ย้อนฟังเสียงตายาย กล่าวทั้งน้ำตา ยืนยันไม่ได้ตัดไม้

สองตายายที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเก็บเห็ดป่า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามหาตัวผู้ต้องหาที่แท้จริงที่ก่อเหตุบุกรุกตัดไม้ต้องห้าม 700 ท่อน ในเขตป่าสงวนพื้นที่ 72 ไร่ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีลักษณะเข้ามาข่มขู่คุกคาม 2 ตายายเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

 (17 มี.ค.59) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้าน การบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยนายอุดม ศิริสอน และ นางแดง ศิริสอน สองตายายที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเก็บเห็ดป่า ไปเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามหาตัวผู้ต้องหาที่แท้จริงที่ก่อเหตุบุกรุกตัดไม้ต้องห้าม 700 ท่อน ในเขตป่าสงวน พื้นที่ 72 ไร่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เคยเข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี2557 ซึ่งในวันนี้ได้นำญาติอีก 8 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีลักษณะข่มขู่คุกคาม 2 ตายายเมื่อวันที่ 8 และ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยนายสงกรานต์ ระบุว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบเสาะข้อเท็จจริงในชั้นศาลฎีกา ซึ่งพบว่ามีการกล่าวหา 2 ตายายว่าได้ร่วมกันบุกรุกตัดไม้แพ้วถางป่า ในเขตป่าสงวน 72 ไร่ ขัดแย้งกับคำให้การต่อพนักงานสอบสวนครั้งแรกที่เป็นการเข้าไปเก็บเห็ดป่าเท่านั้น อีกทั้งคดีนี้มีหลักฐานเพียงรถจักรยานยนต์ของนายอุดม ที่จอดทิ้งไว้ในป่าเพียงคันเดียว ไม่มีหลักฐานอื่นประกอบทั้ง อุปกรณ์เลื่อยยนต์ หรือ ไม้ 700 ท่อน

ทนายสงกรานต์ ยังบอกอีกว่า ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 20 เมษายน นี้ ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 8 และ 15 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ไปพบ 2 ตายาย อ้างว่าเพื่อมาเจรจาถึงเรื่องคดีดังกล่าว

นอกจากนี้มีคนอ้างตัวเป็นตำรวจ จะมาติดต่อขอให้รับตัวไปพบนายตำรวจ เมื่อไม่ได้พบกลับทำการค้นรถจักรยานยนต์ของ 2 ตา ยายโดยไม่มีหมายค้น ซึ่งมีพยานเห็นเหตุการณ์ จึงมาแจ้งความเพื่อขอให้ตำรวจกองปราบ สืบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

ด้านนายอุดม กล่าวทั้งน้ำตาว่า ให้การรับสารภาพในศาลชั้นต้น เพราะความเข้าใจผิดว่าเป็นคดีเก็บของป่า ประกอบกับความบกพร่องทางการได้ยิน และอ่านหนังสือไม่ออก จึงถูกคำพิพากษาจำคุก 30 ปี และลดโทษเหลือ 15 ปี ในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์

ทั้งนี้ นายสงกานต์ ได้นำนายอุดม และนางแดง ศิริสอน ไปขอให้คุ้มครองพยานของสำนักคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ภายหลังถูกข่มขู่คุกคามอีกด้วย

CR.
Workpoint News