ลุงเก็บขยะ โชคดีเก็บเงินได้ทุกวัน ผ่านไป 10 ปี ถึงได้รู้ความจริงว่าเงินเหล่านี้มาจาก?

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของ "นายหลี่" คุณลุงชาวจีนวัย 60 ปี เขาอาศัยอยู่ในเมืองตัวคนเดียว ต้องเก็บขยะหาเงินประทังชีวิตไปวันๆ ทุกๆคืนเขาจะต้องไปค้นหาขวดแก้วขวดพลาสติกต่างๆ ตามถังขยะเพื่อนำไปขายแลกเงิน ถึงแม้ว่าชีวิตของนายหลี่จะค่อนข้างลำบาก แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะไปขอทาน

ตราบใดที่เขายังมีแรงออกไปเก็บขยะ เขาก็จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยน้ำแรงของตัวเอง จะไม่ไปขอทานเด็จขาด แต่นายหลี่ก็มีนิสัยโลภอยู่เล็กน้อยเหมือนกันนะ เวลาเจอเงินบนท้องถนนเขาก็จะคิดว่ามันเป็นของขวัญที่ท้องฟ้าส่งมาให้เขา ถ้าจำนวนไม่มากก็จะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง

คืนหนึ่ง ในขณะที่นายหลี่กำลังเก็บขยะอยู่ เขาสังเกตเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนท้องถนน เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าชายหนุ่มคนนี้มีกลิ่นเหล้าติดตัว แต่การแต่งกายใส่สูทแต่งตัวดี ดูแล้วคงเป็นคนมีเงิน และท่าทีของเขาดูเหมือนกำลังเจ็บปวดมากๆ นายหลี่จึงรีบถามเขาว่า "คุณเป็นอะไรหรือเปล่า" แต่ทางชายหนุ่มนั้นเมามากจึงพูดไม่รู้เรื่อง แถมมีอาการหน้าซีด เหงื่อออกและสั่นทั้งตัว นายหลี่ตกใจจึงรีบพาชายหนุ่มไปส่งคลินิกที่อยู่ใกล้ๆ หมอบอกกับนายหลี่ว่า "ชายหนุ่มคนนี้กินเหล้าเยอะเกินไปจนทำให้กระเพาะอาหารทะลุและเขายังมีโรคประจำตัวอีกด้วย ต้องส่งไปโรงพยาบาลใหญ่เพื่อรักษาโดยทันที แต่ค่ารักษามันจะค่อนข้างสูงนะ ลุงจะไหวหรือ"

จากคำพูดของหมอคนนี้ฟังออกได้ชัดเจนเลยว่า หมอคนนี้กลัวนายหลี่จะไม่มีปัญญาจ่ายค่ารักษาให้กับทางโรงพยาบาลได้ นายหลี่เลยตอบกลับไปว่า "คุณหมอดูถูกผมหรือ ไม่ต้องห่วง ถึงผมจนแต่ผมก็จะพยายามช่วยชีวิตของเขาครับ"

นายหลี่จึงรีบส่งตัวชายหนุ่มไปที่โรงพยาบาลใหญ่ทันที หมอบอกว่าต้องรีบรักษาและต้องใช้เงินทั้งหมด 1.5 หมื่นบาท ในตอนนั้นนายหลี่มีเงินติดตัวอยู่แค่ร้อยกว่าบาทเอง เขาเลยบอกกับหมอว่าให้รอเขาสักครู่แล้วก็รีบวิ่งกลับไปยังบ้านทันที เพื่อไปเอาเงินเก็บของตัวเองออกมาจ่ายค่ารักษาให้กับชายหนุ่ม เงินเก็บของเขามีทั้งหมด 1.5 หมื่นกว่าบาทพอดี หลังจากชำระค่ารักษาแล้ว เขามีเงินเหลือเพียงสองสามร้อยเท่านั้น แต่เขาก็รู้สึกดีใจนะ อย่างน้อยเขาก็ได้ช่วยชีวิตของคนคนหนึ่งไว้ และเงินที่เหลือก็ยังสามารถซื้อข้าวกินได้หลายมื้ออยู่ เดี๋ยวเขาก็ไปเก็บขยะขายหาเงินต่อได้แล้ว

