ประสบการณ์จริงจากนักศึกษาแพทย์ ที่เข้าอาบอบนวด

ประสบการณ์จริงจากนักศึกษาแพทย์ ที่เข้าอาบอบนวด

      กระทู้ดีดี จาก pantip.com ที่อยากแนะนำให้อ่าน และ แชร์เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจในการใช้ชีวิต เรื่องราวนี้ บอกเล่าจากประสบการณ์ของ นักศึกษาแพทย์รายหนึ่งกับการใช้บริการอาบอบนวด และ มีเพศสัมพันธ์ กับ "น้องๆ" ในนั้น นับครั้งไม่ถ้วน และแม้ทุกครั้งเขาจะป้องกันอย่างดี แต่สุดท้าย เรื่องเหล่านี้ก็ยังตามมาหลอกหลอนจนชั่วขณะหนึ่งต้องอยู่อย่างทรมานทั้งร่างกาย และ จิตใจ

จะเป็นอย่างไรลองอ่านดูค่ะ ...

"แชร์ประสปการณ์ที่ไม่แนะนำให้ใครไปลองครับ (18+)"

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีประสปการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเลยมาแบ่งปันเพื่ออาจจะเป็นสิ่งเตือนใจใครบางคนตอนนี้ที่ยังทำอยู่ และยังอาจจะหยุดทันนะครับ (:

แนะนำตัวก่อนครับ ผมเป็นนักศึกษาแพทย์คนนึงครับ อาจจะศึกษาอยู่ในสถาบันชื่อดังเลยนั่นแล่ะครับ ซึ่งที่จะบอกก็คือไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนทุกคนก็อาจจะเคยอยากลองทำอะไรผิดๆ มาก่อนครับ ไม่เว้นแม้ใครทั้นนั้น

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนผมได้เข้าไปรุ้จักกับวงการนกป.มาครับ ซึ่งในวงการนี้ก็จะคล้ายๆกับอาบอบนวดนั่นแล่ะครับ แต่ที่นี่อาจจะเรียกหมอนวดเป็นพวกน้องพริตตี้อะไรแบบนี้และส่วนมากในวงการนี้ก็จะไม่ไปถึงการมีอะไรกันอย่างอาบอบนวดที่จุดประสงค์คือการมีอะไรกันนั่นแล่ะครับ

ซึ่งแรกๆแน่นอนผมก็ยังไม่กล้าทำอะไรเท่าไหร่ได้แค่นอนเฉยๆ และให้พริตตี้ใช้แค่มือบ้าง ใช้ปากร่วมด้วยบ้าง มีจูบกันบ้างครับ ซึ่งช่วงนั้นผมก็ยังไม่เลยเถิดไปถึงขึ้นมีอะไรกับพริตตี้ และผมก็ไปใช้บริการอยู่เรื่อยๆเดือนละครั้งถึง2ครั้ง

หลังจากนั้นผมก็เริ่มหน้ามืดครับ หลังจากที่ไม่ได้คิดจะมีอะไรกับน้องๆพริตตี้ก็กลายเป็นพยายามหาร้านที่จะได้มีอะไรกับน้องๆได้ง่ายที่สุดแทน จนมา1ปีหลังนี้กลายเป็นว่าผมได้มีอะไรกับน้องพริตตี้ไปเยอะพอสมควรครับ แต่ทุกๆครั้งผมป้องกันด้วยถุงยางตลอดครับจึงทำให้ผมไม่ได้คิดถึงผลที่อาจจะตามมาเลย และ3เดือนที่ผ่านมานี้ผมก็ไม่ได้ไปใช้บริการอีก และก็คิดว่าตัวผมเองอยากจะเลิกสิ่งนี้ให้ได้สักทีแล้วเพราะนอกจากมันจะได้แค่ความสุขชั่ววูบ วูบเดียวจริงๆครับ นอกจากนั้นเราไม่อาจได้อะไรเลย ทั้งความรัก เงินทองทุกอย่างมันจะสลายไปด้วยซ้ำ

