร่องถนนตรงจุดกลับรถ สภาพหลังคาเปิดพังยับไม่มีชิ้นดี พบมีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย หน่วยกู้ชีพรีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลท่าแซะ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมศักดิ์ สามารถ อายุ 48 ปี น.ส.ธัญรดา สามารถ อายุ 22 ปี และน.ส.ธัญจิรา สามารถ อายุ 18 ปี ทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านเลขที่ 555/66 หมู่ 20 ถนนบางพลี-ตำรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนที่น.ส.ธัญรดาจะเสียชีวิตระหว่างทาง

นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบศพนางนิเยาะ สามารถ อายุ 46 ปี เป็นภรรยาของนายสมศักดิ์และมารดาของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายจิรัฐ หวันโส้ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/6 หมู่ 6 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนขับรถ ให้การว่า ทั้งหมดประกอบธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งขายปลีกและขายส่งอยู่ที่ จ.สมุทร ปราการ ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ จ.นครศรีธรรมราช และท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งช่วงเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับ ออกจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกลับตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา จนถึงที่เกิดเหตุเป็นคอสะพาน รถเกิดกระดอนแล้วเหินจน เสียหลักควบคุมไม่ได้ ตกลงไปในร่องกลางถนนแล้วพลิกคว่ำไถลไปอัดติดกับขอบปูนร่องระบายน้ำตรงจุดกลับรถ เป็นเหตุให้คน ในรถบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว


นครบาลพร้อมรับการจราจร

พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผบก.จร. เปิดเผยถึงภาพรวมการจราจรขาเข้ากรุงเทพ มหานครว่า เวลา 16.50 น. บริเวณในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นกลาง ฝั่งทิศเหนือบริเวณทางด่วนโทลล์เวลย์ ถนนวิภาวดีรังสิต ทิศตะวันออกบริเวณถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา ทิศใต้ถนนดาวคะนอง ยังเคลื่อนตัว ได้ดี ทางบก.จร.)ได้สำรวจภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเตรียมอำนวยสะดวกด้านการจราจรไว้แล้ว บางพื้นที่เริ่มมีฝนตก ขอให้ระมัดระวังพื้นถนนเปียกลื่น อย่างไรก็ตาม จุดที่จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือบริเวณฝั่งชั้น นอกทางทิศ ได้แก่ บริเวณถนนสายเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา การจราจรค่อนข้างหนาแน่น มีการเปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะ


ที่มา : ข่าวสด

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : ไปแล้วก็ไปเลยสิ
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 125.25.11.178

125.25.11.178,,node-2b6.pool-125-25.dynamic.totbb.net ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
กลับมาทำไม เต็มบ้านเต็มเมือง


[ วันอังคาร ที่ 17 เมษายน 2561 เวลา 10:47 น. ]
คุณ : u604243260
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 01:40 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์