สวนทางทันควัน!! ผู้เคยร่วมงาน น็อต #กราบรถกู เผย! ชีวิตอีกมุมของ เจ้าตัว

สวนทางทันควัน!! ผู้เคยร่วมงาน น็อต #กราบรถกู เผย! ชีวิตอีกมุมของ เจ้าตัว

เป็นกระแสทอร์คออฟเดอะทาวน์ในสังคมอยู่ในขณะนี้ โดยไม่มีที่ท่าว่าจะไม่สิ้นสุดง่ายๆ สำหรับหนุ่ม "น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล" ดาราและพิธีกรหนุ่มค่ายยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย หลังจากมีคลิปฉาวต่อยหน้าคนขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถหรูมินิคูเปอร์ของตัวเอง พร้อมวลีเด็ด "กราบรถกู!!!"  จนทำให้เจ้าตัวโดนคำด่าจากทุกช่องทางในโลกโซเชียลออนไลน์แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว


แต่ในทางตรงกันข้ามกันนั้น มีผู้ใช้เฟสบุ๊กนามว่า "Pongsuk Nuishow Hiranprueck" ได้ออกมาโพสต์ว่า เคยร่วมงานกับน็อต บอกว่าน็อตเป็นคนที่ค่อนข้างใช้ได้มีความนอบน้อม วาจาสุภาพ ตั้งใจทำงาน พร้อมกับเปิดเผยบางสิ่งบางอย่างที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนให้ทราบในสถานะดังกล่าว โดยระบุข้อความเอาไว้ว่า


" ... กรณีน็อต อัครณัฐ ...
***เขียนไว้ก่อนนายน็อตออกมาแถลงข่าวตอนตีหนึ่งซึ่งคือ "พัง"*** คุณผู้อ่านจะอ่านหรือไม่อ่านมันก็ได้นะครับ เพราะมันยาว มันมี 5 ข้อ+5.1/5.2 และบทสรุป ..ถ้าคุณตัดสินใจดีที่จะอ่าน คุณสัญญากับผมก่อนว่าจะอ่านมันจนจบ ไม่อ่านแต่หัวๆแล้วรูดลงไปคอมเมนต์นะ~ เค้าตกใจกับบางคน***
กรณีน็อต อัครณัฐ ...


...ผมเคยร่วมงานด้วยกับน้องมัน 1 ครั้ง ในรายการ #VoicemasterThailand ผมไปเป็นแขก น้องเป็นพิธีกร ... จัดว่าเป็นคนนอบน้อมคนหนึ่ง พื้นฐานเป็นสุจริตชน เรียกง่ายๆว่า 'เป็นคนใช้ได้' วาจาสุภาพ ตั้งใจทำงาน รับฟังคอมเมนต์ (แววตาแสดงออกถึงความชอบฟังด้วย) นี่พูดจากการเห็นด้วยสายตาตนประมาณ 4 ชม. ที่ทำงานชิ้นนั้นด้วยกันเท่านั้น อย่ายึดเอาเป็น Fact ..ความรู้สึกแรกเมื่อรู้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้คือคนในคลิปคือ "ตกใจ"
ผมวิเคราะห์สถานการณ์ "น็อต-หลุด" ครั้งนี้แบบนี้ครับ...

1. รักรถมากกกก (คนเรามีสิทธิ์รักรถนะ) และจากบทสัมภาษณ์ต่างๆตอนสติดีก่อนออกอิทธิฤทธิ์นั้นก็แสดงให้เห็นชัดว่ารักรถมากจริงๆ


2. ก่อนหน้าวันนี้ แกต้องเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับมอเตอร์ไซค์ไทยสไตล์ชนแล้วหนี อาจจะเคยโดนกับตัวเอง..กับคนรัก..หรือกับครอบครัว หรือกับใครซักคนที่ส่งผลให้ทัศนคติที่มีต่อมอเตอร์ไซค์เป็นลบ เรียกว่าเห็นแล้วรำคาญ


3. พอโดนชนแล้ว (เข้าใจว่า) หนี ในตอนแรกจึงโกรธมาก รถติดอยู่ทำอะไรไม่ได้ คงนั่งด่าเยสเป็ดเยสห่านอยู่กับเพื่อนในรถกันจนควันออกหู กูจะฆ่ามรึงงงงง~ คุณคงเคยใช่ไหม? ที่โกรธจนอยากฆ่าคนทางวาจา ไม่ได้จะฆ่าจริงๆ แต่มันชิงด่าออกมา เพราะปากเร็วกว่าใจ ไม่ทันสติตัวเองแหละเรียกง่ายๆ


