ตำรวจจับแพะ ติดคุกฟรี 7 เดือน แค่เพราะทรงผมคล้ายผู้ต้องหา ถามใครจะรับผิดชอบ

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 เฟซบุ๊กเพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์แชร์เรื่องราวสุดน่าเห็นใจ พร้อมร้องเรียนขอเป็นธรรมให้กับนาย นายสายัณห์ แสงสุข หนุ่มอดีตทหารเกณฑ์ ที่ตกเป็นเหยื่อความเลินเล่อของเจ้าพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สน.คันนายาว โดยได้แนบภาพเอกสารการพิจารณาคดีของศาลมาตีแผ่ให้สังคมได้ชมด้วย

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 13 เมษายน 2551 ชุดสืบสวน สน.คันนายาว ได้เจอบุคคลต้องสงสัยชายขี่รถจักรยานยนต์ ท่าทางมีพิรุธ จึงได้ติดตามจนกระทั่งผู้ต้องสงสัยได้จอดรถทิ้งไว้ แล้วปีนกำแพงหลบหนีไป ชุดสืบสวนจึงได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบ พบยาบ้า 170 เม็ด และคู่มือสมุดรถระบุชื่อ นางสาววราภรณ์

จากนั้น ชุดสืบสวนจึงได้ส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด พนักงานสอบสวนจึงได้ไปค้นทะเบียนราษฎร์ของนางสาววราภรณ์ และพบว่ามีเด็กในทะเบียนราษฎร์ที่เกี่ยวข้องกับนางสาววราภรณ์ เป็นลูกของพี่สาว จากการตรวจสอบข้อมูลเด็ก ปรากฎชื่อนายสายันห์ แสงสุข เป็นชื่อบิดาของเด็ก พนักงานสอบสวนจึงนำภาพนายสายัณห์ แสงสุข มาให้ชุดสืบสวนดู เห็นทรงผมในทะเบียนราษฎร์ของนายสายัณห์ เป็นทรงผมเกรียนและหัวเถิก จึงยืนยันว่าใช่ แต่ไม่ได้รับรองในเอกสาร



ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายจับนายสายัณห์ แสงสุข ตามภาพทะเบียนราษฎร์ คือทรงผมเกรียนและหัวเถิกต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายสายัณห์เป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายทหาร กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี ตามเอกสารยืนยันจากกองทัพบกตามภาพ

จนกระทั่งชุดสืบสวน สน.คันนายาว ได้ไปจับกุมนายสายัณห์ในเดือนมีนาคม ปี 2559 และนำตัวส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลจังหวัดมีนบุรี จนต้องไปติดคุกอยู่ในเรือนจำมากกว่า 7 เดือน เหตุจากความสะเพร่าของตำรวจชุดนี้ จนกระทั่งศาลได้พิจารณาคดีจากหลักฐานฝั่งตำรวจ พบว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้เรียกเจ้าของรถ คือนางสาววราภรณ์มาสอบปากคำแต่อย่างใด มีเพียงแค่นำทะเบียนราษฎร์มาให้ชุดสืบสวนชี้ และไม่ได้มีการรับรองเอกสาร

นอกจากนั้น หลังจากที่จับกุมตัวนายสายัณห์มาแล้ว ก็ไม่ได้มีการชี้ตัวผู้ต้องหาตามขั้นตอนแต่อย่างใด จึงเป็นหลักฐานที่เลื่อนลอย ศาลจึงไม่พิจารณาหลักฐานของฝั่งผู้ต้องหา เพราะศาลเห็นว่าหลักฐานฝั่งตำรวจ เป็นหลักฐานที่เลื่อนลอย โดยปกติแล้ว หากคดีมีความต้องสงสัย ศาลมักจะเขียนคำว่า ยกประโยชน์แห่งความสงสัยเป็นคุณให้แก่จำเลย แต่ในคดีนี้ ศาลเขียนคำพิพากษา ยกฟ้องเด็ดขาด เป็นแพะที่ขาวสะอาด ไม่ได้กระทำความผิด และไม่มีเหตุอันต้องสงสัย