ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ

ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


เรื่องราวถึงขั้นคอขาดบาดตายแล้วและผมต้องเขียนเรื่องราวแบบ ‪#‎สรุป‬ นี้เพื่อให้ทุกท่านที่มีความรักในผืนป่าและความยุติธรรมได้รับทราบและช่วยกันหยุดมัน

UPDATE : *****12.00น. ด้วยพลังการแชร์ของทุกๆท่านในที่นี้และน้ำใจการคัดลอกข้อความส่งไลน์ไปหาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับชั้น ล่าสุด ผู้การฯสุรเชษฐ์ ติดต่อกลับมาและรับปากที่จะประสานนายชาญวิทย์ตัวแทนบริษัทภูเขาหกลูกเข้ามาพูดคุย เพราะ ณ เวลานี้นับเป็นจุดสุญญากาศทางกฎหมายที่ "ยังอยู่ในขั้นตอนเพิกถอน"เอกสารนส.3ก. ทำให้ผู้ถือเอกสารยังคงมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้กับผืนป่านี้ (ที่เขาคิดว่าเป็น"ที่ดิน") ซึ่งท่านผู้ชมชาวไทยที่เคารพสามารถพิจารณาได้จากภาพถ่ายทางอากาศได้ด้วยตัวเอง ขณะนี้รถแบ็กโฮตามการประกาศยังไม่ถึงเกาะนาคาน้อย สื่อมวลชนจำนวนมากกำลังติดต่อลงพื้นที่เพื่อทำข่าวสารไปยังพี่น้องประชาชน ขอกราบขอบพระคุณทุกๆพลังโซเชียลมา ณ โอกาสนี้ครับ*****

1. เกาะนาคาน้อยเป็นเกาะเล็กๆในจังหวัดภูเก็ต ห่างจากอ่าวปอไม่ไกลนักมองกันเห็นจากฝั่งแผ่นดิน เกาะนี้มีความเข้าใจกันมาแต่ยาวนานกว่า 40 ปีว่าเป็นเกาะของครอบครัวหิรัญพฤกษ์ บุกเบิกมาโดย ดร.สุจิต หิรัญพฤกษ์ ผู้เป็นบิดาของผมและเป็นปู่ของคุณภูริ

2. จริงๆครอบครัวเราไม่ได้เป็นเจ้าของทั้งเกาะเรามีที่ดินอยู่เพียง 53 ไร่ตามที่ระบุไว้ในเอกสารสิทธิ์ นส.3ก. ประกอบไปด้วยที่ดินหน้าหาดไปจนถึงบ้านพักและสวนมะพร้าวหลังบ้าน (ซึ่งปัจจุบันปล่อยไว้ให้เป็นป่า) โดยที่ดินส่วนที่เหลืออีก 60% ของเกาะเป็น "ป่าดิบชื้น" ที่สมบรูณ์เป็นที่อยู่อาศัยของนกเงือก และไม่เคยถูกรุกรานเลยตั้งแต่อดีตจนถึง "เมื่อวานนี้" เอง (5เมษายน2559)

3. ที่ดินนอกเหนือจาก 53 ไร่ไม่เคยมีการทำรังวัดใดๆจากสำนักงานที่ดินภูเก็ตเลย ผู้ใหญ่บ้านและนายอำเภอยุค 40 ปีก่อนบอกดร.สุจิตบิดาของผมว่า "เป็นพื้นที่ป่าไม้" ของแผ่นดิน ไม่ให้ใครมารุกล้ำ

4. ดร.สุจิต เคารพกติกานี้อย่างดีจนถึงแก่กรรม ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ได้ประกอบกิจการฟาร์มหอยมุก เครื่องประดับที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเคยเสด็จประพาส พ่อผมเป็นผู้รับเสด็จด้วยความปลื้มปิติและพระองค์ท่านรับสั่งทำฟาร์มไข่มุกให้มีคุณภาพดีเป็นชื่อเสียงของประเทศ ฟาร์มแห่งนี้เคยผลิตมุกเม็ดใหญ่ติดอันดับโลกขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้วในอดีต แต่ปัจจุบันพักกิจการไว้เนื่องจากผลผลิตไม่เฟื่องฟูและตลาดไม่มีความต้องการเหมือนก่อน

5. ครอบครัวรุ่นลูกรุ่นหลานได้บรูณะ "บ้านหิรัญพฤกษ์" บ้านพักชั้นเดียวของพ่อ ที่สร้างไว้พักแรมตั้งแต่แรกเริ่มให้กลับมามีสภาพใช้งานได้เมื่อไม่กี่ปีมานี้ และเอาไว้ใช้พักผ่อน โดยไม่ได้ประกอบธุรกิจใดๆอีกเลย

6. วันดีคืนดี มีคนท้องถิ่นมาหาที่เกาะแล้วบอกว่า "มีเอกสาร สค.1หลังเกาะมาขายจ้า" เรายังไม่ทันเห็นเอกสารก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่ป่า เขายืนยันว่าพวกเขาออกเอกสารสิทธิ์กันมาได้และจะไปเปลี่ยนเป็นนส.3ก.ให้ได้โดยรู้จักดีกับข้าราชการภายในกรมที่ดิน จะคิด'ค่าทำงาน'เรา 4 ล้านบาท เราไล่ตะเพิดไปบอกไม่เอา เพราะมันไม่ถูกต้อง

