เมื่อวันที่ 20 ก.ค. จากกรณี นางศิริกานต์ ศิรสิทธิ์ดำรงกิจ อายุ 53 ปี ชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เสนา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายรพีพัชร ศิรสิทธิ์ดำรงกิจ อายุ 28 ปี บุตรชาย หลังพบว่านายรพีพัชรแอบโอนเงินในบัญชีประมาณ 1.2 ล้านบาท ไปให้วีเจสาว หรือเน็ตไอดอลรายหนึ่ง อายุประมาณ 20 ปี ผ่านการติดตามจากแอพพลิเคชั่นชื่อไอโชว์ (iShow) ซึ่งวีเจสาวทำการแสดงโชว์อยู่ในแอพฯ ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด "วีเจโฟร์" ได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องราวดังกล่าวว่า "ไม่ทราบเงินมาจากไหน เขาบอกว่ามันเป็นเงินของพี่ พี่เป็นคนหาเงิน โดยมีหลักฐานจากการส่งไลน์ เปิดร้านตัดสติ๊กเกอร์ แม่ขายของชำ เรื่องรายได้มีมากน้อยไม่ทราบ ไม่ได้ออกมาเพื่อฟ้องร้อง แค่ออกมาบอกเรื่องทั้งหมด ซึ่งคู่กรณีอีกฝ่ายรู้ดีอยู่แก่ใจ อยู่ที่เขาจะพูดหรือเปล่า ย้ำไม่ได้เงินถึง1.2ล้าน คุณเต็มใจโอนเงินมาเพื่อจะเล่นเกม มีเงินเหลือก็ให้ส่วนตัว ก็แฟนกันให้ส่วนตัว"
ซึ่งตนเองได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวที่ปรากฎออกไป โดยตนเพิ่งรู้จักกับ นายรพีพัชร เมื่อเดือนมีนาคม ผ่านแอพพลิเคชั่นไอโชว์ และตกลงคบหาดูใจกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยนายรพีพัชรเล่นแอพพลิเคชั่นไอโชว์ นานแล้ว ก่อนหน้าที่ตนเองจะเข้ามาทำงานที่นี่ ที่ผ่านมาทราบว่าได้พูดคุยและส่งไอคอนของขวัญให้กับวีเจสาวคนอื่นๆ ก่อนหน้าตนหลายคน บางคนทราบว่านายรพีพัชรส่งไอคอนของขวัญให้หมดค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสน
ส่วนที่ว่า นายรพีพัชร ขโมยเงินจากบัญชีของแม่ ยอดเงินรวมประมาณ 1,200,000 บาทนั้น ตนไม่ทราบว่าเขานำไปใช้ตรงส่วนไหนอย่างไรบ้าง เพราะตนเป็นเพียงวีเจคนหนึ่งในจำนวนหลายๆ คน ที่นายรพีพัชรติดต่อพูดคุยผ่านแอพฯ ดังกล่าว ส่วนยอดค่าใช้จ่ายที่นายรพีพัชรส่งไอคอนมอบเป็นของขวัญให้กับตนนั้น ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพราะต้องตรวจสอบกับทางบริษัท ซึ่งนอกจากนายรพีพัชรแล้ว ก็มียูซเซอร์ (ผู้เล่น) คนอื่นๆ ที่ส่งไอคอนของขวัญให้กับตนหลายคน ซึ่งเป็นไปตามปกติของลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการ
โดยเงินที่นายรพีพัชรโอนให้ตนผ่านบัญชีของตนนั้นไม่ถึง 1.2 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินประมาณ 400,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ นายรพีพัชร ฝากตนซื้อคูปองสำหรับใช้จ่ายในแอพพลิเคชั่น จำนวนประมาณ 260,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือเป็นเงินที่ นายรพีพัชร โอนให้ใช้ส่วนตัวระหว่างคบหาดูใจกัน หากเงินส่วนไหนตนยืมก็โอนคืนให้ทุกครั้ง
ในเรื่องรถยนต์ป้ายแดงที่ตนเพิ่งซื้อมาใหม่ก็เป็นเงินของตนเองกับพี่สาว โดยนายรพีพัชร ได้โอนมาช่วยเหลือจำนวนเกือบ 100,000 บาท แต่แม่นายรพีพัชร กล่าวเป็นเงินของแม่ ไม่ใช่เงินของนายรพีพัชร ตนจึงโอนคืนให้แล้ว ซึ่งทั้งนี้เงินออกรถไม่มีเงินของนายรพีพัชรแม้แต่บาทเดียว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปบ้านเกิดตนที่ จ.ลำปาง เพื่อสู่ขอกับพ่อแม่ ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาพ่อแม่ตนเองยังไม่เคยเห็นหน้านายรพีพัชร มีเพียงพี่สาวที่เคยเจอ สถานะก็เพียงแค่กำลังศึกษากัน ไม่ถึงขั้นเรียกว่าแฟน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตนได้ให้ทนายความโทรไปขู่จะฟ้องร้องแม่ของนายรพีพัชรที่ทำให้ตนเสียหาย ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยตั้งแต่เกิดเหตุตนเป็นฝ่ายอยู่เฉยๆ มาตลอด มีเพียงแจ้งไปยังบางสื่อเพื่อขอให้ลบภาพตนในข่าวออกเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่พร้อมชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด แต่จะขอออกมาชี้แจงทุกสิ่งทุกอย่างในเร็วๆ นี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
