เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลสัตว์ เมื่อเจอคุณยายเลี้ยงหนูบ้าน!!

เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลสัตว์ เมื่อเจอคุณยายเลี้ยงหนูบ้าน!!

เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลสัตว์ เมื่อเจอคุณยายเลี้ยงหนูบ้าน!!

เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลสัตว์ 
ตอน “อุมาและมิกกี้ นนทบุรี”

เพราะเลี้ยงกระต่ายทำให้ 6 ปีมานี้ จึงจำเป็นต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่ง 1 ในสถานที่ที่ไปบ่อยที่สุด คือ โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ตัวอะไรที่ว่าแปลก และไม่คิดว่าคนจะเลี้ยง ก็เห็นก็เจอ มาหมดแล้ว และไม่ว่า “ลูก”(คำที่เจ้าของส่วนใหญ่ใช้เรียกสัตว์เลี้ยง จะตัวอะไร ก็ใช้คำนี้ ) ของพวกเขาจะเป็นตัวอะไร ทุกครั้งที่ไป มักจะพบเรื่องราวที่ทำให้ประทับใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหน เหมือนครั้งนี้

เช้าวันนั้นเป็นวันที่ไปถึงเร็วมาก จูมง ได้บัตรคิวเป็นตัวแรก ระหว่างที่ขึ้นมารอหน้าห้องตรวจ ก็มียายท่านนึงมานั่งต่อแถว เป็นคิวที่ 2 นั่งอยู่พักใหญ่ ก็เริ่มสงสัยว่า ยายเอาตัวอะไรมาหาหมอ เพราะยาย ไม่มีแม้แต่ ตะกร้า กระป๋อง หรือกรง มีเพียงกระเป๋าสะพายใบเก่าๆ 1 ใบ ที่คล้องอยู่บนบ่า วิญญาณเจ้าหนูจำไม ก็เข้าสิง จิราพร เช่นเดิม บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น
??????

เกต: ยาย ยาย ยายเอาตัวอะไรมาหาหมออ่ะ ไม่เห็นเลย ?
ยาย: มิกกี้
เกต: อยู่ไหนหละ ไม่เห็นยายถืออะไรมา

สิ้นเสียงคำถาม ยายก็เปิดกระเป๋าสะพายให้ดู คุณพระ!!!!!!!!!! มิกกี้ จริงๆด้วย หนูบ้านตัวเบ่อเริ้ม นอนหายใจรวยริน บทสนทนาจึงเริ่มออกรสมากขึ้น

คุณยายอุมา (ตอนหน้าห้องบอกชื่ออุมา พอเข้าห้องบอกชื่ออุไร งงแกอยู่ แต่แกอาจเปลี่ยนชื่อ เอาเป็นว่า ชื่ออุมาแล้วกัน) มีอาชีพ ร้อยพวงมาลัยขาย อยู่ที่จังหวัด นนทบุรี ครั้งแรกที่เจอมิกกี้ มิกกี้ยังตัวแดงๆ อยู่เลย แมวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านคาบมาจากไหนไม่รู้ แต่แมวมันคาบมาเล่น ไม่กิน

ยายเห็นจึงสงสาร จึงช่วยไว้ เอานมกล่องเทให้กิน ไม่นานนัก มิกกี้ก็ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่บ้าน ยายแกเลี้ยงหมา 10 ตัว แมว อีก6 ตัว เจ้ามิกกี้ก็ ถูกเลี้ยงปล่อย รวม กับพี่น้อง ทั้ง 16 แต่แปลก ที่ไม่มีการกัดกัน ทำร้ายกัน ยายสร้างบ้านหลังเล็กๆให้มิกกี้ อยู่ภายในบ้านอีกที มีจานข้าว วางไว้ให้ ทั้งของหมา ของแมว และของมิกกี้

ยาย : 5 วันก่อน ไปธุระต่างจังหวัด ฝากมิกกี้ ไว้กับหลานๆที่บ้าน พอกลับมาก็พบว่า นอนหอบ หายใจรวยริน จึงรีบพามาหาหมอ สงสัย หลานมันจะจุดยากันยุงในบ้าน แล้วปิดประตู 
เกต : ยายอยู่ตั้งนนทบุรี มาถึง ม.เกษตร มายังไง 
ยาย : ก็นั่งรถเมล์มาเรื่อยๆ เอาใส่กระเป๋าไม่ให้ใครบนรถเมล์เห็น กลัวเขารังเกียจ

ถึงตรงนี้ บอกได้เลยว่า ยายแกได้ใจหนูมากมาก เรื่องของความประทับใจยังไม่จบ เมื่อหมอเรียกเข้าห้องตรวจ ทันทีที่หมอเห็นคนไข้ ถึงกับผงะ (เห็นหน้าหมอแล้วขำมาก หมอบอกครั้งแรกในชีวิตที่มีคนไข้เป็นหนูบ้าน ) แต่ด้วยวิญญาณของความเป็นหมอ คนไข้ป่วยมาก็ต้องรักษา ยายแกรีบบอก ว่ามิกกี้อาบน้ำบ่อยมาก บางทีอาบเองด้วย วางกะละมังใส่น้ำให้ แกคงกลัวหมอรังเกียจลูกแก

