“กานต์-เสือ” เปิดแผนช่วย “เสก” หลอนหนักเห็นบ้านเป็นวัด!! หวั่นฆ่าตัวตาย ลูกสาวทั้งสองคนเก็บกด!!

กานต์ วิภากร อดีตภรรยา เสก โลโซ ร็อกเกอร์ดัง พร้อม เสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย บุตรชาย เสก วัย 21 ปี เปิดใจในรายการ โหนกระแส ทางช่อง 28 หลัง พาเสก เข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาล ด้วยอาการ ไบโพลาร์

กานต์ เผยว่า เสก เป็นไบโพลาร์มา 10 กว่าปีแล้ว เมื่อ 10 กว่าปี ก่อนจะซึมเศร้า ไม่ออกจากบ้าน ไม่เจอใคร ไม่คุยกับใคร จะคุยกับกานต์คนเดียว ขนาดลูกยังไม่กล้าเจอ ไม่อยากให้ลูกเห็นสภาพ เลยเก็บตัวอยู่ในห้องอย่างเดียว แต่ไม่มีการฆ่าตัวตาย เพราะมีการพาไปหาหมอให้ดูแล ก่อนหน้าหมอจะให้ยาปรับอารมณ์ ได้ยามาก็หาย พอไม่ได้รับยา ก็จะเกิดความผิดปกติอีก เมื่อได้รับยาก็กลับมาเป็นปกติ ใช้ชีวิตได้

ความรู้สึกกานต์ไม่คิดว่าเสก จะฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่จะรับไปรักษาตัว มีการร้องไห้ผ่านไลฟ์ ในคืนก่อนที่จะพาไปหาหมอ ซึ่งโรคไบโพลาร์ ไม่ได้เป็นตลอด ถ้าได้รับยาก็จะหาย ส่วนเรื่องเสพยา เมื่อปี 54 ก็ยอมรับว่าไปบำบัดเพราะยาเสพติด แต่หลังๆ ก็ไม่ทราบ ซึ่งทางเสก ก็มีการตรวจฉี่โชว์ ก็ไม่เห็นว่ามีฉี่ม่วง

ด้านเสือ เผยว่า ในสายตาผม ตอนเด็กๆ พ่อร่าเริง ชอบคุยเล่นกับลูก แต่จริงๆ พ่อเป็นคนเศร้า แต่ไม่ได้โชว์ออกมาให้ลูกเห็นว่า เขาอ่อนแอ คนเป็นพ่อ คงอยากให้เห็นว่า เขาแข็งแรงเป็นหัวหน้าครอบครัว อาการพวกนั้น ก็คงไม่อยากให้ลูกเห็น

"ผมไม่เคยดูว่าพ่อไลฟ์สด เพิ่งทราบว่าพ่อไลฟ์สด เมื่อ 3 วันที่แล้ว เรื่องข่าวพ่อตามสื่อ ผมจะทราบช้ามากๆ เพราะไม่อยากดู เรื่องพ่อมันมีมาหลายปีแล้ว แต่ผมก็ไม่ดู อยากตัดส่วนนี้ของชีวิตออกไป เพราะอยากโฟกัส ตั้งใจเรียนอย่างเดียว ดูแลน้อง ส่วนเรื่องแม่พ่อ ก็ให้จัดการกันเอง แต่ตอนนี้ ผมเรียนจบแล้ว มันคือชีวิตของผมแล้วตอนนี้ที่ต้องดูแล แต่เคยไปบ้านพ่อ บ้านเก่า ไม่สามารถ อยู่บ้านที่พ่ออยู่ได้ เพราะเละมาก"

"ผมอยากให้เขารักษามานาน เขาพบหมอประจำ แต่เขาเลิก ไม่กินยา อยากอยู่บ้านอย่างเดียว ไม่มียามาช่วย อารมณ์จะเปลี่ยนไปเรื่อย บอกให้ไปหาหมอ เขาก็บอกโอเคๆ ที่เขาไลฟ์ด่าพาดพิง อยากโชว์พลัง แต่จริงๆ เขาอ่อนแอ คนที่ด่าว่าพ่อเรา เพราะหลายคนไม่เข้าใจโรคไบโพลาร์ ผมก็ไม่เข้าใจ ไปศึกษาดูก็เท่านั้น เพราะเราไม่เคยเป็น เราไม่รู้หรอก ผมชินมากแล้ว มันก็ไม่ดี แต่จะด่าไปทำไม เขาเป็นคนป่วย สมองเขาไม่คิดปกติแล้ว ถ้าคุณด่า แสดงว่าคุณไม่เข้าใจเขา"

นอกจากนี้ เสือ ยังเล่าถึงการช่วยเหลือเสกเพื่อไปรักษาว่า แม่มาปรึกษาวางแผนช่วยพาพ่อไปหาหมอ เพราะไม่ช่วยไม่ได้แล้ว โดยได้เข้าไปในบ้าน เพราะบ้านหลังดังกล่าวมีชื่อตนอยู่ด้วย จึงมีสิทธิ์เข้าไปในบ้านหลังที่พ่ออยู่ พร้อมแจ้งไปยังนิติบุคคลหมู่บ้านและรปภ. นอกจากนี้พ่อไม่รับงานแสดงมานานแล้ว โดยเสือได้เข้ามาดูแลน้องๆทุกคนแทนพ่อ ซึ่งได้วางแผนมาช่วยงานของแม่ ทั้งบริษัทรถและค่ายเพลงของแม่

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่พ่อแม่มีข่าวออกมา เสือ กล่าวว่า "การดูแลครอบครัวค่อนข้างยาก เพราะพ่อต้องรักษาตัว และไม่ได้ทำงาน ทำให้มีความกังวลและเครียดมาก แต่ก็ชินกับเรื่องนี้แล้ว โดยอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก"

ส่วน กานต์ กล่าวอีกว่า ตอนแรกว่าจะไม่ยุ่งแล้ว แต่มีคนเข้ามาขอเรื่อยๆ จึงเข้าไปช่วยดูและช่วยเหลือ เพราะหลายคนในโซเชียลมองเสกเป็นตัวตลก จึงมองเรื่องของศักดิ์ศรี โดยเคยโทร.ไปหาเสก คุยเรื่องลูกและทำบุญ แต่ไม่ได้ห้ามเรื่องไลฟ์

"ในวันที่จะพาเสกไปหาหมอ อีฟได้ให้คนประสานผ่านมา จึงได้ปรึกษากัน โดยให้อีฟดูแลภายในบ้าน ส่วนกานต์ดูแลด้านนอกบ้าน ซึ่งตอนแรกเสกขัดขืน แต่เจ้าหน้าที่นำตัวออกมาได้ โดยหมอให้ดูอาการไปก่อน ยังระบุไม่ได้ว่าต้องรักษาอีกนานแค่ไหน บางคนก็เร็วและบางคนก็ช้า ซึ่งตนและเสือจะไปเยี่ยมเสกในวันที่ 21 ส.ค. เพราะเสือต้องเดินทางกลับไปเรียนที่อเมริกา"

"จิตแพทย์หลายคนมองว่าขั้นต่อไปอาจถึงฆ่าตัวตายแล้ว จึงได้วางแผนช่วยพาไปหาหมอ จากนี้ขอโอกาสให้เสกอีกครั้ง เพราะทั้งหมดเกิดจากโรคที่เสกเป็น แต่ถ้าเสกออกมาแล้วไลฟ์ต่อว่าคนอื่นอีก ก็คงต้องลาแล้ว ที่ช่วยเพราะเสกเป็นพ่อของลูก ทำให้ต้องเข้ามาช่วย"