อยากให้ลูกเป็นดารา-เข้าวงการ วันนี้มีคำตอบ!?

อยากให้ลูกเป็นดารา-เข้าวงการ วันนี้มีคำตอบ!?

วันนี้ขอพูดเรื่องดาราเด็กกับขุ่นพ่อขุ่นแม่นะครับ คืออยากจะเกริ่นก่อนว่า ผมรู้ว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูก
สมัยนี้มีพ่อแม่หลายๆคนที่ผลักดันอยากให้ลูกตัวเองเป็นดาราด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง เพราะลูกตัวเองน่ารัก อยากให้คนรู้ว่าลูกเราน่ารักมาก คงเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งประเทศ เพราะลูกมีความอยากแสดง เป็นเด็กที่มีความกล้าแสดงออก เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์แต่เด็ก


เพราะปัจจัยเรื่องปากท้อง (อันนี้ของผมนะ)
ดาราเด็กไม่ใช่อาชีพที่ผิดหรอกครับ ไม่ใช่อาชีพที่ไม่ดี
ผมขอใช้คำว่าอาชีพ เพราะถ้าคุณทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วคุณได้เงิน นั้นคืออาชีพ
เด็กวัย4-5ขวบ เค้าเลือกเองไม่ได้หรอกครับว่าเฮ้ย นู๋อยากเล่นละคร อยากพากเสียง อยากแสดงหนัง
มันมาจากคุณพ่อคุณแม่ทั้งนั้น ถ้าอ่านแล้วเหมือนผมโทษพ่อแม่ ขอให้กลับไปอ่านบรรทัดสองข้างบนนะครับ

การเป็นดาราแต่เด็กมันไม่ง่าย เด็กควรมีเวลานอนที่ถูกต้องตารางเวลาชีวิตประจำวัน ควรถูกจัดให้เป็นระเบียบ ควรให้เด็กได้อยู่กับเด็กวัยเดียวกัน ไม่ใช่โตมาแล้วเจอกับผู้ใหญ่เลย..ปัญหามันจะเริ่มจากตรงนี้เลยครับ เพราะถ้าเราไม่ถูกฝึกการอยู่ร่วมกับคนวัยเดียวกันตั้งแต่เล็กๆโตมามันจะลำบากมาก จะเข้ากะคนอื่นยากมาก..

พอเด็กเริ่มโตขึ้นและดัง จะเป็นพ่อแม่ที่ภูมใจ แต่ลูกจะได้รับความกดดัน ทุกวันที่ออกจากบ้าน เด็กจะถูกทัก ถึงมันจะเป็นเรื่องดี นู๋น่ารักจัง นู้นนี้นั้น แต่เด็กมันไม่เข้าใจหรอกครับว่าทักกูทำไม ยิ่งไปโรงเรียนก็จะถูกมองแปลกแยก เพื่อนจะมองเราอีกแบบ มันจะมีสองอย่าง มีเพื่อนเยอะกะไม่มีเพื่อนเลย หรือมีเพื่อนที่คิดว่าเราได้สิทธิพิเศษ บลาๆๆๆ ถึงมันจะฟังดูไม่รุนแรงสำหรับผู้ใหญ่แต่สำหรับเด็กที่กำลังโตมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกดดันมาก

