เมื่อหนุ่มฝรั่งกับชายไทยจะทะเลาะกันเพราะเหตุจากสีลิปสติกบนปาก

เมื่อหนุ่มฝรั่งกับชายไทยจะทะเลาะกันเพราะเหตุจากสีลิปสติกบนปาก


เรื่องนี้กำลังเป็นที่สนใจและแชร์กันมากในโซเชียลเน็ตเวิร์คขณะนี้ กับ มหกรรม(เกือบ)วางมวยกลาง MRT ระหว่าง หนุ่ม ฝรั่ง และ ชายไทย ซึ่งมีต้นเหตุมาจาก สีปาก ของ สาวนางหนึ่ง ซึ่งมาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังกันทาง pantip.com

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปลองอ่านกันดูค่ะ

เมื่อชายต่างชาติกับชายไทยจะทะเลาะกันในรถไฟใต้ดินโดยมีสาเหตุมาจากสีลิปสติกบนปากของเรา

‘เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราโดยตรง อยากเอามาแชร์
โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบแต่งหน้าเล่น บางทีทาลิปสติกสีสดแล้วอาจจะดูแปลกตา แต่ด้วยความชอบเราก็ทาแบบนั้นออกไปจากบ้าน และเมื่อวานนี้ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น มันก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องของทัศนคติความชอบของคนไทย มาตรฐานความสวยแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ แต่มันดันเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ชายไทยแสดงอาการออกมาได้ไม่โอเค จนฝรั่งที่อยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินถึงกับต้องออกมาพูด

จุดนี้เราแท็กห้องโต๊ะเครื่องแป้งเพราะมันเกี่ยวกับความสวยความงามจากการแต่งหน้า

เมื่อวานไปเทอร์มินอล 21 ได้เสื้อกล้ามสกรีนข้อความภาษาอังกฤษตลกๆ มาสองตัว คือมันก็ไม่ตลกมาก แต่มันก็เล่นขำ แฝงมุก เหลือแต่ไซส์ใหญ่ก็เอามา ตัวนึง L ตัวนึง XL ใส่สบายยยย ช่วงเดือนในห้างนี่คนมองสีปากเยอะมาก มันเข้มกว่าในรูปมากเกือบจะไปดำละ 5555555555 มีเด็กคนนึงพูดว่า แม่ๆ ดูพี่คนนั้นสิ ปากสีม่วง.. เราก็แบบอมยิ้มข่า อยากบอกว่านี่มันแดงนะจ๊ะน้อง

ขากลับขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT วันนี้ ตอนก้าวเข้าไปก้าวแรกมีผู้ชายหัวเราะออกมา เราแบบหัวเราะอะไรฟระ หันไปมอง แล้วได้กลิ่นแอลกอฮอล์คือดูหน้าแล้วกรึ่มๆ เราก็เดินเขยิบหนีไปอีกฝั่ง ตรงกลางเรามีผู้ชายฝรั่งผมทองมัดจุกวัยรุ่นๆ คนนึง อีกคนน่าจะวัยผู้ใหญ่แบบเราแต่แก่กว่ายืนอยู่ใกล้ๆ กันสองคน


เราก็ยืนจับราวจนมีคนลุกถึงได้นั่ง

ระหว่างนั่งอยู่ก็มองไปเรื่อยๆ จนเห็นฝรั่งวัยผู้ใหญ่ที่ว่านี้ยืนคุยกะใครหน้าซีเรียสมาก ตอนแรกคิดว่าเรียกแฟน แบบแฟนนั่งอยู่ แต่มองไปมองมาเหมือนกำลังจะทะเลาะกับใคร