การรักษา ก็เป็นไปอย่างกล้าๆกลัว แต่ก็ออกมาเรียบร้อยดี มิกกี้ถูกส่งเข้าตู้อบเพื่อรมยา ขยายหลอดลม ระหว่างรอรักษา ยายอุมา ก็พูดถึง ชีวิตแกและสัตว์เลี้ยง ซึ่งฟังแล้วได้แง่คิดมาก

ยายแกบอกว่า “ ถ้าคิดว่าจะเลี้ยงสัตว์สักตัว ต้องนอนข้างถนนกับมันได้ ในความหมายตรงนี้ หมายถึง การไม่คิดทอดทิ้ง กันในยามที่ชีวิตลำบาก แม้แต่นอนข้างถนน ก็ต้องนอนด้วยกันได้ ยายกับลูกชาย เป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน บางครั้งหมามันป่วย ไม่มีเงิน ลูกชายก็ถอดทองไปจำนำ เอาเงินมารักษาหมา คนแถวนั้นก็หาว่ายายกับลูกชายบ้า แต่มาคิดแล้วว่า ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ยายก็แค่พอมีพอกิน แบ่งปันบ้างช่วยเหลือบ้าง

หนูเชื่อไหมว่า ยายขายของได้เงิน วันละไม่กี่บาท ต้องจ่ายค่าอาหารหมา แมว 200-300บาท แต่ยายก็มีเงินใช้ ไม่เคยขาดมือ เราช่วยเขา ก็มีคนอื่นมาช่วยเหลือเราต่อ ช่วยอุดหนุนพวงมาลัย เพราะเขาสงสาร เห็นยายแก่แล้วยังต้องทำงาน มันก็เหมือนน้ำซึมบ่อทราย ที่ไม่มีวันหมด

คนรวยๆทั้งนั้นที่เอาหมาเอาแมวมาทิ้ง ยายเคยเจอ คนขับรถเบนซ์ มาถึงก็เปิดประตู ปล่อยแมวลงมา แล้วเขาก็ขับรถออกไป แมวสวยๆขนยาวๆ (สันนิษฐานว่าจะเป็นแมวเปอร์เซีย) มันลงมาได้ก็ตื่นตกใจ หนีเข้าป่าเข้าพงไป เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมออกมา จนผ่านไปเป็นเดือน มันตัวผอมโซ คงอดจริงๆถึงยอมออกมา ยายก็เอามาเลี้ยง ที่บ้าน

ที่บ้านยาย หมา แมว โดนทิ้งทั้งนั้น ก็เอามารักษา เอามาให้กิน จนสวย ใครอยากได้ ก็บอกให้เขาไป แต่ยายจะบอกเขาทุกคนว่า ถ้าวันไหนก็ตาม มันไม่สวยแล้ว ไม่รักมันแล้ว อย่าเอาไปทิ้ง ให้เอากลับมาคืนยายนะ สงสารมัน สัตว์มันก็เหมือนคน เคยสบาย เคยอยู่กับเจ้าของ มันก็รักเรา พอเอาไปทิ้ง ไม่ใช่ลำบากแค่กาย แต่ใจมันก็คงเจ็บปวดมากเหมือนกัน แต่มันพูดไม่ได้ ยายเป็นลูกที่ถูกพ่อทิ้งยายเลยไม่อยากทิ้งใคร”

ถึงตรงนี้ รู้สึกจุกขึ้นมาถึงคอ นี่คือ ความคิดและน้ำใจ ของหญิงชราจนๆ คนนึงที่บังเอิญพบ หาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน ที่จะเจอคนตรง คนจริง สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำ เป็นสิ่งเดียวกัน ไม่ใช่แค่สร้างภาพว่ารักสัตว์ไปวันๆ

ตอนนั้นคิดว่าจะเอาเงินให้ยาย หรือขอเบอร์ยาย (สรุปว่าไม่ได้ถามหรอกว่ามีหรือไม่)แล้วเอามาประกาศเผื่อใครอยากบริจาคช่วย แต่มาคิดอีกที อย่าดีกว่า เพราะดูแล้วว่า ยายแกก็ทำด้วยความสุขตามอัตภาพ ไม่ได้เจตนาจะขอเงินใคร อีกอย่างกลัวแกคิดว่าเราดูถูกแก จึงลาจากกันด้วยรอยยิ้ม ทิ้งไว้แต่ความประทับใจที่มีต่อกัน

Credit: Jiraporn Moung-Ngam

------------------
A CALL >> เรื่องราวนี้เป็นเรื่องเมื่อ2ปีที่แล้ว หากท่านใดรู้จักคุณยายท่านนี้ โปรดแจ้งA CALL ด้วย ทั้งชื่อ พิกัด และเบอร์ติดต่อ เราต้องการช่วยเหลือคุณยาย

ขอบคุณที่มาจาก " A call for Animal Rights " Walk Rally

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์