กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ จู่ๆเห็นข้อความในมือถือแม่เข้า ฉันโกรธถึงขั้นอยากตัดความสัมพันธ์แม่ลูกทันที!

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า ฉันกับสามีรู้จักกันในที่ทำงาน ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเงินกัน แต่ฉันก็รักเขามาก เพราะเขาเป็นคนทุ่มเทและตั้งใจทำงาน เราทำงานมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่มีเงินเก็บสักที และต้องเช่าห้องอยู่มาโดยตลอด

ต่อมาฉันได้ตั้งครรภ์ พอใกล้เวลาคลอดลูก ฉันรู้สึกว่าการเช่าห้องอยู่ไปวันๆมันไม่ดีสักเท่าไรฉันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองหลังคลอดลูกแล้ว จึงเริ่มหาเงินดาวน์บ้านกับสามี เมื่อเราเอาเงินเก็บทั้งหมดของเรามารวมกับเงินเก็บของพ่อแม่สามีแล้ว เงินดาวน์ยังขาดอีก 2 แสนบาท

และเมื่อตอนแต่งงานฉันได้เอาเงินสินสอดให้พ่อแม่ฉันไปทั้งหมด และตอนนี้ฉันก็กำลังร้อนเงินอยู่ เลยเกิดความคิดไปยืมกับพ่อแม่ ปกติพวกเขาได้รับเงินบำนาญอยู่เป็นประจำและน้องชายเรียนก็ไม่ต้องใช้เงินมากเท่าไร ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ไม่มาก เงิน 2 แสนไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับพวกเขา

หลังจากกลับไปที่บ้านพอทานข้าวกับพ่อแม่เสร็จ ฉันจึงเอ่ยปากขอยืมเงินกับพ่อแม่ แต่ไม่คาดคิดว่าจะโดนแม่บ่นว่า "ทำไมโง่จัง คิดจะเอาเงินพ่อแม่ไปให้คนอื่นๆนี่นะ เอาไปแล้วจะได้คืนจริงๆหรือ ทำไมตอนนี้เปลี่ยนไปได้สักขนาดนี้ คิดถึงแต่ครอบครัวของสามีตัวเองอย่างเดียวเลย บอกตรงๆเลยพ่อแม่ไม่มีเงินให้ยืมหรอก เงินสินสอดนั้นแม่จะเก็บไว้ส่งน้องเรียน" หลังจากฟังแม่พูดเสร็จ ฉันก็เชื่อว่าพวกเขาไม่มีเงินจริง จึงเลิกคิดเรื่องนี้และไปหาทางอื่นเอา หลังจากไปขอยืมเงินกับเพื่อนหลายๆคน ในที่สุดเราก็สามารถจ่ายเงินดาวน์บ้านได้

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเป็นวันแม่ของประเทศจีน ฉันกับสามีหยุดเลยพากันกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ของฉัน ด้วยความที่เราไม่ได้กลับไปหานานแล้ว เราจึงซื้อของฝากและของกินหลายอย่างไปให้ ทั้งครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันมีความสุขและอบอุ่นมาก ขณะนั่งคุยกัน โทรศัพท์ของแม่วางไว้ชาร์จแบตไว้ที่ข้างๆตัวฉัน อยู่ๆก็มีเสียงข้อความแจ้งเดือนเข้า ฉันคิดว่าใครคงส่งข้อความมาหาแม่ ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นเพื่อส่งไปให้แม่ และอยู่ๆฉันก็เหลือบไปเห็นเนื้อหาของข้อความนั้นเข้า ซึ่งเป็นข้อความแจ้งจากธนาคารว่า มียอดเงิน 2.5 แสนบาทเข้าบัญชีรวมแล้วมีเงินฝากทั้งหมด 2.25 ล้านบาท

ทันใดนั้นฉันรู้สึกอึ้งไปเลย นึกถึงตอนที่ยืมเงินกับแม่ เธอโกหกฉัน ตอนที่ฉันยังไม่ได้แต่งงานเงินเดือนของฉันส่วนใหญ่ก็ส่งให้พ่อแม่ ขนาดวันที่ฉันแต่งงาน แม่ก็บ่นว่าบ้านเราไม่มีเงินลำบากมาก ให้ฉันเอาเงินสินสอดทั้งหมดให้กับแม่ แต่พอเราเดือดร้อนต้องการเงิน แต่เธอกลับโกหกว่าไม่มีเงินไม่ยอมช่วยเหลือเรา ฉันก็ลูกของพ่อแม่นะ ทำไมถึงไม่รักฉันเลย

ฉันรู้สึกอึดอัดมาก ทนไม่ไหวจึงอ้าปากถามแม่ว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับฉัน ในยามที่ฉันเดือดร้อนและลำบากสุดๆ พ่อแม่กลับไม่ยอมช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น แต่แม่กลับพูดว่า "ใครให้แอบดูโทรศัพท์ของแม่ นั้นมันเป็นเงินของน้องทั้งหมด น้องก็ต้องแต่งงานและซื้อบ้าน เธออยากให้น้องโสดไปตลอดชีวิตหรือไง" แม่ยังพูดซ้ำว่า มันไม่ใช่เงินของฉัน ฉันอย่าไปหวังอะไรกับเงินก้อนนี้เลย

ฟังแล้วฉันรู้สึกเจ็บใจเหลือเกิน ในสายตาของพ่อแม่ ลูกชายจะมีค่ามากว่าลูกสาว ฉันนี่แต่งงานไปแล้วก็กลายเป็นคนไม่สำคัญไปทันที พวกเขารักน้องชายมากว่าและก็ไม่เคยสนใจชีวิตของฉันว่าจะเป็นยังไง ในช่วงที่ฉันเพิ่งคลอดลูกใหม่ๆ สามีต้องไปทำงานทุกวันไม่มีเวลาดูแลฉันกับลูกฉัน ฉันต้องเลี้ยงลูกคนเดียวอย่างลำบาก ยังดีที่แม่สามีมาช่วยฉันบ้าง แต่แม่ฉันนี้สิ โทรมาหาฉันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น