7. สค.1 ที่ว่าคือเอกสารสิทธิ์ที่ออกไว้บนเกาะ'นาคาใหญ่' เกาะใกล้เคียงที่ใหญ่กว่าเรามาก แต่แก้ไขเอกสารจาก 7 ไร่ เพิ่มอีก 17 ไร่ (รวม 24 ไร่) แล้วนำมาอ้างสิทธิ์บนป่าของเกาะนาคาน้อย ไปๆมาๆพอเราไม่ยอมจ้างทำ พวกเค้าก็ไปทำเอง เปลี่ยนสค.1เป็นนส.3ก.แล้วไปเร่ขายคนอื่นๆ จนตกมาถึง "บริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด" ตามที่ระบุในข่าว บริษัทนี้เคลมมูลค่าที่ดินว่าสูงถึง 42 ล้านบาท

8. เราร้อง DSI ให้ตรวจสอบให้ที DSI ดีมาก ตามติดสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐจนสารภาพว่าเป็นการสร้างเอกสารปลอม (ปลอมโดยคนออกของแท้) เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ไว้ชัดกับเนชั่นทีวี นับเป็นความฉ้อฉลอีกครั้งหนึ่งของข้าราชการกรมที่ดินที่เอาผืนป่ามาออกเอกสารสิทธิ์ (เวลาเราได้ยินคำว่า "นักการเมืองงาบป่า" ..เขาก็ทำกันในวิธีนี้แล) DSI สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์นี้กับกรมที่ดิน ขณะนี้กรมที่ดินอยู่ระหว่างดำเนินการ

9. ไม่กี่วันมานี้ ตัวแทนบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ดอดมาเจรจากับครอบครัวเราขอให้ซื้อเอกสารนส.3ก.ของเขา เพราะเขาก็เดือดร้อนที่ไปซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นจึงอยากให้ช่วยซื้อ 42 ล้านบาทเลย แน่นอนเราต้องด่าให้หายซ่า เขามีอาการรวนเล็กน้อยและอ้างบุคคลมีสีที่หนุนหลังอยู่ เอ่ยนามมาให้เค้าเสียหายด้วย เราไล่ตะเพิดไปบอกไม่กลัวใครทั้งนั้น ความถูกต้องคือความถูกต้อง เขาจากไปด้วยความโกรธพอสมควร

10. เช้าวันอังคารที่ 5 เมษายน กลุ่มชายนำกำลังขึ้นเกาะในฝั่งป่าไม้พร้อมอาวุธในมือ ยากต่อการเข้าพูดคุยเจรจา ทางกลุ่มประกาศว่าวันพุธที่ 6 เมษายนจะนำ "รถแบ็กโฮ" ข้ามทะเลมาถางป่าในที่ๆคิดว่าระบุไว้ 24 ไร่ (แต่ไม่มีการปักหมุดรังวัดใดๆไว้ จะไปถางถูกจุดได้อย่างไร?) เขาอ้างว่ากรมที่ดินยังอยู่ระหว่างการเพิกถอน ฉะนั้นตอนนี้เขามีสิทธิ์ในการจะ 'ทำอะไรก็ได้' กับที่ดินที่เขาคิดว่าเป็นของเขา

สมาชิกครอบครัวหิรัญพฤกษ์ที่อยู่รักษาเกาะอยู่ในเวลานี้ไม่มีอาวุธและไม่มีกำลังจะต่อกรกับกำลังคนพร้อมอาวุธอย่างแน่นอน

คำถามสำคัญคือ "เราจะยอมให้ป่าถูกถางในเช้าวันนี้จริงๆหรือ???" ป่าที่อยู่ของป่ามาดีๆตลอดมา แต่มาโดนออกเอกสารสิทธิ์จากความฉ้อฉนของข้าราชการคนที่ชั่ว (ที่ทำเรื่องย้ายตนเองและเกษียนอายุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) เอกสารสิทธิ์นี้กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการถอนถอนตามคำสั่งของ DSI แต่ในเมื่อมันยังไม่ถูกเพิกถอนตอนนี้เขาเลยอ้างว่ามีสิทธิ์เต็มที่บนที่ดิน ... เราจะยอมให้ป่าถูกทำลายลงจริงๆหรือ? เพราะหากถอดถอนแล้วแต่ป่าหมดไป ใครจะปลูกใช้คืน??? นกเงือกทรัพยากรสัตว์หายากสุดๆของประเทศก็จะยิ่งสูญพันธุ์ลงอีก (เรื่องนี้อาจารย์ธรณ์ และเพื่อนธรณ์หลายๆคนคงเศร้า)

ลองคิดดูดีๆเพื่อช่วยกันพิทักษ์ผืนป่า พลังโซเชียลของพวกเราได้ผลเสมอเมื่อเราช่วยกันขบคิดดังๆและส่งเรื่องนี้ถึงทุกสำนักข่าว

ด้วยจิตคาราวะจากใจจริง
พี่น้องครอบครัวหิรัญพฤกษ์

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง



 


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ


ความจริงเกี่ยวกับเกาะนาคาน้อย และป่าที่กำลังถูกทำลายฟรีๆ



ขอบคุณที่มา >> Facebook >> Pongsuk Hiranprueck

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์