เครื่องกรองอากาศ เลือกซื้ออย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินฟรี


เครื่องกรองอากาศ เลือกซื้ออย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินฟรี

ทุกวันนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยฝุ่นมากมาย การที่จะหาอุปกรณ์มาป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าสู่ร่างกายในจำนวนที่เยอะมันเป็นสื่งที่ทุกคนกำลังมองหาและหาตัวช่วยในการป้องกัน แค่ใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกไปไหนไม่ใช่จะช่วยป้องกันฝุ่นได้ 100% แต่การอยู่ในบ้านฝุ่นก็สามารถเข้าได้โดยง่าย

ทั้งนี้ในโซเซียลได้มีการแชร์โพสเกี่ยวกับการเลือกเครื่องกรองอากาศโดยจะมีวิธีการเลือกอย่างไร อ่านข้อมูลด้านล่างนี้เลย

1. ความละเอียดการกรอง ยิ่งเล็กยิ่งดี : ที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ขายกันที่ 0.3 ไมครอน( กรองpm2. 5อยู่หมัด)​ ดีขึ้นมาหน่อย 0.1 ไมครอน รุ่นท๊อปบางยี่ห้อในห้าง ก็ราว 0.008 ไมครอน ตอนนี้ เล็กที่สุดในตลาด 0.0024 ไมครอน ไปสำรวจตลาดกันเอาเอง... ถามว่าทำไมยิ่งเล็กยิ่งดี.. อ่าว ก็อนุภาคไวรัส แบคทีเรียต่างๆมันเล็กจิ๋ว.. ไวรัสซารส์ เนี่ย 0.06 ไมครอน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ 0.098ไมครอน มันก็ลอดผ่านแผ่นกรอง 0.3 0.1 ไมครอนมาได้สบายๆอยู่แล้ว



2. แผ่นกรอง HEPA เท่านั้น ถึงจะมีคุณภาพ : HEPA มีหลายเกรดอีก แบ่งตามความละเอียดตามข้อ 1. ที่สำคัญ Hepa มีหลายเกรดมาก ยิ่งกรองได้มากกว่ายิ่งแพง เครื่องจีนยี่้ห้อที่กำลังแห่กันซื้อ ก็ไม่ได้ใช้ hepa​ ที่ดีที่สุด เทียบราคาแล้วก็น่าจะเข้าใจได้


3. ระบบ ปล่อยประจุ : พวกนี้ระยะยาว ปล่อยโอโซน แม้จะมีการรับรองว่าปล่อยน้อยมากไม่อันตรายต่อมนุษย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าไม่มีเลย (มันเป็น by product) โอโซนที่ออกมาอาจระคายเคือง ทำลายเนื้อเยื่อตา จมูก ก็ลองคิดดูว่านอนดมสารพิษที่เป็นผลข้างเคียงจากการทำลายเชื้อโรคในอากาศ ทำให้อากาศแห้งกว่าปกติด้วยนะ พวกนี้เบบี๋ คนชรา คนมีโรคทางเดินหายใจ ไม่อยากให้ใช้นะฮะ (นี่ไอเป็นเดือนๆและใช้มาก่อนหลายยี่ห้อ เลยรู้ซึ้ง)​


4.บางยี่ห้อระบบปล่อยประจุ/UV จะใส่ถังน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ (เพราะตัวระบบเครื่องอาจะทำให้อากาศแห้ง)​แต่ถามหน่อยฮะ น้ำนี่น้ำอะไร เปลี่ยนบ่อยไหม หรือใส่น้ำแล้วใช้ไปเรื่อยๆเป็นเดือนๆ ลองคิดถึงเตารีดไอน้ำ เวลาวางน้ำทิ้งไว้ น้ำเป็นตะกรันอ่ะ..ความชื้นที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในผู้ใหญ่ และเด็กบางคนได้ด้วยนะ

เครื่องกรองอากาศ เลือกซื้ออย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินฟรี

5.ความหนาของแผ่นกรอง ยิ่งยาวหรือหนามากยิ่งดี : ยิ่งหนายิ่งดี ลองคิดดูว่าแผ่นกรอง 1 เมตร 5เมตร 9 เมตร 12เมตร ที่วนๆขดๆอยู่ด้านในเครื่อง อากาศมันจะต้องผ่าน ถ้ามันบาง มันจะกรองได้ดีไหม


6.การหมุนเวียนของอากาศ CADR ยิ่งมาก ยิ่งดี ( แต่ส่วนมากยิ่งหมุนเยอะ หมุนแรง เสียงจะเริ่มดัง)​

