เพจเฟสบุ๊ค อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 เปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อทารกคนหนึ่งจำเป็นต้องอยู่ตู้อบเนื่องจากตัวเหลือง หลังจากออกจากตู้อบโรงพยาบาลให้นมเด็ก และเด็กเกิดสำลักนมแล้วหัวใจหยุดเต้นกระทันหันจนเสียชีวิต จากนั้นโรงพยาบาลนำเอกสารซึ่งพ่อแม่เด็กไม่ทราบว่าคือเอกสารอะไรมาให้เซ็นและขาดการติดต่อกับพ่อแม่เด็กทันที"
"โดยเนื้อหาภายในโพสต์ทั้งหมดระบุว่า...
"ภรรยาผมได้ไปคลอดที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ภรรยาผมคลอดโดยธรรมชาติ น้ำหนักลูกผมอยู่ที่ 3070 กรัม คลอดวันที่ 18/4/60 เวลา 20.15 น. ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ แต่ทาง รพ.บอกลูกผมตัวเหลือต้องเอาเด็กไว้ก่อน ส่วนผมและภรรยาก็กลับบ้าน ทาง รพ. จะแจ้งให้มาดูแล หัดอาบน้ำ หรือเรียนการอุ้มเป็นต้น แต่เค้าจะมีใบให้ผมเซ็นยินยอมให้ลูกอยู่นะครับ ผมก็คิดว่ายังไงอยู่กับหมอก็ปลอดภัยแน่นอน ภรรยาผมไม่สามารถให้นมลูกได้ เพราะเป็นตับอักเสบ ลูกผมจึงต้องดูดนมขวดครับ มาเข้าเรื่องวันเกิดเหตุกัน !!!เหตุมันเกิดวันที่ 23-24 เม.ย 60 วันที่ 23 เช้าผมได้รับโทรศัพจากทางรพ.ว่าวันนีน้องออกจากตู้อบแล้วและทางรพ.อยากจะให้พ่อแม่มาหัดอาบน้ำ ตอน 16.30 น.ผมก็บอกว่าได้ครับถึงเวลาผมก็ไปหัดอาบน้ำ ป้อนนมก้อกินดีปกติดีทุกอย่างดีแล้วพร้อมที่จะกลับบ้านแล้วพยาบาลบอกว่าพุ่งนี้เตียมที่จะกับบ้านได้ให้เตรียมเอาถุงมือถุงเท้าหมวกและผ้าขนหนูมารับลูกแต่จะให้กลับตอนไหนเดี๋ยวจะโทรให้มารับแล้วผมก็ลูกนอนในที่ๆเขาให้เด็กนอนผมกับเมียก็กับบ้านแวะตลาดนัดเจอคนโน้นคนนี้ทักว่าลูกน่าเกลียดน่าชังจังผมดีใจมากเลยพี่แล้วก็มาแวะร้านขายของเด็กซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้แล้วก็กับบ้านมากินเหล้ากับพี่ๆน้องๆแล้วบอกเขาว่าพรุ่งนี้หลานจะมาแล้วนะโว๊ยยยพอถึงวันที่ 24 เช้าประมาณ 6 โมงเช้าผมไปเอาข้าวขึ้นจากน้ำเตรียมจะหว่านวันอังคารเอาขึ้นเสร็จก็กลับมาบ้านเป็นจังหวะเดียวกันที่ผมมาถึงบ้านเห็นเมียคุยโทรศัพท์อยู่พอคุยเสร็จก็ถามว่าใครโทรมาคำตอบคือเมียบอกว่าหมอโทรมาบอกว่าลูกสำลักนมแล้วหัวใจหยุดเต้นกะทันหันให้พ่อแม่รีบมาที่รพ.ด่วนผมก็ได้แต่พูดคำว่าเฮ้ยยยจิงๆเหรออะไรว่ะ และก่อนจะออกจากบ้านนะหมอโทรมาอีกว่า ตอนนี้น้องไม่มีอาการตอบสนองเพราะถ้ามีอาการตอบสนองก็แค่ 15-20 นาทีก็จะมีการตอบสนองแต่ตอนนี่ 1 ชม.