เราก็หันไปมองชัดๆ คนในรถไฟฟ้าใต้ดินก็เริ่มตีวงออกห่างจนแบบเราเห็นชัดขึ้นว่าคู่ที่ทะเลาะด้วยนั่นคือผู้ชายที่กรึ่มๆ มากับผู้หญิง เราก็แบบอะไรกันแล้วทะเลาะแบบนี้นี่คุยกันยังไง เราก็พยายามฟัง ได้ยินทำนองว่า คุณไม่ควรทำอย่างนี้นะ มันไม่โอเคสำหรับผู้หญิง
เราก็ยืนขึ้นละเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็รู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังพูดถึงนั่นคือเรา! เราแบบเดินเข้าไปตรงกลางเลย 55555555555 จุดนั้นคือแบบเกี่ยวอะไรกับฉัน ฝรั่งก็บอกว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนหัวเราะเล่นเรื่องคุณ ผมยืนตรงนี้มาสักพักแล้ว ผมทนไม่ได้ มันไม่โอเคเอามาก ที่เขาจะมาทำแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องตลกเลย เพราะคุณก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขา

เราแบบ เหยยยยยยยยยย ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไปเราโอเค (ในใจนี่คือคิดว่ารายนั้นคงต้องล้อเรื่องสีปากเราแน่ๆ เพราะมันไม่มีอย่างอื่นจะโดดเด่นไปกว่านี้ละที่จะหยิบมาพูดถึงได้)
คนไทยเริ่มด่าหยาบคายออกมามาก ฝรั่งก็ยังยืนนิ่ง เราแบบอยู่ตรงกลาง เราเข้าไปขอโทษคนไทยคนนั้นแทนฝรั่ง คือเราไม่อยากให้มีปัญหากัน เพราะตอนนั้นเรื่องมันเริ่มแรง เสียงดัง คนหันมามองเยอะมาก ทั้งไทยทั้งฝรั่ง เราทำได้แค่พยายามห้าม แต่คนไทยนั่นไม่ฟังเรา ผู้หญิงของเขาก็กันๆ ฝรั่งยังยืนเฉยแล้วยังยืนยันคำเดิมว่ามันไม่โอเค จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้หรอกนะยู

ตอนนั้นมันจะถึงจุดพีคละ ผู้หญิงฝั่งคนไทยเริ่มจะเอาไม่อยู่ เพราะเขาทำท่าจะมาแจกหมัดฝรั่งแล้ว เรายังยืนตรงกลาง ยังห้ามอยู่ มองไปซ้ายขวานี่วงกระจาย มีคนหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายอีก จุดนั้นรถไฟฟ้าถึงสถานีอะไรไม่รู้จอดพอดี เราก็ลากฝรั่งออกมาเลย ดึงมือออกมา ออกมากับเราอย่าอยู่ในขบวนนั้น เราไม่อยากให้มีปัญหาเพราะเรื่องนี้ เดี๋ยวมันเป็นเรื่องเป็นราว ตอนแรกเขาจะไม่ออกมา แต่ก็ต้องตามเราออกมาเพราะเราลาก แล้วอีกอย่างมีคนไทยที่ลงสถานีเดียวกัน บอกว่าอย่าเข้าไปเลย เราก็ปรามจนขบวนนั้นออกจากชานชาลาไป

ตอนพาเขาออกมา เขาบอกคุณรู้มั้ยจริงๆ ผมไม่ได้กังวลอะไรเลยถ้าจะต้องเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาจะเข้ามาชกผม เพราะผมก็เพิ่งกลับมาจากค่ายมวย เหมือนเป็นนักมวยอยู่แล้ว โดนต่อยมาทุกวัน ถ้าผู้ชายคนนั้นต่อยมาผมอะเฉยๆ แต่มันคงจะกลายเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเขาแน่นอน ผมต้องขอบคุณๆ นะแบบที่เข้ามาปกป้องมาช่วยผม จริงๆ คุณจะอยู่เฉยๆ ก็ได้ และคุณเองก็ถือว่าใจเย็นดีมากที่ทำตัวไม่สนใจไม่อะไรทางตัวผู้ชายเขา
ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกมาก คือเขาไม่ใช่คนหล่ออะไรนะแต่ใจเขา ทัศนคติเขาทำให้เราอยากขอบคุณเขาที่ช่วยปกป้องเราในเรื่องที่แม้แต่เราเองก็แบบปล่อยวางไปนานแล้ว เพราะมันมีไม่กี่อย่างหรอกที่คนไทยจะหยิบขึ้นมาทำเป็นเรื่องตลกได้ เช่นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เราชินมาก เราบอกไปอีกว่าอาจจะเพราะสีปากเราก็ได้มันคงแปลกมาก 5555555

