จำเป็นต้องเรียกระดมทหารกองหนุนที่มีอยู่ 1 ล้าน 2 แสนคนให้หมุนเวียนกลับเข้ารับการฝึกทหารซ้ำใหม่ปีละ 4.5 หมื่นคน หรือคิดเป็น 2.5 เปอร์เซ็นต์ของกำลังพลสำรอง
ล่าสุด ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบ "ร่าง พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง" (วาระแรก) อย่างสะดวกโยธิน
สรุปว่า สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือให้อำนาจกระ- ทรวงกลาโหมสั่งเรียกระดมทหารกองหนุนทุกนาย ให้กลับมาฝึกอาวุธใหม่ ฝึกวินัยทหารใหม่ เพื่อให้มีความฟิตเปรี๊ยะพร้อมใช้งานได้จริงๆ
ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการออกกฎหมายเพื่อเรียกระดมชายไทยที่เป็นทหารกองหนุนให้กลับไปใช้ชีวิตเป็นทหาร กินนอนในค่ายทหารเป็นเวลาไม่เกิน 2 เดือน
ชาย ไทยที่อยู่ในข่ายต้องถูกเรียกกลับไปเป็นกำลังพลสำรองของ 3 เหล่าทัพ มี 4 กลุ่ม ดังนี้คือ
1.นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ
2.นายทหารชั้นประทวนนอกราชการ
3.ทหารกองหนุนประเภท 1 (คือผู้ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือผู้ที่ได้รับยกเว้นเนื่องจากเรียน รด. ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี)
4.ทหารกองหนุนประเภท 2 (คือผู้ที่เข้ารับการเกณฑ์ทหารแต่โชคดีจับได้ ใบดำ รวมถึงทหารกองหนุนประเภท 1 ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีถึง 60 ปี)
ผู้มีคุณสมบัติตามสเปกใน 4 กลุ่มนี้ จะได้รับจดหมายเรียกตัวจากกระทรวงกลาโหมให้ไปเข้าค่ายฝึกกำลังพลสำรอง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปีละ 4.5 หมื่นคน
โดนหมด ไม่ว่าบิ๊กเนม หรือโนเนม
โดนหมด ไม่ว่าคนรวย หรือคนจน
โดนหมด ไม่ว่าทำราชการ หรือ ทำงานเอกชน
ย้ำว่า การเรียก ระดมกำลังพลสำรองไม่ใช่ขึ้นกับความสมัครใจของแต่ละคน แต่เป็น "คำสั่ง" ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
ใครเบี้ยว...ไม่ยอมกลับไปฝึกวิชาทหารมีความผิดอาญา
นายจ้างที่ไม่จ่ายค่าแรงลูกจ้างที่ถูกเรียกไปฝึกกำลังพลสำรองก็มีความผิดอาญาเช่นกัน