ลูกนักการเมือง ถูกเลี้ยงดูแบบคุณหนู อยากได้อะไรต้องได้
"ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ฉันมีชีวิตที่ค่อนข้างสบายมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพ่อเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเลี้ยงดูเรามาแบบลูกคุณหนูตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หามาให้ เงินสักบาทก็ไม่เคยต้องหามาใช้เองเลย ความเป็นอยู่ดีมาก ไม่เคยมีปัญหาอะไรเพราะเราเป็นลูกสาวอยากได้อะไรต้องได้"
ใช่ว่าจะถูกตามใจทุกเรื่อง เรื่องเดียวที่ขออยากให้ใช้ชีวิตแบบถูกทาง
"แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะได้ทุกอย่างที่อยากได้เสมอไปนะ เพราะพวกท่านคาดหวังกับตัวฉัน อยากให้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปที่เรียนจบมีงานดีๆ ทำ แต่งงานมีสามีมีลูก ไม่อยากให้เดินทางผิดเพราะท่านรู้ว่า-นไม่ได้ชอบผู้ชาย -นชอบผู้หญิงด้วยกัน ทีนี้ก็เลยเกิดปัญหาว่าท่านจะเป็นห่วงกลัวเราไปไม่รอดเพราะความรักแบบเพศที่สามมันไม่มีอยู่จริง เราก็อธิบายให้พ่อแม่ฟังแล้วว่ายุคสมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ความรักไม่ได้จำกัดแค่เพศชายกับเพศหญิง แต่ความรักมันมีตั้งหลายรูปแบบ ซึ่งคนบางกลุ่มอาจจะยังไม่เข้าใจว่าเพศที่สามก็รักกันได้ แต่งงานกันได้ ช่วยกันทำมาหากินสร้างครอบครัวได้เหมือนกัน ถามว่าพ่อแม่เชื่อเรามั้ยพวกเขาก็คงไม่เชื่อทันทีหรอก มันกดดันนะ เราต้องทำบางอย่างเพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นค่ะ"
ตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อกรุงเทพฯ กำเงิน 3000 บาท เริ่มขายของออนไลน์
"เข้ามากรุงเทพฯ ก็ลำบากมากเรื่องการปรับตัว เพราะเราคิดตลอดว่าต้องพิสูจน์ตัวเองยังไง ทำยังไงดีจะให้มีรายได้โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ แถมต้องเรียนไปด้วยจะหาค่าเทอมเองยังไง เพราะค่าเทอมก็แพงมากๆ ชีวิตนี้ยังไม่เคยหาเงินเองเลยค่ะ จากนั้นก็เลยเปิดกระเป๋าตังค์ดูมีเงินติดตัวมา 3,000 บาท ด้วยความที่เป็นคนชอบเล่นโซเชี่ยลพวกเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรมอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็เลยเห็นคนขายของในเฟซบุ๊ก เราก็คิดว่าเอาวะ..เป็นแม่ค้าออนไลน์นี่แหละง่ายดีลงทุนก็น้อยไม่ต้องเสียค่าที่ขายของ สิ่งแรกที่ขายเลยก็คือพวกของที่ระลึก ตุ๊กตา กิ๊ฟช็อปต่างๆ ก็ขายไปขำๆ เรื่อยๆ ได้กำไรบ้างขาดทุนบ้าง ขายไปขายมาก็เริ่มมีทุนแล้วค่ะตอนนั้น"
เริ่มเส้นทางแม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ
"ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณการให้โอกาสของ พี่โอ กับ พี่น้ำฟ้า ที่ทำให้ปริ๊นมีวันนี้ได้ โชคดีมากที่ปริ๊นติดตามพวกพี่เขามาตั้งแต่วันที่เขาเริ่มก่อตั้งแบรนด์ใหม่ๆ จากที่ปริ้นยังไม่มีอะไรเลย ปริ๊นเอาทุนเข้ามาขายอาหารเสริมแบรนด์นี้ตั้งแต่แรก จากที่วันนึงขายได้แค่วันละไม่กี่กล่อง บางวันก็ขายไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เราก็กัดฟันสู้เพราะอยากพิสูจน์ตัวเอง อยากให้คนอื่นรับเราได้ ไม่อยากให้คนมองว่าเราเป็นลูกคุณหนูกะโหลกกะลาทำอะไรก็ไม่เป็น และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรักของปริ๊นกับแฟนที่เป็นทอมช่วยผลักดันมากๆ ค่ะ เรารู้ตัวว่าเราเกิดมาเป็นเพศที่สาม สังคมก็ยังไม่ยอมรับ 100% อยู่แล้ว ในอนาคตก็มีลูกไม่ได้ แก่ไปใครจะดูแล ยิ่งต้องพิสูจน์ให้ได้มากกว่าเพศหญิงชายหลายเท่า เราเริ่มขายด้วยการใช้ความจริงใจต่อลูกค้า เราไม่โกหก เพราะทำธุรกิจต้องซื่อสัตย์ ดีก็บอกว่าดีไม่ดีก็บอกไม่ดี อีกอย่างคือ ด้วยระบบที่ช่วยในการขาย ที่พี่โอ พี่ฟ้าสร้างขึ้นให้กับตัวแทน มันทำให้เราทำงานง่ายมาก และ เจ้าของแบรนด์หัวใจตัวแทนเขาไม่ขายของตัดราคาเขา ไม่ขายแข่งกับตัวแทนของเรา ทุกคนต้องมีรายได้ รวยไปพร้อมกัน มันก็เลยมีตัวแทนเข้ามามากมายมาช่วยกันขาย มีเงินไปด้วยกัน พอวันนึงมานั่งนับเงินดู อ้าวเฮ้ย..นี่เราเป็นคนรวยไปตั้งแต่เมื่อไหร่(หัวเราะสนุก)"
รวยแบบก้าวกระโดด 1ปี 8 เดือน ขึ้นแท่นอายุน้อย 100 ล้าน
"ก็อย่างที่บอกว่าเคล็ดลับในการทำการค้าคือความจริงใจ ซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบ มันก็เลยมีคนรักเรา อยากสนับสนุนเรามากขึ้น ทุกวันนี้-นบอกเลยว่าตัวแทนทุกคนรวมถึงพี่โอกับพี่น้ำฟ้าคือส่วนหนึ่งในชีวิต เขาสอนทุกอย่างตั้งแต่การโพสต์ขาย เขียนแคปชั่นสอนหมด ตัวแทนก็สอนให้เรารู้จักการรักคนอื่นหวังดีกับคนอื่นผ่านการขาย เริ่มต้นมาแค่ 1 ปี กับ 8 เดือน จนตอนนี้กลายเป็นว่าของไม่ทันขายแล้วค่ะ ออร์เดอร์ล่าสุดที่ลูกค้าสั่งมาก็เกือบ 20 ล้านแล้ว"
พ่อแม่และคนรอบข้างเลิกแอนตี้ เริ่มเปิดใจให้คบหากับแฟนทอม
"มาถึงจุดที่ว่าตอนนี้ก็มีทุกอย่างแล้ว ด้วยอายุเท่านี้ มันก็เป็นการพิสูจน์แล้วล่ะว่าเราดูแลตัวเองได้ เรามีแฟนเป็นทอมเราก็ช่วยกันทำมาหากิน สร้างครอบครัวได้ แฟนเองก็เป็นคนดีมากเขาไม่เจ้าชู้ไม่นอกใจ ถึงจะมีเงินก็ไม่บ้าเงินเหมือนบางคนที่เอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แฟนคนนี้ก็คบเขามานานมากตั้งแต่สมัยเรียนมอปลายเลยค่ะ พ่อแม่ก็เริ่มเปิดใจแล้ว ว่างๆ ก็พากันไปกินข้าว พากันไปเที่ยว ปฏิบัติเหมือนแฟนผู้ชายคนหนึ่งเลยค่ะ เขาบอกพ่อแม่ว่าเขาดูแลเราได้เหมือนคนรักทั่วไป ไม่ยอมให้เราลำบากแน่นอน"
อนาคตที่ยังต้องพิสูจน์อีกไกลกับการแต่งของ ผู้หญิง กับ ผู้หญิง
"ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จหรือยัง ขอตอบเลยว่าความสำเร็จไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ คนเราสามารถประสบความสำเร็จไปได้เรื่อยๆ ในหลายๆ เรื่องหลายๆ มิติ แต่ตอนนี้ก็อาจจะพูดได้ว่าสำเร็จแค่ขั้นหนึ่งของชีวิตมากกว่า เพราะในอนาคตต้องเจอเรื่องราวต่างที่เข้ามาดราม่ากับชีวิตอีกมากมาย วันนึงตั้งใจอยากจะแต่งงานกับคนที่เรารักที่เขาไม่ใช่ผู้ชาย ก็ต้องเผชิญปัญหาที่จะตามมาอีกแน่นอน เรียกว่าภูมิใจดีกว่าค่ะที่สามารถทลายกำแพงของคนอื่นๆ ที่คิดว่าเพศที่สามรักกันอย่างจริงใจไม่ได้ วันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ทอม ดี้ เพศไหนก็แล้วแต่ทุกคนสามรถรักกันได้ค่ะ มนุษย์มีชีวิตได้ด้วยความรักเหมือนที่ฉันก็รักพ่อแม่และพ่อแม่ก็รัก เคารพในการตัดสินใจในการเดินทางชีวิตค่ะ"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