4. พอมอเตอร์ไซค์แกวนกลับมาหวังจะเคลียร์ (จากคำกล่าวอ้างคือจะขับไปตามแท็กซี่ที่เบียดเลนเขามา ทำให้ไปชนรถมินิ) พอเห็นเข้าเลยสติหลุดเลยทีนี้.. ตอบตัวเองได้ว่าถ้ากูเปิดประตูไปคว้าตัวมันมาได้คงต้องสั่งสอนซักยกให้รู้สำนึก ...ก็เป็นที่มาของจุดเริ่มต้นคลิปสนั่นโซเชียลประจำบ่ายวันอาทิตย์ (เวลาทองของอะไรที่มันฮิตระดับปรากฎการณ์มักเกิดเวลานี้... คือเป็นเวลาที่ไม่มีอะไรจะเสพกันพอดี พอเหยื่อมาก็โอชะกันถ้วนหน้า)


5. "น็อต-หลุด" มีเจตนาอยาก (สั่ง) สอนคนชนแล้วหนี (ที่ตนเองอาจมีประสบการณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้วเป็นทุน) แต่ที่น็อตทำพลาดจริงๆจังๆเลยคือ...


5.1  ไปต่อยเขา : ถึงจะเป็นฝ่ายถูก (ถูกชน) แต่ไปไล่ต่อยผู้คนเขาได้ที่ไหน? (ขอชื่นชมคนที่ตะโกนห้ามเข้ามาในคลิปว่า 'ต่อยไม่ได้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ' คนนี้หล่อมาก) การเปิดฉากใช้กำลังก่อน แม้คุณถูก 100% คุณก็กลายเป็นคนผิดได้เลย เพราะโลกแห่งความจริงมันไม่ใช่ว่าเรากำลังเล่นหนังแอ๊คชั่นฮีโร่ ต่อยครบ 3 ครั้งนี่แอนตาซิลไม่จ่าย แต่อันตพาลเรียกมึง'พี่'เลยน้องน็อต!


5.2  ไปให้เขากราบรถ(กู) : อันนี้วลีทองเลย #กราบรถกู วลีนี้จะถูกใช้เป็น Social Sanction ตัวน็อตและคงจะเป็น Cyberbully ที่ติดชีวิตน็อตไปอีกนาน ตลก/นักพูด/นักเขียน/นักสร้างคลิปเสียดสีจะใช้วลีนี้เป็นแฮชแท็คฮิตกันไปอีกตราบนานเท่านาน ..ล้อกันยันลูกบวชน่ะว่าง่ายๆ



จบปัญหาผมหงอก ผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีง่ายๆ คลิก!!!!

เรียน Animation 2 ปี เพิ่มโอกาสร่วมงานกับบริษัทเกมชั้นนำในญี่ปุ่น

ทำเป็นอาชีพได้เลย Character Design เรียนจบงานดีรายได้ระดับมืออาชีพ
Ads by Yengo Premium

...เหตุที่หลุดคำนี้ออกมาก็อย่างที่วิเคราะห์ง่ายๆคือ "โกรธจัดจนตามอารมณ์ตนเองไม่ทัน" ...ใจมันอยากสั่งสอนแต่คิดโซลูชั่นไม่ออกในเสี้ยววินาทีนั้นก็เลย "กราบรถกูซะเลยเถอะมรึ้ง~!" มึงไม่โต้ตอบอะไรกูเลย ไหนๆก็ไหนๆวะ~!


เรื่องนี้แม้จะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย (ที่นำพามาจากคดีอุบัติเหตุ) แต่สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ "การไม่ตอบโต้จากหนุ่มมอเตอร์ไซค์" ..เพราะนั่นมันทำให้เขา "ชนะ" ตามประโยคทองของใครซักคน "ยอมก่อน-ชนะนาน"

เห็นชัดๆว่า "การปิดโหมดฟัง" คำอธิบายจากใครที่คุณโกรธเกลียด และ "การด่วนตัดสินผู้คน" มันสร้างความชิบหายต่อสายอาชีพและอนาคตได้ขนาดไหน? เราพิพากษาใครไม่ได้เลยนะ นี่คือความจริงแห่งโลกที่ต้องทำความเข้าใจ


...ถ้าดราม่านี้จะทำให้เรา "ได้ข้อคิดอะไรซักอย่างสองอย่างบ้าง" ผมก็คงฝากคำในเครื่องหมาย "อัญประกาศ" (ในเครื่องหมายคำพูด) สองคำนี้ไว้ให้คุณคิดครับ


