ประธานาธิบดีเรียกประชุมปัญหาอาชญากรรมผู้หญิง ด้านโซเชียลมีเดียกดดันแก้วัฒนธรรมข่มขืน
เจ้าหน้าที่บราซิลกระจายกำลังทหารราว 70 นายทั่วเมืองริโอเดอจาเนโร เพื่อไล่ล่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายกว่า 30 คน ที่มอมยาและข่มขืนเด็กผู้หญิงวัย 16 ปี ในย่านชุมชนแออัดของเมืองดังที่เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก เมื่อวันที่ 21 พ.ค. และถ่ายวิดีโอเย้ยลงทวิตเตอร์ สร้างความโกรธแค้นแก่ชาวบราซิลจำนวนมากที่ออกมาประท้วงกดดันให้รัฐบาลเร่งจับตัวมาลงโทษ
เฟอร์นานโด เวโลโซ หัวหน้าสำนักงานตำรวจริโอเดอจาเนโร ระบุว่า ยังไม่ทราบจำนวนผู้ก่อเหตุที่แน่ชัด แต่ขณะนี้สามารถระบุตัวได้แล้ว 4 ราย และรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 ราย
วิดีโอดังกล่าวเปิดเผยให้เห็นหน้าของผู้ชายหลายคนและเด็กสาวผู้เป็นเหยื่อในสภาพกึ่งไร้สติ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสเดือดดาลในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วโลก ผู้ใช้เฟซบุ๊กร่วมติดแฮชแท็กว่า การข่มขืนไม่ใช่ความผิดพลาดของเหยื่อ และจุดประเด็นคดีข่มขืนซึ่งกลายเป็นแนวโน้มปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นอย่างหนักทั่วโลก และยังมีการปลุกระดมใช้รูปโปรไฟล์เป็นสัญลักษณ์วีนัสเพศหญิง พร้อมข้อความให้ยุติการข่มขืน
ด้านรักษาการประธานาธิบดี มิเชล เทเมอร์ กล่าวประณามเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุจะประชุมกับรัฐมนตรียุติธรรมและหัวหน้าหน่วยความมั่นคงสาธารณะ เพื่อหามาตรการเชิงนโยบายยกระดับการจัดการกับความรุนแรงต่อผู้หญิง โดยเตรียมจัดตั้งหน่วยงานพิเศษภายใต้สำนักตำรวจขึ้นเพื่อควบคุมดูแลปัญหานี้
ก่อนหน้านี้คดีข่มขืนที่ประเทศอินเดียเมื่อปี 2012 ได้ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ และนำไปสู่ความพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวพร้อมปรับเปลี่ยนทัศนคติที่กดขี่เพศหญิงกันมากขึ้น เนื่องจากปัญหาความรุนแรงต่อเพศหญิงไม่ใช่เพียงอาชญากรรม แต่เป็นปัญหาด้านทัศนคติในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ขณะที่บราซิลมีสถิติผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมจากคดีเกี่ยวเนื่องทางเพศแล้วถึง 9.2 หมื่นราย นับตั้งแต่ปี 1980-2010
ทั้งนี้ บราซิลกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกในเดือน ส.ค. ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสซิกาในประเทศ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญ 150 รายเรียกร้องให้บราซิลเลื่อนหรือยกเลิกการจัดกีฬา อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกแถลงการณ์ว่า บราซิลไม่จำเป็นต้องยกเลิกการจัดกีฬา แต่เน้นให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
