เทรนเนอร์ที่ฟิตเนส ที่เป็นครูสอนเรากับเพื่อนๆ มีเชื้อ HIV ดิฉันควรบอกเพื่อนดีไหม

หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล ดราม่า เทรนเนอร์ที่ฟิตเนส ที่เป็นครูสอนเรากับเพื่อนๆ มีเชื้อ HIV ดิฉันควรบอกเพื่อนดีไหม

เป็นกระทู้ร้อนๆของโลกโซเชียล!ที่ได้รับความสนใจแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก สำหรับกระทู้ของเวบดัง pantip.com ที่ชื่อ ว่า "เทรนเนอร์ที่ฟิตเนส ที่เป็นครูสอนเรากับเพื่อนๆ มีเชื้อ HIV ดิฉันควรบอกเพื่อนดีไหม" เนื้อหาของกระทู้บอกเล่าว่า ผู้ตั้ง เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและได้ไปตรวจสอบรายละเอียดประวัติของคนไข้ซึ่งเป็นคนรู้จักกันและพบว่า คนไข้รายนั้นมีประวัติป่วยติดเชื้อ HIV รายระเอียดระบุว่า

"เรากับเพื่อนๆในกลุ่ม เข้ายิมกัน แต่เราไปบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่เพื่อนของเราไปทุกวันเลยค่ะ สนิทกับเทรนเนอร์มาก และมีนัดกันไปทานข้าวด้วย มีการเม้นทักในไอจี ในเฟสบุ๊ก กันบ่อยๆ ด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็เฉยๆ แต่รู้สึกชอบหุ่นน้องเทรนเนอร์มาก เพราะหุ่นดี สุขภาพดี ในคำแนะนำในการออกกำลัง และทั้งเรื่องโภชนาการได้เป็นอย่างดี

เราทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้ววันหนึ่ง เจอน้องเทรนเนอร์คนนี้แหละมาโรงพยาบาลก็เข้าไปทัก ดูน้องเขาหลบๆ เราถามว่าเป็นอะไรเหรอ มีอะไรให้เราช่วยไหม (เราทำแผนกการเงินผู้ป่วยใน IPD) เขาบอกว่าแค่มาส่งเพื่อน เพื่อนเป็นไข้ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว เราก็จับแขนจับกล้ามลวนลามน้องเค้า ตามปกติด้วยความสนิทกันแล้วก็แซว มานั่งเล่นห้องพี่ก็ได้นะ ห้องพี่มีขนมกับน้ำผลไม้ น้องตอบว่าผมทานมาแล้ว ขอตัวไปหาเพื่อน ก็แยกย้าย

ด้วยความเผือกระดับรุนแรง จึงเข้าไปในระบบลงทะเบียนของโรงพยาบาลค่ะปรากฎว่าน้องเขา มาตรวจรักษาจริงๆ ก็เลยแอบดูประวัติการรักษา เอารหัส HN ไปค้นในหน้าผู้ป่วย OPD ช๊อกค่ะ มารับ ยาต้านไวรัส B24 ไม่คิดเลยว่าโรคนี้ จะใกล้ตัวขนาดนั้น ความสัมพันธ์กับเพื่อนเราไม่รู้ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วเราไม่ได้รังเกียจคนเป็นโรคนี้นะคะ แต่ไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไง ว่าอย่าให้ความสัมพันธ์เกินเลยไปกว่านี้"

โดยจากกระทู้ดังกล่าว พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เกี่ยวกับผู้โพสต์ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ป่วย และถือเป็นการผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรงในการเก็บรักษาความลับของผู้ป่วย และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี ในปัจจุบันซึ่งพบว่า ผู้ป่วยสามารถรักษาตัวเองให้แข็งแรงและลดการเผยแพร่เชื้อด้วยการกินยาต้านไวรัสและดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้เป็นปกติ

หลังจากเป็นประเด็นร้อนๆในโลกโซเชียล ทางด้าน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

ขอบคุณท่านที่ส่งมาให้ เรื่องนี้อ่านแล้วมีประเด็นน่าสนใจว่า
1.ความลับผู้ป่วยมีความสำคัญมากต้องดูแลให้ดี เป็นคดีและดราม่าได้
2.โรงพยาบาลต้องปกป้อง ข้อมูลคนไข้ให้ได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะข้อมูลที่ออกมาแล้วเกิดปัญหาต่อตัวคนไข้
3.โรค HIV ในปัจจุบันสามารถควบคุมได้ด้วยยาต้านไวรัสถ้ารักษาตัวสม่ำเสมอต้องให้ทุกคนเข้าใจ
4.การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อในที่ทำงานเดียวกันไม่ติดต่อ ยกเว้นกรณีมีเพศสัมพันธ์ ให้เลือด แม่ลูก ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
5.การมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเสี่ยงนี้ต้องป้องกันแบบถูกวิธี และต้องป้องกันกับทุกคน(Universal precaution)โดยถือว่ามีความเสี่ยงไว้ก่อนอย่าเชื่อใจใครง่ายๆพลาดแล้วจะเสียใจไปชั่วชีวิต
6.หน้าตาและความแข็งแรงไม่ได้บ่งบอกว่าคนนี้ปลอดภัยและไม่มีเชื้อใดๆ