เรื่องเวลางานอีก สมัยนี้ผมไม่รู้ว่าเป็นไงนะ แต่บางทีการอดหลับอดนอนเรื่องการขาดเรียนมันมีผลมาก ขาดเรียนบ่อยๆ โตไปก็ไม่รู้จะทำมาหาแดกอะไร ถ้าไม่มีเป้าหมายในชีวิตนอกจากพ่อแม่ให้แสดงละคร เพื่อนก็จะเริ่มหายไปเรื่อยๆเพราะมึงไม่มาเรียนบ้าง ขาดบ่อยบ้าง
และเด็กอ่ะส่วนมาก ถ้ามันมีความรู้สึกอะไรมันก็พูดออกมาตรงๆไหม แต่ถ้าอีกสามสิบนาทีจะถ่ายรายการพ่อแม่ โปรดิวเซอร์ บอกว่าอย่าร้องนะ ต้องพูดแบบนี้นะแบบนี้นะ มันก็คือการเริ่มต้นของอารมณ์ในจิตใจเด็กและจุดเริ่มต้นของการโกหก
พอถึงวัยที่เริ่มไม่ดังแล้วหรืออยู่ในวัยที่จะวัยรุ่นก็ไม่ใช่เด็กก็ไม่ใช่ มันจะเริ่มลำบากล่ะจุดนี้ ออกไปไหนคนจะเริ่มถามว่าอ้าวทำไมไม่เล่นแล้ว ไม่ดังแล้วหรอ บลาๆ 80เปอเซ็นของดาราเด็กจะดับหมดในวัยนั้น ที่เหลือคือผ่านช่วงนั้นมาได้แล้วยังได้บทแล้วกลับมาดังและอยู่ได้ ก็ดีสำหรับเค้า แต่ความกดดันที่สั่งสมมา ตั้งแต่เด็กๆ เด็กมันจะโหยหาความสุขที่มันขาดไปตอนเด็กๆเลยทำให้ดาราเด็กหลายๆคนทั่วโลก ติดยาบ้างติดเหล้าบ้าง ฆ่าตัวตายบ้าง..

สิ่งที่ผมพูดมาคือเรื่องจริงเพราะผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผมมีเพื่อนดาราเด็กหลายคนที่ทำงานปกติ
ที่ยังดังอยู่ ที่ยังติดยาอยู่ ที่คิดจะฆ่าตัวตายอยู่

แต่ปัจจัยในชีวิตคนเราที่ทำให้เราโตมาเป็นคนๆนึงได้มันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ทุกๆอย่างมันสั่งสมมาเพื่อให้เราเป็นคนๆนึงในวันนี้ ผมไม่เคยโทษแม่ผม ถ้าตอนนั้นครอบครัวมีตังพอ ผมก็คงไม่เคยเป็นดาราเด็กมีเฟสบุ๊คมีเพื่อนสองสามร้อยคน จบมหาลัย อาจจะสายคอมแต่หางานไม่ได้ ทำงานร้านขายของที่ไหนสักที่

ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนจะเป็นอย่างที่กล่าวไว้ แต่ผมมั่นใจว่า 50เปอเซ็นจะมีปมด้อยแน่นอนถ้าโตมา
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านมีเงินมีทองพอแล้ว ก็อยากให้คิดดีๆ ถ้าลูกรักการแสดงก็ส่งเรียนการแสดง แต่ควรให้เค้าตัดสินใจเมื่อเค้าถึงวัยที่พอตัดสินใจได้..

บางคนอาจถามผมว่า แล้วมึงจะหาเด็กที่ไหนมาแสดงบทเด็กว่ะ มันมีอยู่แล้วครับ เพราะถึงผมพิมไป มันก็ยังมีแบบนี้อยู่ ผมแค่อยากพิมให้คนที่สามารถเข้าถึงผมได้ ได้ ได้อ่านและได้คิด โดยเฉพาะพ่อแม่
ผมรักแม่ผมเสมอและผมไม่เสียใจที่ผมเป็นผมทุกวันนี้

หลายๆคนถามผมว่าทำไมผมมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ นี้อาจจะเป็นข้อดีข้อเดียวของการเป็นดาราตั้งแต่เด็กเพราะเราโตมากับผู้ใหญ่..

ผมรักแม่ผมและผมดีใจที่วันนี้ผมยังกับตัวทันไม่ทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายเหมือนดาราเด็กอีกๆหลายคน ทั้วมุมโลก

‪#‎เอายาหม่องถ้าตาให้ร้องให้ตั้งแต่สี่ห้าขวบตอนเข้าฉากก็ทำมาแล้ว‬#‎โดนดุให้ร้องไห้ตอนเข้าฉากก็ทำมาแล้ว‬ ‪#‎โดนบังคับให้สัมภาษว่าพ่อติดเหล้าแล้วทิ้งเราตอนเด็กๆก็ทำมาแล้ว‬


ที่มา : Jino Schütz

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์