อุทาหรณ์ใช้ชีวิต! ‘อีเจี๊ยบ’ ยกคดี ‘ลุงวิศวะ’ เตือนลูกเพจต้องมีสติ

จากกรณีที่ กรณีนายนวพล ผึ่งผาย อายุ 17 ปี หรือปอนด์ เด็กชั้น ม.4 ถูกนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ ลุงวิศวกรยิงเสียชีวิต เนื่องจากทะเลาะเรื่องที่จอดรถ ในอ.อ่างศิลา จ.ชลบุรี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ศาลจังหวัดชลบุรี ได้พิพากษาตัดสินลงโทษจำเลยสถานเบา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2,000 บาท ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง รวมเวลานับตั้งแต่คดีเกิดจนกระทั่งมีคำพิพากษาใช้เวลา 1 ปี 23 วัน ล่าสุดท่าเพจดัง “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

วันนี้ เรื่องที่คุยกันทุกเพจ ทุกที่ทุกออฟฟิศ และคืนนี้น่าจะทุกช่องข่าวคือ ข่าว ศาลตัดสินลุงวิศวะที่ยิงวัยรุ่นตาย 10 ปีตามที่อ่านมาตลอดบ่าย จากหลายๆเพจข่าว ดีใจที่ชาวเน็ตสัก 30-40%อ่านคำตัดสินครบถ้วน และเข้าใจเหตุผลของศาลท่านดี แต่ 70%ยังมีอาการขัดใจอยู่ เฮ้ยยย ผมเข้าใจคุณ แต่คุณต้องใจเย็นๆ และอ่านคำตัดสินให้ดี ให้ละเอียด อย่าใส่อารมณ์ไปด่าศาลท่านจะคุกเอา บอกก่อนเลย คดีนี้ผมไม่ได้เสียใจกับการตายของน้องๆอะไรพวกนั้นเลย วิ่งกรูกันเข้ามาใส่เค้าแบบนั้น ยังจำเสียงได้ "เก๋าเหรอเก๋าเหรอ "เก๋าพ่องงง เป็นไงห้าวกันนัก เห็นพวกเยอะ อีกฝ่ายมาคนเดียว โดนยิงโป้งร่วงไปคนที่เหลือวิ่งหนี หวังว่าคงจำวันนั้นไปตลอดชีวิต และไม่ไปห้าวแบบนั้นกับใครอีก

อุทาหรณ์ใช้ชีวิต! ‘อีเจี๊ยบ’ ยกคดี ‘ลุงวิศวะ’ เตือนลูกเพจต้องมีสติ

แต่ แต่ แต่ .......ผมอ่านที่ศาลท่านให้เหตุผลไว้ และผมอยากให้ทุกท่านที่ไม่พอใจอยู่ อ่านเถอะครับ อ่านดีๆ ใจเย็นๆ ศาลท่านให้เหตุผลไว้ครบถ้วนและดีมากๆแล้ว ไอ้พวกที่บอกว่า "เป็นกูกูก็ยิง"น่ะ เชื่อว่า ถ้าเป็นผม เป็นคุณ เป็นคนธรรมดา มีสติ มีสามัญสำนึก เมื่อปะทะคารมกับกลุ่มวัยรุ่นที่ร้านขายของแล้ว เห็นพวกมันมาหลายคน หันมามองตัวเองมีแม่ มีหลาน มีเมีย อยู่ในรถ

พอรถมันไปก็คงด่า ... ในรถไปตามเรื่อง แล้วก็คงให้มันไปซะพ้นๆ คงไม่เอาชีวิตหลาน แม่ เมีย ไปเสี่ยงโดยการ ขับรถไล่ตาม บีบแตรยาวใส่รถมันอีก คือถ้าเถียงกันตอนแรก แล้วลุงกลับมาด่าในรถ เหมือนเราคนปกติจะทำ แต่ไอ้พวกนั่นเข้ามาทุบ มาทำร้าย แล้วลุงยิง นั่นอาจจะพอสมเหตุผลเป็นการป้องกันตัวได้ ศาลท่านเห็นว่า ไอ้พวกนั่นก็ออกรถไปแล้ว เรื่องวิวาทตรงนั้นจบแล้ว ลุงรอสักพัก ใจเย็นๆ ขับรถออกไปปกติ มันก็ไม่มีเรื่องแล้ว

พอลุงมีปืน ลุงไม่จบ ลุงเอาปืนออกมาเตรียมไว้ และขับรถกวดตามทันที บีบแตรยาว แซงหน้ารถมัน แล้วไปหยุดรถตรงหน้ารถมันอีก มันก็เลยกลายเป็นตั้งใจชวนวิวาทอีกรอบ ให้พวกมันลงมาทำร้ายการยิงของลุงเลยไม่ใช่การป้องกันตัวแล้วทีนี้ ศาลท่านเลยต้องตัดสินไปแบบนั้น นักกฎหมายส่วนใหญ่อ่านสำนวนคดีแล้วก็คิดคล้ายๆกัน ว่า จะมากจะน้อย ยังไงลุงก็โดนแทนที่เราจะเอาเวลามาด่าศาล เราควรเอาเรื่องนี้ มาเป็นบทเรียน เป็นตัวอย่างเตือนใจ ให้มีสติ ระงับอารมณ์ในการใช้ชีวิตจะดีกว่านะ ทั้งคนที่เป็นวัยรุ่น และ คนที่เป็นลุงนั่นแหละ

เชื่อผมมั้ย ตอนนี้ถ้าลุงแกย้อนเวลาไปที่หน้าร้านขายของที่รถมันขวางได้ แกก็คงทำเหมือนที่คุณที่ผม ที่ทุกคนจะทำคือ เซฟหลาน เซฟแม่ เซฟเมีย เซฟตัวเอง เข้ามานั่งด่าแม่งอยู่ในรถ แล้วปล่อยให้พวกมันไปคว่ำตายตามธรรมชาติไม่ไปขับรถตามไล่บีบแตรใส่มันแบบนั้นแกคงเสียใจที่แกใจร้อนทำแบบนั้นไป มันไม่คุ้มเลยจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงลุงแกมากตอนนี้แกได้ประกันตัวออกมาอยู่กับครอบครัว ออกมาสู้คดี ต่อนี่แค่ศาลชั้นต้น ยังมีอุทธรณ์ ฎีกา อีกใจเย็นๆแล้วถ้าจะด่าว่าเข้าข้างไอ้พวกวัยรุ่น เก๋าเหรอ เก๋าเหรอ!!!ย้อนไปอ่านข้างบนใหม่