7.กินไฟต่ำ, เดซิเบลต่ำ ไปเอาตัวเลขมาเทียบ อย่าเชื่อโฆษณาว่ามันต่ำ

8.บางยี่ห้อ เพิ่มมูลค่าการตลาดเข้าไปด้วยการเพิ่มชั้นกรอง แล้วแต่จะสรรหามา แต่ถ้า HEPA มันดีตั้งแต่แรก มันก็จบแล้วไง



9. การรับประกันเครื่อง :

9.1 เห็นยี่ห้อประหลาดๆผุดขี้นมากมาย นำเข้าจากจีนบ้าง อะไรบ้าง ขอถามนิดนึงว่า เสียเงินหลายพัน หรือหลักหมื่น จะซื้อทีก็คิดแล้วคิดอีก พวกนี้เวลาเครื่องเป็นไร นางอยู่ซ่อมให้ไหม ถ้าจะซื้อก็ดูตรงนี้ด้วย

9.2 อะไหล่ บางอย่าง ทางบริษัทที่ขายหรือนำเข้า จะผลิตไปอีกนานเท่าไร ไม่ต้องอะไรนะ TV ที่ซื้อมา ยี่ห้อ S. เป็น smart tv ซื้อมา3ปี นี่อะไหล่บางตัวไม่มีแล้ว



10.ความถี่ในการเปลี่ยนแผ่นกรอง : มีตั้งแต่ 6 เดือน 1 ปี 2ปี เห็นสูงสุดในตลาด 5 ปี เอามาบวกลบคูณหารแล้ว ยิ่งนาน คือแผ่นกรองหนา ยาว มีอายุการใช้งานที่นาน คิดเป็นเงินออกมา ถูกกว่าหรือเท่ากับรุ่นที่เปลี่ยนทุก 6 เดือน หรือ2ปี ไปหายี่ห้อเอาเองนะฮะ

เครื่องกรองอากาศ เลือกซื้ออย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินฟรี

11. การกินไฟ ยิ่งต่ำยิ่งดี : พวกที่ใช้ UV / ปล่อยประจุ พวกนี้ส่วนใหญ่จะร้อนเร็วนะคะ เรื่องค่าไฟไม่กลัวหรอก แต่มันเปิดเครื่องนานๆแล้วมอเตอร์ร้อน น่ากลัว


12. แสงไฟข้างเครื่อง จอ LED : เหมือนไม่กระทบ แต่กระทบต่อคุณภาพการนอน บางเครื่องจอมันสว่างมาก นอนไม่หลับ แก้ปัญหาโดยการเอาผ้ามาคลุมจอ แต่ใหม่ๆเดี๋ยวนี้เห็นสามารถปิดแสงไฟได้ อันนี้ดี เวิร์ค สนับสนุน


13. พื้นที่ในการกรอง แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งพื้นที่กว้างยิ่งดี ต้องเลือกให้เหมาะกับบ้านตัวเอง : แต่บางยี่ห้อก็เคลมเวอร์วังมาก สมมุติบอกว่า กรองได้ 40-80 ตรม. ก็ไปดูสิว่า ตรม.ที่70 80 คุณภาพอากาศอาจจะต่ำลง


14. อายุการใช้งานแผ่นกรอง/ความถี่ในการเปลี่ยน : บางยี่ห้อเครื่อง18, 000-22, 000 เปลี่ยนแผ่นกรองปีละ10, 000เลยทีเดียว บางยี่ห้อเครื่อง10, 000 แผ่นกรองปีละ6, 000 (สมมุติ: บางแผ่นกรอง อาจราคา2500 อายุการใช้งาน2ปี ก็เอามาหาร2 ด้วยนะคะจะออกมาเป็นรายปี) หลายยี่ห้อเปลี่ยนแผ่นกรองทุก 3-6เดือน บางยี่ห้อ3ปี 5ปี ต้องเอามาคิดดีๆนะ


ที่สำคัญพอเรามีเครื่องกรองอากาศแล้ว อย่าลืมล้างแผ่นกรองหยาบทุก 2-3สัปดาห์นะคะ ไม่งั้นมันตัน อากาศจะเข้าไปกรองไม่ได้ และอีกอย่างถึงจะมีที่กรองอากาศแล้วอย่าลืมรักษาสุขภาพ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย เพียงเท่านี้โรคภัยก็ไม่ถามหาแล้วค่ะ

 



เครดิตแหล่งข้อมูล : Sirilada Mongkolrattanaroj

เครื่องกรองอากาศ เลือกซื้ออย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินฟรี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u13475857
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 01:44 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์