เขาเองก็แบบสำหรับเขามันไม่โอเคนะ จะปล่อยแบบนี้ไม่ได้ ถ้ามีคนมาหัวเราะเยาะภรรยาเขา เขาก็คงเดินเข้าไปเอาเรื่องแน่นอน เขาก็คงจะทำแบบนี้ แล้วเขาก็แนะนำตัวกับเราว่า เออนี่ ผมชื่อแอนดรูว์นะ ยื่นมือมาจับทักทาย เราก็แนะนำตัวไปว่าเราชื่อนัท แอนดรูว์ก็ถามเราว่าเป็นลูกครึ่งหรอ เราบอกเปล่า เขาก็บอกว่าจริงๆ แล้วปากคุณก็สีสวยดี (จุดนี้แบบเราอายอะ ไม่กล้ามองหน้ามาก เพราะว่าเราเสียความมั่นใจไปละ เราก้มๆ เงยๆ แต่เขาจ้องมาแบบจ้องอย่างจริงใจ) แล้วก็พูดต่อว่า คุณก็ดูดีไม่ได้ไม่ดีอะไร ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะมาทำนิสัยแบบนี้ทำไม มันคือการล้ำเส้นและไม่ให้เกียรติเอามากๆ

เราบอกโอยเราโดนล้อมาเยอะ ทั้งเรื่องหน้าตา หรือว่าหุ่นตอนนี้เองก็คือปัญหาที่เราแบบเผชิญอยู่ทุกวันเมื่ออยู่ประเทศไทย เขาก็แบบนี่คุณคนไทยจริงๆ หรอ เราก็แบบจริงสิ แอนดรูว์ก็ถามว่าเราใส่คอนแทคเลนส์หรอ เราแบบใช่ๆ เราสายตาไม่ดี 55555 สักพักเขาก็ชวนเราเขยิบไปสองสามประตู เผื่อรายนั้นวกกลับมา แล้วจะเป็นเรื่องเป็นราว เราก็ขยับเดินตามไป เรายกมือไหว้ขอบคุณ เพราะเราซาบซึ้งอะ คนไทยเองเป็นฝ่ายที่สามารถเอาเรื่องของคนอื่นมาทำเป็นเรื่องตลก แต่ฝรั่งเลือกที่จะออกมาทำอะไรซักอย่าง ยืนขึ้นปกป้อง และแบบชี้ให้เห็นว่าไอทัศนคติแบบนี้ควรหมดไป ไม่ก็ทำนิสัยให้มันโอเคกว่านี้หน่อย เพราะมันไม่ควร

ณ ตอนนั้นเองเราแบบจะตอบแทนใจยังไงดีวะ นึกออกว่ามีเสื้อกล้าม เออๆ นี่เราให้เสื้อกล้ามที่เราซื้อมาให้กับเขาไป 555555555555555 มันไซส์ XL พอดี เราก็แบบฮือ เอาไปเถอะอยากให้คุณ คุณรับไว้เป็นของขอบคุณละกันนะ แต่เราไม่รู้ว่าจะใส่ได้เปล่า แต่เหมือนจะใส่ได้เลย แอนดรูว์ก็คนดีจริงๆ ปฏิเสธตอนแรกว่าเนี่ยมันเป็นของคุณนะ ไม่เป็นไรหรอก จนตอนหลังเขาก็เออรับไปแล้วบอก ผมคิดว่าผมใส่ได้นะ คุณอยากให้ลองใส่เลยไหมล่ะ แล้วก็หยิบเสื้อมาสวมหัวทันที คือเสื้อกล้ามที่เราซื้อมาเนี่ยมันพอดีตัวเขามาก เหมือนนี่ซื้อมาให้เขา 5555555555 แล้วข้อความบนเสื้อคือแบบลองดูในภาพที่เราลงนะ ตอนใส่อยู่เขาก็พูดติดตลกหน่อยว่า ขอโทษที่มันอาจจะดูไม่ค่อยเซ็กซี่เท่าไหร่ เรานี่แบบโอยใส่ได้ก็ดีแล้ว

