จากกรณีที่เป็นข่าวดังจนคนวิจารณ์กันไปทั่วประเทศ กรณีที่วิศวกรวัย 53 ปี ได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นที่เหมารถตู้ขับมา ก่อนจะมีเรื่องราวถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างการและยิงต่อสู้ จนกระสุนโดนเด็กอายุ 17 ปีเสียชีวิต
ล่าสุดทนายความสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนสุข โดยระบุข้อความทั้งหมดว่า
"ภาพชายวัย50ปีพร้อมภรรยาและลูกวัย13ปีและมารดาถูกกลุ่มวัยฉกรรจ์และ วัยรุ่นรวม13 คนเป็นชาย 12 คน อายุระหว่าง 17ปี ถึง 21 ปี และหญิง1คนวัย 15 ปี ซึ่งได้โดยสารมากับรถยนต์ตู้โดยสารเพื่อมาเที่ยวที่บางแสนแล้วเกิดเหตุบริเวณอ่างศิลาใกล้ร้านอาหารโต้รุ่งโดยมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งลงจากรถตู้แล้วปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายคนขับรถยนต์เก๋งกับพวกในเวลากลางคืนจนได้รับบาดเจ็บ
คดีนี้นอกเหนือจากการดำเนินคดีกับชายวิศวะแล้วนั้นสิ่งที่กระผมและประชาชนหลายท่านประสงค์ที่จะนำกราบเรียนต่อท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ที่เคารพว่า
"ได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นในความผิดทางอาญาและความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้แล้วหรือยัง? "ในความผิดฐาน
1. ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ(ตามปรากฏในคลิปส์)
2. ขับรถโดยประมาทเป็นที่น่าหวาดเสียวฯ
และความผิดอื่นๆ
จากคลิปและภาพที่ปรากฏต่อหน้าสาธารณะชนและสื่อมวลชนจะเห็นได้ว่ามีการร่วมกันลงมือทำร้ายร่างกายชายคนดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บฯและในความผิดอื่นๆพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจแสนสุขได้มีการนำส่งตัวชายวิศวะคนดังกล่าวไปให้แพทย์ทำการชันสูตรบาดแผลแล้วหรือยังและมีการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลหรือกลุ่มวัยรุ่นแล้วหรือยัง??
เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
กรณีที่ชายวิศวะที่ขับรถยนต์เก่งได้ใช้อาวุธปืนขนาด.380 แมกกาซีนซึ่งปืนกระบอกนี้สามารถบรรจุกระสุนในรังเพลิงได้ถึง6นัดโดยชายคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนของตนซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีและให้ใช้โดยได้ยิงไป1นัดกระทั่งถูกวัยรุ่นหนึ่งคนหนึ่งจนถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุโดยกระสุนปืนยังอยู่ในแมกกาซีนอีก 5 นัด
ชายวิศวะถูกตั้งข้อหาในความผิดทางอาญาดังต่อไปนี้
1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
2. พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
โดยแนวทางต่อสู้คดีของชายวิศวะ อาจเป็นได้ดังนี้
เมื่อพิเคราะห์จากพยานบุคคลและพยานวัตถุซึ่งเป็นคลิปส์ภาพเคลื่อนไหวซึ่งหากชายวิศวะคนดังกล่าวนั้นมีเจตนาที่จะยิงวัยรุ่นคนดังกล่าวที่ได้มากลุ้มรุมหรือรุมทำร้ายหรือล้อมรถยนต์แล้วนั้นเขาก็สามารถที่จะยิงได้มากกว่า1นัดแต่เขาก็หาได้ยิงไม่ทั้งที่สามารถยิงได้ ใช่หรือไม่?
จากพฤติการณ์แห่งคดีเชื่อได้ว่าภยันตรายกำลังใกล้จะมาถึงตัวผู้ต้องหาและครอบครัวซึ่งมีภรรยามีมารดาและบุตรของผู้ต้องหารวม 4 คน ดังนั้นผู้ต้องหาจึงมีความชอบธรรมที่จะป้อง กันภยันตรายได้ตามสมควร ใช่หรือไม่?
ซึ่งในสภาวะเช่นนั้นโดยวิญญูชนแล้วย่อมเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวย่อมจะต้องมีอาวุธซึ่งสามารถทำอันตรายผู้ต้องหาและครอบครัวได้ ใช่หรือไม่?
ฉะนั้นการที่ชายวิศวะซึ่งเป็นผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายเพียง1นัดและกระสุนถูกผู้ตายและผู้ตายถึงแก่ความตายนั้นย่อมถือได้ว่าการกระทำของผู้ต้องหานี้พอสมควรแก่เหตุ ใช่หรือไม่?
แต่ ณ ขณะนี้สิ่งที่กระผมและประชาชนโดยทั่วไปใคร่ขอกราบวิงวอนให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ได้โปรดพิจารณาดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้อย่างเฉียบขาด!!!!!"