เพราะความเลวร้าย (ชั่ววูบ) นี้มันสามารถเกิดได้กับพวกเราทุกคนด้วย ถ้าไม่รู้จักฟังและจ้องแต่จะตัดสินผู้คน ...คนที่มีพื้นฐานที่ดีอย่างน็อตจึงหลุดได้
การถูกรุมด่าในโซเชียลเป็นเรื่องที่น็อตต้องรับผลของการกระทำ แต่ผมไม่แนะนำให้ไปรุมด่าเขาว่า 'ไอ้สร้างภาพ' ใต้ภาพการทำคุณงามความดีต่างๆใน IG ของเขาเลย ความดีคือความดี-ความเลวคือความเลว แต่ถ้าเลวจังๆเพียวครั้ง ก็เทกระจาดความดีเกลี้ยงไปได้ ...ผมมั่นใจว่าเขาเคยมีพื้นฐานของการเป็นคนดีอยู่ในตัวแล้ว ...แต่เคสนี้ 'น็อต-หลุด' ตามที่ผมวิเคราะห์ ส่วนสังคมจะให้โอกาสหรือไม่ ผมไม่ร้องขอให้แน่ๆ เพราะมันขึ้นอยู่กับสังคม***ซึ่งหลังจากแถลงสดตอนตีหนึ่งของเช้าวันจันทร์วันนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า "พัง" *** (อัปเดต 7.39น. ตื่นพอดี)

..ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนดีกว่าครับ หมั่นรักษาอารมณ์ เพราะผมเองก็เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้วหลังใช้ชีวิตบู๊ล้างผลาญกับงานหนักมานาน
สวัสดี ... "

หลังจากที่ได้เผยแพร่ข้อความเหล่านี้ออกไปแล้วนั้นต่างก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์ กดแชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ทั้งที่เห็นด้วย เห็นด้วยบางกรณีและไม่เห็นด้วย

ล่าสุด ผู้ใช้เฟสบุ๊ก "Pongsuk Nuishow Hiranprueck" ได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมว่า " ... ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยกันนะครับ ไม่ใช่แค่ผู้อ่านได้อะไรจากบทความตามที่ผมตั้งใจไว้ แต่ผมก็ได้อะไรเยอะเลยจากงานเขียนเชิง Interactive นี้ นั่งอ่านไปด้วยกันกับผู้อ่านจนนอนดึก (เลยเพิ่งตื่นเนี่ย~) ... ดูแถลงเมื่อกลางดึกสงัดที่ผ่านมาก็ทำให้ผมพบว่าคุณน็อตแกผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง (อีกครั้ง) ที่ยังแสดงความเชื่อลึกๆว่า "การที่ตนเองถูกกระทำก่อนจะทำให้เป็นฝ่ายพลิกกลับมาอธิบายสังคมได้" สังคมไม่ให้อภัยซะแล้ว...


ไม่น่าเลือกแสดงความรู้สึกแบบนั้น (แบบที่ยังมอง "รถเป็นความฝันสูงสุดในชีวิต") อันนี้ส่งเสริมความเป็นวัตถุนิยมเกินไปและไปบังตาความคิดผิดชอบชั่วดี ... ผมยืนยันตรงนี้ว่าที่เขียนบทความ ก็เพื่อต้องการจะสื่อสารจังๆในวรรคหลังๆของบทความนี้เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านบ้างหลังเกิดเหตุการณ์ 'ดราม่ามาแล้วได้อะไร' สังคมไทยควรได้อะไรจากเรื่องนี้?


...เห็นคนโกรธแล้วอย่าไปโกรธตามเค้าครับ เอากรณีนี้เป็นกรณีศึกษา ..คุณครูวิชาสังคมในโรงเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย ควรนำคลิปนั้นไปเปิดในเช้าวันจันทร์นี้เพื่อเปิด Debate กับเด็กนักเรียน นำผลที่ได้จากสังคมออนไลน์ไปชี้จุดให้คำสอนเด็กๆว่า "คนที่โกรธจนตามอารมณ์ไม่ทัน มันเป็นแบบนี้" และสังคมจะไม่ให้อภัยคุณ สอนให้ครบทุกมุมโดยเปิดเวทีสนทนาให้เด็กๆคิดว่าเรื่องนี้เกิดเหตุจากอะไรบ้าง List ขึ้นกระดานดำ...เด็กๆจะได้ข้อคิดมากกว่าการดูคลิปเพื่อเอามันแบบที่เคย


ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลยจากคุณน็อต รู้จักเพียงครั้ง และโดยผิวเผินมากๆ ผมไม่ได้เอาความรู้จักเพียง 4 ชม. มาหาข้ออ้างความชอบธรรมให้เด็กคนนี้ (ไม่เช่นนั้นผมจะไม่ระบุจำนวนชั่วโมงแห่งความผิวเผินนี้ไว้ครับ) แต่ผมปูเรื่องแบบนี้เพราะผมต้องการเพียงจะส่งคุณผู้อ่านไปถึง "คุณค่าต่อการอ่าน" ในตอนท้ายบทความนี้เท่านั้น ... ซึ่งท่านที่ Get ความตั้งใจนี้ก็จะได้มันไปเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตในวันนี้ครับ ..."

ขอบคุณเนื้อหาจาก FB : "Pongsuk Nuishow Hiranprueck" 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์