แล้วน้องยังไม่อาการเลยและยังให้น้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่แล้วผมก็ถามว่าถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจน้องตายเลยใช่ไหมเขาตอบว่าใช่ผมเข่าอ่อนเลยพี่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินเลยคิดถึงภาพเมื่อวานที่เราไปอาบน้ำลูกเล่นกะลูกเลยพอตั้งสติได้ผมก็พาเมียซ้อนมอไซไปกันเลยพอไปถึงรพ.ก็ไปชั้น 9 เลยเพราะลูกอยู่ชั้น 9 แล้วก็ตรงไปที่ห้องลูกอยู่พอเขาแง้มประตูมาผมก็มองเข้าไปในห้องเห็นพวกหมอๆเขารุมกันอยู่ที่เตียงๆหนึ่งแต่ผมมองเข้าไปก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ลูกผมนะ สักพักพวกหมอก็เดินมาทีหน้าห้องที่ผมยืนอยู่กะเมียเดินมาล้อมเป็นวงคุยอะไรให้ผมฟังก็ไม่รู้แต่สายตาผมมองไปที่เตียงเด็กคนนั้นแล้วผมก็ตัดปัญหาถามเขาว่านั่นลูกผมใช่ไหมแล้วเขาก็บอกง่าใช่ค่ะพอผมเข้าไปนะพี่ผมแบบอึ้งแบบช๊อคกับภาพที่เห็นเมียผมนี่น้ำตาร่วงตั้งแต่ยังไม่ถึงลูกเลยพี่พอผมตั้งสติได้ผมก็หยิบโทรศัพขึ้นมาถ่ายรูปนี่แหละพี่คือที่มาของเรื่อง แต่มันยังไม่จบหรอกพี่มันมีอีกในระหว่างที่ผมพยายามควบคุมตัวเอง ทาง รพ.ก็เอาใบอะไรไม่รู้มาให้ผมเซ็น บอกผมว่าคุณพ่อเซ็นตรงนี้นะค่ะ ผมก็เซนต์โดยมึนๆเพราะผมเจ็บและอธิบายหรือทำอะไรไม่ถูก ภรรยาผมก็เอาแต่ร้อง จนถึงวันนี้เวลานี้ ทาง รพ.ไม่เคยโทรมาถาม หรือรับผิดชอบอะไรเลย ????#ลูกผมต้องตายฟรีโดยที่เค้าไม่ผิดหรือครับ????
#ผมมีสิทธิ์เรียกร้องเพื่อลูกผมบ้างได้ไหม????
#มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกผมกันแน่????""
"ภรรยาผมได้ไปคลอดที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ภรรยาผมคลอดโดยธรรมชาติ น้ำหนักลูกผมอยู่ที่ 3070 กรัม คลอดวันที่ 18/4/60 เวลา 20.15 น. ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ แต่ทาง รพ.บอกลูกผมตัวเหลือต้องเอาเด็กไว้ก่อน ส่วนผมและภรรยาก็กลับบ้าน ทาง รพ. จะแจ้งให้มาดูแล หัดอาบน้ำ หรือเรียนการอุ้มเป็นต้น แต่เค้าจะมีใบให้ผมเซ็นยินยอมให้ลูกอยู่นะครับ ผมก็คิดว่ายังไงอยู่กับหมอก็ปลอดภัยแน่นอน ภรรยาผมไม่สามารถให้นมลูกได้ เพราะเป็นตับอักเสบ ลูกผมจึงต้องดูดนมขวดครับ มาเข้าเรื่องวันเกิดเหตุกัน !!!เหตุมันเกิดวันที่ 23-24 เม.ย 60 วันที่ 23 เช้าผมได้รับโทรศัพจากทางรพ.ว่าวันนีน้องออกจากตู้อบแล้วและทางรพ.อยากจะให้พ่อแม่มาหัดอาบน้ำ ตอน 16.30 น.