จนเมื่อมาเมื่อสัปดาห์ก่อนผมคิดอะไรไม่รู้ อยู่ๆก็คิดถึงสิ่งที่ตัวเองได้เรียนมา เกี่ยวกับพวกเชื้อ HIV ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าป้องกันทุกครั้ง และไม่น่าจะติดโรคได้ แต่แน่นอนว่าที่ผมเรียนมามันไม่มีอะไรป้องกันได้แน่นอน 100% อยู่แล้วครับ มันจึงทำให้ผมรู้สึกเครียดมากขึ้นเรื่อยๆว่าตัวเองจะติดโรคนี้หรือไม่ พยายามสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเชื้อนี้เพิ่มเติมจากที่เรียนมา ทั้งเปอเซ็นการติดต่อทุกๆด้าน อาการอย่างละเอียดก็ไม่ได้มีอะไรยืนยันว่าผมไม่ได้ติด ณ ตอนนั้นผมเครียดมากๆครับ ไม่รุ้เลยว่าถ้าตัวเองติดเชื้อ HIV จะทำอย่างไร จะบอกกับครอบครัวตัวเองยังไง จะบอกกับคนที่เรากำลังคุยด้วยที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดียังไง จะบอกเพื่อนๆยังไง บอกไปแล้วเขาจะรับได้หรอ เขาต้องไม่คุยกับเราต่อแน่นอน ซึ่งสิ่งที่ผมคิดตอนนั้นก้คือถ้าเราติดเชื้อ HIV ทุกอย่างในชีวิตต่อจากนี้ต้องพังทลายลงแน่นอนครับ

นั่นแล่ะครับผมจึงตัดสินใจไปตรวจ HIV ที่คลินิคนิรนามสภากาชาติไทย(เป็นคนไทยไปตรวจได้ฟรีไม่เสียเงินเลยครับ) ตอนที่ไปตรวจผมก็สวดมนต์อ้อนวอนภาวนาทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาเพื่อให้ชีวิตผมไม่พังทลายตรงนี้ และผลตรวจก็ออกมาครับคือ "Negative" ผมดีใจแทบน้ำตาร่วงกับผู้ให้คำปรึกษาที่แจ้งผลแก่ผมในห้องนั้นเลยครับ มันทำให้ทุกอย่างตอนนั้นมันเบาสบายขึ้นมาทันที

สุดท้ายละครับที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดนี้ผมอยากจะบอกเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทั้งหลายครับว่า เรื่องการติดเชื้อไม่มีอะไรป้องกันได้แน่นอน100%ครับ อย่าคิดว่าเราป้องกันทุกครั้งแล้วมันจะไม่เกิดการผิดพลาดได้ ไม่ควรนำตัวเองลงไปเสี่ยงกับการติดเชื้อที่มันอาจจะน้อยก็จริงแต่ถ้ามันติดไปแล้ว มันจะติดตัวคุณไปตลอดชีวิต และอาจทำให้ชีวิตคุณพังทลายลงได้ครับ ผมอาจจะยังเป็นคนที่โชคดีอยู่ก็จริงครับที่ผมไม่ติดเชื้อนี้แต่จากความรู้สึกตอนที่ผมกลัวว่าจะติดเชื้อตอนนั้นมันวนเวียนอยู่ในหัวผม2-3วันได้

ผมจึงสาบานกับตัวเองแล้วครับว่าจะไม่กลับไปข้องเกี่ยวกับวงการอบายมุขพวกนี้อีกแล้ว จะไม่นำตัวเองลงไปเสี่ยง เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แล้วได้รับกลับมาเป็นความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ยังไงๆก็ขอให้คนที่ยังติดอยู่ในวงการนั้นคิดได้และลองไปตรวจเชื้อดูนะครับ คุณอาจจะยังเลิกทัน และถึงแม้ว่าคุณอาจจะติดเชื้อไปแล้วก็ยังได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆครับ เป้นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ


ประสบการณ์จริงจากนักศึกษาแพทย์ ที่เข้าอาบอบนวด

>>>>>>>>>>>
ที่มาจาก คุณ สมาชิกหมายเลข  2741910 เวบไซต์pantip.com

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์