ผวาหนัก! เมื่อ 2 สาว ออกมาเล่าวินาทีระทึก! หวิดตกเป็นเหยื่อภัยร้าย

ผวาหนัก! เมื่อ 2 สาว ออกมาเล่าวินาทีระทึก! หวิดตกเป็นเหยื่อภัยร้าย

เป็นเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งโลกโซเชียลออนไลน์ในขณะนี้ หลังจากผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเตือนภัยไปยังกลุ่มเฟสบุ๊ก "ทุกเรื่องราวในราชบุรี" เมื่อเวลา 09.04 น.ของวันที่ 26 กันยายน 2559 โดยระบุข้อความว่า "เมื่อคืนเวลาเที่ยงคืนกว่า ๆ เราถูกจี้มันเอากุญแจรถเราและกระเป๋าตังเราไป ในนั้นมีโทรศัพท์ 2 เครือง แล้วถอดเสื้อผ้าเราหมดเลยพยายามจะขมขี่แต่เราหนีออกมาได้ทัน ระวังกันด้วยน่ะตรงสะพานโคกหม้ออ่ะ"

ซึ่งหลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวไปได้ไม่นาน ก็ได้มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและสอบถามรายละเอียด โดยเจ้าของเรื่องได้เล่าว่า สถานที่เกิดเหตุนั้น ก็คือ ทางลอดใต้สะพานข้ามคลองโคกหม้อ บนถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเส้นทางดังกล่าว หลายคนบอกว่า มันเป็นเส้นที่เปลี่ยวมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่บนถนนสายใหญ่ ก็จริง แต่ก็อันตรายมากเลยทีเดียว ซึ่งในขณะนั้นผู้โพสต์เพิ่งจะกลับมาจากเลิกงานและต้องกลับเส้นทางนั้น ทั้งนี้ได้เข้าไปแจ้งความเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สมาชิกบางราย ก็เข้ามาโพสต์ว่า ก่อนหน้านี้ ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวมาแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในสถานที่เดียวกันนี้

โดยรายแรก คือ นายสุทัศน์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 23 ปี ชาวบ้านในตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์โดนมีแฟนสาว ออกมาจากบ้านประมาณ 05.00 น. เพื่อเดินทางไปทำงานใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ซึ่งก็เดินทางมากันตามปกติทุกวัน

ในวันนั้น แฟนสาวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะกลับบ้านพักหลังจากที่ส่งตนเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้ากลับเส้นทางเดิมโดยจะต้องขับขี่ผ่านรอดใต้อุโมงค์สะพานดังกล่าว เพื่อข้ามกลับไปยังถนนอีกฝั่ง ในขณะที่ขับขี่มาที่บริเวณใต้อุโมงค์สะพาน จู่ๆก็มีชายรูปร่างสูงขาวขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าคลิกออโตเมติกสีดำ ขี่เข้ามาประกบและขวางเพื่อให้หยุด จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ใช้มือเอื้อมจับที่หน้าอก หอมแก้ม และพูดกับแฟนสาวของตนเองว่าขอมีเพศสัมพันธ์ 1 ครั้ง ทำให้แฟนสาวตกใจและร้องให้คนช่วย โจรโรคจิตก็รีบชักกุญแจรถของหญิงสาวพร้อมทั้งเอื้อมมือมาเพื่อจะชุดกระชากให้เข้าไปหลังกำแพงใต้สะพานเพื่อหมายที่จะข่มขืน ในจังหวะนั้นด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตกลับมาหาตนเองที่ทำงานซึ่งอยู่ใกล้กันเพียง 300 เมตร คนร้ายก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาแต่ไม่ทันจึงได้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ตนจึงพาแฟนสาวไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เรื่องก็ยังเงียบ

ส่วนอีกราย คือ น้องทราย (นามสมมุติ) วัย 24 ปี  ชาวบ้านตำบลพิกุลทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้เล่าว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2559 เวลาประมาณ 00.45 น. เป็นเวลาเลิกงานของเธอและต้องเดินทางกลับบ้านพักที่ตำบลพิกุลทอง และต้องขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าวเพื่อที่จะยูเทิร์น และต้องรอดใต้อุโมงค์สะพานดังกล่าว เป็นประจำทุกวัน แต่คืนนั้นกลับเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน ในขณะที่ตนกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์รอดใต้สะพาน จู่ๆ มีชายรูปร่างสูงสวมหมวกแก๊บขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าคลิกออโตเมติกสีดำมาชนที่ช่วงท้ายตนจึงร้องด้วยความตกใจ และชายคนดังกล่าวก็ขับขี่รถมาประกบข้างด้านขวาพร้อมทั้งกระชากกระเป๋าและลูกกุญแจรถไป จากนั้นขับขี่รถไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนเองอยู่ในอาการหวาดกลัวจึงรีบวิ่งหนีขึ้นออกมาจากใต้สะพาน ที่สวนทางกลับคนร้าย เมื่อเห็นคนร้ายวิ่งรถหนีไปตนจึงรีบวิ่งกลับมาดูรถเครื่องของตนด้วยความห่วงรถและตกใจ จู่ๆคนร้ายก็ขับรถกลับมาพร้อมทั้งจดรถขวางทางไว้และฉุดกระชากรากตนเองไปที่หลังกำแพงเสาใต้สะพาน ซึ่งเป็นกำแพงทึบไม่มีคนเห็น หลังจากนั้น ใช้มือจับที่คอและกดลงกับพื้นพร้อมทั้งพูดกับตนว่า "ให้กูทีหนึ่งก่อนแล้วกูจะให้ของมึงคืนหมดทุกอย่าง"

จากนั้นคนร้ายก็ถอดเสื้อผ้าของตนออกจนร่างกายเปลือยเปล่า และบอกว่า "รอกูอยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวกูเอารถไปเก็บก่อนเดี๋ยวกูมา" ซึ่งคนร้ายก็หอบเสื้อผ้าของตนไปด้วยทั้งหมดเพื่อเดินไปเก็บรถที่จอดขวางถนนใต้สะพานอยู่เพราะกลัวคนผ่านมาเห็น ในจังหวะที่คนร้ายเดินไปนั้นตนจึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมาทั้งๆที่เปลือยเปล่า และร้องขอให้คนช่วย ซึ่งคนร้ายก็ได้รีบขับขี่รถตามมาตนก็ได้วิ่งข้ามไปที่เกาะกลางถนน พร้อมโบกรถขอความช่วยเหลือ และมีพลเมืองดีที่ขับรถยนต์วิ่งผ่านมาและจอดรถถามตนว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตนเองก็บอกให้ขับรถตามคนร้ายไปเขาจะข่มขืนหนู พลเมืองดีก็ได้รีบขับรถตามไป แต่คนร้ายก็ฉวยโอกาสรีบบิดรถหายไปด้วยความเร็วในซอยเปลี่ยวขาเข้าเมืองราชบุรี ตนจึงรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานในปั๊มน้ำมันและขอเสื้อผ้าสวมใส่ก่อนที่จะติดต่อแม่ให้มารับกลับบ้านและเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เพื่อติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการเตือนภัยสาวๆให้ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางในเวลาดึกๆ เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มเฟสบุ๊กทุกเรื่องราวในราชบุรี

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์