ผมก็บอกว่าได้ครับถึงเวลาผมก็ไปหัดอาบน้ำ ป้อนนมก้อกินดีปกติดีทุกอย่างดีแล้วพร้อมที่จะกลับบ้านแล้วพยาบาลบอกว่าพุ่งนี้เตียมที่จะกับบ้านได้ให้เตรียมเอาถุงมือถุงเท้าหมวกและผ้าขนหนูมารับลูกแต่จะให้กลับตอนไหนเดี๋ยวจะโทรให้มารับแล้วผมก็ลูกนอนในที่ๆเขาให้เด็กนอนผมกับเมียก็กับบ้านแวะตลาดนัดเจอคนโน้นคนนี้ทักว่าลูกน่าเกลียดน่าชังจังผมดีใจมากเลยพี่แล้วก็มาแวะร้านขายของเด็กซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้แล้วก็กับบ้านมากินเหล้ากับพี่ๆน้องๆแล้วบอกเขาว่าพรุ่งนี้หลานจะมาแล้วนะโว๊ยยยพอถึงวันที่ 24 เช้าประมาณ 6 โมงเช้าผมไปเอาข้าวขึ้นจากน้ำเตรียมจะหว่านวันอังคารเอาขึ้นเสร็จก็กลับมาบ้านเป็นจังหวะเดียวกันที่ผมมาถึงบ้านเห็นเมียคุยโทรศัพท์อยู่พอคุยเสร็จก็ถามว่าใครโทรมาคำตอบคือเมียบอกว่าหมอโทรมาบอกว่าลูกสำลักนมแล้วหัวใจหยุดเต้นกะทันหันให้พ่อแม่รีบมาที่รพ.ด่วนผมก็ได้แต่พูดคำว่าเฮ้ยยยจิงๆเหรออะไรว่ะ และก่อนจะออกจากบ้านนะหมอโทรมาอีกว่า ตอนนี้น้องไม่มีอาการตอบสนองเพราะถ้ามีอาการตอบสนองก็แค่ 15-20 นาทีก็จะมีการตอบสนองแต่ตอนนี่ 1 ชม.แล้วน้องยังไม่อาการเลยและยังให้น้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่แล้วผมก็ถามว่าถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจน้องตายเลยใช่ไหมเขาตอบว่าใช่ผมเข่าอ่อนเลยพี่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินเลยคิดถึงภาพเมื่อวานที่เราไปอาบน้ำลูกเล่นกะลูกเลยพอตั้งสติได้ผมก็พาเมียซ้อนมอไซไปกันเลยพอไปถึงรพ.ก็ไปชั้น 9 เลยเพราะลูกอยู่ชั้น 9 แล้วก็ตรงไปที่ห้องลูกอยู่พอเขาแง้มประตูมาผมก็มองเข้าไปในห้องเห็นพวกหมอๆเขารุมกันอยู่ที่เตียงๆหนึ่งแต่ผมมองเข้าไปก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ลูกผมนะ สักพักพวกหมอก็เดินมาทีหน้าห้องที่ผมยืนอยู่กะเมียเดินมาล้อมเป็นวงคุยอะไรให้ผมฟังก็ไม่รู้แต่สายตาผมมองไปที่เตียงเด็กคนนั้นแล้วผมก็ตัดปัญหาถามเขาว่านั่นลูกผมใช่ไหมแล้วเขาก็บอกง่าใช่ค่ะพอผมเข้าไปนะพี่ผมแบบอึ้งแบบช๊อคกับภาพที่เห็นเมียผมนี่น้ำตาร่วงตั้งแต่ยังไม่ถึงลูกเลยพี่พอผมตั้งสติได้ผมก็หยิบโทรศัพขึ้นมาถ่ายรูปนี่แหละพี่คือที่มาของเรื่อง แต่มันยังไม่จบหรอกพี่มันมีอีกในระหว่างที่ผมพยายามควบคุมตัวเอง ทาง รพ.ก็เอาใบอะไรไม่รู้มาให้ผมเซ็น บอกผมว่าคุณพ่อเซ็นตรงนี้นะค่ะ ผมก็เซนต์โดยมึนๆเพราะผมเจ็บและอธิบายหรือทำอะไรไม่ถูก ภรรยาผมก็เอาแต่ร้อง จนถึงวันนี้เวลานี้ ทาง รพ.ไม่เคยโทรมาถาม หรือรับผิดชอบอะไรเลย ????#ลูกผมต้องตายฟรีโดยที่เค้าไม่ผิดหรือครับ????
#ผมมีสิทธิ์เรียกร้องเพื่อลูกผมบ้างได้ไหม????
#มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกผมกันแน่????""
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
