เฟซบุ๊ค "นารากร ติยายน" ผู้ประกาศข่าวคนดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ถ้ามีใครสักคนประกาศว่า "ฉันเป็นนักพูด" ต๊ะจะถามเค้าว่า "ตั้งแต่เกิดมาคุณมีครูกี่คน?"
โพสต์ต่อไปนี้วิชาการล้วนๆ #กรุณางดดราม่า
ต๊ะจะไม่บอกว่าตัวเองเป็น "นักพูด" แต่ต๊ะ "พูดเป็นอาชีพ" 40กว่าปีที่ผ่านมาเราดำรงชีวิตด้วยการพูด ในบริบทต่างๆ กัน ต่างกรรมต่างวาระ ทุกครั้งที่ต้องทำการ"พูด" ต่อหน้าคนจำนวนมาก เราจะกลั่นกรองคำพูดจากสมองผ่านริมฝีปาก เราจะศึกษาวัตถุประสงค์ของงาน และประเมินคนฟังก่อนการขึ้นพูดทุกครั้ง กระบวนการนี้คุณจะทำได้ดีและถูกต้อง คุณต้องมี "ครู"
ครูคนแรกคือคุณอา กรรณิการ์ ติยายน คุณอาเป็นอาจารย์สอนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่พูดไม่ว่าจะเรื่องอะไร คุณอาจะคอยติงว่าพูดอย่างนั้นไม่ถูก ต้องพูดอย่างนี้ถึงจะดี
ครูคนที่สองคือครูสอนภาษาไทยที่ยุพราชวิทยาลัย ท่านมองเห็นแววความช่างพูดของเรา และพาตระเวณแข่งขันโต้วาทีตามงานต่างๆ ต่อมาเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเราเจอ อ.อดิศักดิ์ บ้วนกียาพันธ์ อาจารย์บ้วนเป็นนักจัดรายการวิทยุเพื่อการเกษตร คนนี้เป็นคนปรามเราว่าอย่าหลงระเริงว่าพูดเก่ง เรายังเด็กต้องหัดอ่านหัดฟังให้มาก
"การพูดที่ดีต้องมีพื้นฐานจากความคิดที่ถูกต้อง"
เมื่อมาเรียนต่อปริญญาโทที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ต๊ะเจออาจารย์เก่งๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ รศ.จุมพล รอดคำดี อดึตคณบดีนิเทศ จุฬา และ ผอ.สถานีวิทยุจุฬา FM 100.5 อ.จุมพลเป็นผู้ชักนำต๊ะเข้าสู่วงการ "พูดเป็นอาชีพ" จากสถาบันการศึกษาเข้าสู่วงการวิทยุและโทรทัศน์
การจะพูดให้ได้เงิน และยังได้รับการยอมรับนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะมีวันนี้ ต๊ะต้องผ่านจอมยุทธด้านการพูดอีกหลายคน แต่ละท่านถือเป็นที่สุดในวงการ และต๊ะยังจดจำท่านในฐานะผู้มีพระคุณเสมอ จะเป็นใครบ้างนั้น ไว้มาต่อในโพสหน้านะคะ #ไม่ใช่มหากาพย์ #อย่าดราม่านะเธอ #ไม่พาดพิงถึงนักพูดผู้โด่งดังนะจ๊ะ ในภาพอาจจะมี ต้นพืช และ สถานที่กลางแจ้ง