ยืนรอรถไฟสักพักรถไฟฟ้ามาเข้าไปทีนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราคุยกับเขานิดหน่อย เขาบอกว่ายูนี่มีจิตใจที่ดีนะ กล้าที่เข้ามาในวงตรงนั้น จริงๆ ผมก็ต้องขอบคุณที่เหมือนมีคุณมาซัพพอร์ต และถ้าผู้ชายที่เอามือถือมาถ่ายวิดิโอไว้ นำคลิปไปลงพันทิปนะ ผมจะดีใจมากเลย เพราะอยากให้คนไทยหันมาใส่ใจเรื่องเล็กๆ แบบนี้มากขึ้น เรายิ่งฟังแล้วแบบ โห ยอมใจมากๆ เรานี่อายนะ ไม่อยากให้เอาไปลง คือตอนนั้นหน้าแย่มาก หน้าเขาเรายังไม่อยากจะมองเลย กินแกงกะหรี่มาเลอะฟันเปล่าก็ไม่รู้ 555

ระหว่างรถวิ่งไป เราก็คุยกับเขาต่อไปเรื่อยๆ เราได้ขอไลน์เขาไว้ เพราะรู้ว่าเขาเป็นนักมวยอยู่ไทยมาได้ 5 ปีกว่าแล้วมีเพื่อนมีฝูง และดูเป็นคนดีที่เราอยากมีไว้ในชีวิตเรา แบบแค่เป็นเพื่อนก็ดีแล้วอะคนแบบนี้ แต่ลึกๆ จากใจ จริงๆ เราก็ขอบคุณเขานะที่ออกมาปกป้องแบบนี้ จะโดนต่อยก็เพราะเรื่องเรา ทั้งที่เราคือคนแปลกหน้าสำหรับเขา เราได้คุยกับเขาเรื่องนี้จนแบบเขาเกือบจะเลยสถานีที่ตัวเองจะลง เราต้องบอกว่าถึงแล้วเขาถึงวิ่งออกไปแล้วบอกยินดีที่ได้รู้จักนะ
จากเหตุการณ์ตรง จุดนั้นเรารู้สึกรักตัวเองขึ้นมาทันที
ปอลอเรื่องอาจจะวกวนงงๆ เราเขียนสดๆ จากที่จำได้ คือไม่มีไดอารี่ก็อยากเขียน เพราะนี่ไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี กลัว ขอบคุณ ดีใจ เสียใจแต่ตอนนี้รู้สึกรักตัวเองจริงๆ

และหลังจากเหตุการณ์นี้เราเองก็ยังคงจะทำในสิ่งที่เราชอบต่อไปนั่นก็คือการแต่งหน้าแหละค่ะ จะทาลิปสีสดสีแปลกๆ จริงๆ มันก็ปากเรา แต่ที่มันเกิดเรื่องขึ้นได้เพราะทัศนคติของคนที่มองมามันเปลี่ยนกันไม่ได้ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้ามีใครมาล้ำเส้นเรา จากนี้เราเองก็คงจะตอบกลับไปบ้างเหมือนกัน

---------------

หลังจากเหตุการณ์นี้เราได้คุยกับแอนดรูว์ และเขาก็ได้เขียนเรื่องราวของเราไว้เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เป็นมุมมองที่เขาเห็น ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือเรื่องของเรานี่แหละค่ะ ตอนนี้เราขออนุญาตเขาก่อนว่าเขาจะให้เอามาลงไหม เพราะบางส่วนมีชื่อคนที่เขาแท็กถึง แล้วเราอาจจะต้องเอามาตัดออก จะได้เห็นภาพเหตุการณ์ทางฝั่งเขาที่เขาส่งอีเมล์มาไว้ให้เราอ่าน เราเลยมั่นใจเต็มๆ ว่ามันเป็นเพราะสีปากเรา ‘


เมื่อหนุ่มฝรั่งกับชายไทยจะทะเลาะกันเพราะเหตุจากสีลิปสติกบนปาก

ที่มาจาก >>คุณ ไม่บันยะบันยัง (pantip.com)
สมาชิก pantip.com

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์