ในวันถัดมาอาการของชายหนุ่มเริ่มดีขึ้น ถึงเขาจะเมาแต่เขาก็พอรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา และเขาก็รู้ว่านายหลี่เป็นคนพาตัวเขามาที่โรงพยาบาล แถมยังเอาเงินเก็บทั้งหมดออกมาจ่ายค่ารักษาให้เขาอีกด้วย เขารู้สึกประทับใจมากๆ เมื่อนายหลี่ออกไปซื้ออาหารเช้ากลับมา เห็นชายหนุ่มตื่นแล้วจึงรีบถามว่า "คุณรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ"

ชายหนุ่มตอบทั้งรอยยิ้มว่า "ดีขึ้นแล้วครับ ขอบคุณคุณลุงมากนะที่ช่วยชีวิตผมไว้ ไม่งั้นป่านนี้ผมคงไม่รอดแน่ คุณลุงรับบัตรเอทีเอ็มใบนี้ไปเลย มีเงิน 5 แสนอยู่ในบัตร เป็นการตอบแทนที่คุณลุงช่วยชีวิตของผมไว้นะครับ" นายหลี่ฟังแล้วรู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีแล้วตอบกลับว่า "ผมช่วยคุณไม่ได้หวังผลตอบแทนหรือเงินจากคุณ ทำไมคุณมองผมเป็นคนแบบนั้นล่ะ ไม่น่าช่วยคุณเลย" พูดเสร็จนายหลี่ก็ออกจากห้องและกลับบ้านไปทันที หลังจากนั้นก็ไม่เคยไปเยี่ยมชายหนุ่มอีกเลยแม้แต่ค่ารักษาที่จ่ายให้ก็ไม่ได้เอาคืนสักบาท

ตอนนี้นายหลี่ก็หมดเงินจริงๆ มีเงินทั้งหมดเพียงสองสามร้อย ถึงจะรู้สึกเสียดายเงินที่จ่ายไป แต่นึกถึงว่าตัวเองยังสามารถเก็บขยะขายหาเงินได้ เขาก็โล่งใจ

ต่อมาวันหนึ่ง ในขณะที่นายหลี่กำลังเก็บขยะอยู่ จู่ๆ เขาก็สังเหตเห็นว่ามีเงินแบงค์ 500 ใบหนึ่งถูกทับอยู่ใต้ถังขยะ เขามองดูรอบๆ ไม่มีคนอยู่ จึงรีบไปเก็บเงินใบนั้นขึ้นมาและเก็บใส่กระเป๋าตัวเองไว้

และตั้งแต่นั้นมาก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น นายหลี่เก็บเงินได้ทุกวัน บางวันก็เก็บได้ 500 บางวันก็เก็บได้ร้อยเดียว ทีแรกนายหลี่เองก็เกิดความสงสัยนะว่าทำไมแปลกขนาดนี้ แต่เขาก็หาสาเหตุไม่เจอ เลยบอกกับตัวเองว่าฟ้าสงสารเขาจึงมอบเงินนี้มาให้

เวลา 10 ปีผ่านไป นายหลี่ก็เก็บเงินได้เป็นล้าน และในตอนที่เขาป่วยหนักใกล้จะเสียชีวิตลงเขาก็เพิ่งมารู้ว่าที่ตัวเองเก็บเงินได้ทุกวันนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาโชคดีหรือฟ้าสงสารเขา แต่เป็นเพราะว่าความดีที่เขาเคยทำไว้ต่างหาก ชายหนุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากนายหลี่รู้ว่านายหลี่ไม่ยอมรับเงิน จึงคิดวิธีนี้ขึ้นมาโดยมาวางเงินไว้ที่ใต้ถังขยะเพื่อให้นายหลี่มาเก็บทุกๆ วัน เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของเขา

หลังจากที่นายหลี่รู้ความจริง เขาก็กล่าวทั้งรอยยิ้มว่า "ทำดีได้ดี" แล้วก็เสียชีวิตลง เพราะว่านายหลี่ไม่มีลูกหลาน ชายหนุ่มคนนั้นได้จัดงานศพให้เขาและเขียนคำจารึกบนหลุมฝังศพว่า

"คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ถึงจะจนแต่รวยน้ำใจ ทำดีได้ดี้ ขอให้คุณลุงเจอแต่ความสุขบนสวรรค์"

ทำดีได้ดีจริงๆ เพราะความดีที่นายหลี่เคยทำไว้ ทำให้บั้นปลายชีวิตของเขามีเงินใช้ไม่ลำบาก ยังไงนายหลี่ก็เป็นผู้โชคดี ส่วนการกระทำของชายหนุ่มก็น่ายกย่องจริงๆ