เมื่อเศรษฐีทนความเกรียนของลูกไม่ไหว จึงส่งตัวไปดัดนิสัยแบบนี้!!!

ลูกเศรษฐีจำนวนไม่น้อย มักหลงระเริงในความสุขความสบายของทรัพย์สินที่พ่อแม่หาไว้ให้ ซึ่งหลายคนก็เสียคนไปเลย แต่ในขณะเดียวกันพ่อแม่ร่ำรวยบางรายก็ไม่อาจทนดูให้ลูกทำทุกอย่างพัง
Alex วัย 16 กับ Ethan วัย 18 เป็นลูกของเศรษฐี พวกเค้าเกิดมาสุขสบาย ได้กินได้อยู่ในลอนดอนแบบหรูมาโดยตลอด แต่แล้วชีวิตของเด็กทั้งสองก็พลิกผันแบบไม่ทันตั้้งตัว เมื่อคุณพ่อคุณแม่อย่าง Susan กับ Tim ได้ตัดสินใจว่าจะส่งทั้งสองไปปรับนิสัย ด้วยการใช้ชีวิตร่วมกับชนเผ่า Ashaninka ในป่าลึกแถบเปรู!!

Tim ผู้พ่อเล่าว่า "เธอมีอะไรหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง และผมว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ใช่แค่การเอาแต่นอนอยู่บนกลีบกุหลาบตลอดเวลา" ส่วน Susan ก็เสริมว่า "เธอแทบไม่เคยเห็นวิธีการใช้ชีวิตของคนอื่นมาก่อนเลย" ฉะนั้นพ่อกับแม่จึงตกลงที่จะส่งพวกเค้าไปลุยกับชีวิตชนเผ่า กับรายการ Tribal Teens

ด้านลูกชายอย่าง Ethan เองก็แสบไม่แพ้กัน เขาประท้วงว่า "ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ทั้งที่ใช้ชีวิตทั้งวันอยู่บนเตียงก็น่าจะพอแล้ว นี่ถ้ามีการแข่งขันเฟ้นหาคนขี้เกียจที่สุดในโลก ผมก็จะไม่ไปเข้าร่วมด้วยซ้ำ เพราะผมคือโคตรตัวพ่อแห่งความขี้เกียจ" นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า "สำหรับผม ถ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดูยากลำบากเมื่อไหร่ ผมก็จะไม่พยายามทำอะไรเลย"

ด้วยทัศนคติที่ดูหลุดโลกและเสียคนเหล่านี้ ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาอยู่กับชนเผ่า และในช่วงแรก Alex ก็เอาแต่บ่นว่า "พวกเค้าหลับกันบนท่อนไม้ แถมยังอาบน้ำในแม่น้ำที่แสนสกปรก นี่พวกเราต้องอยู่ที่นี่กี่วันกันล่ะเนี่ย? รู้อะไรมั้ย นี่น่ะเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเท่าที่ชั้นเคยทำ"

แต่แล้วชาวชนเผ่าก็สอนให้เจ้าหนูลูกเศรษฐีไม่เอาไหนรู้จักการออกหาอาหาร ล่านก ล่าสัตว์ รวมถึงทักษะจับปลา ซึ่งช่วงแรก Ethan ประท้วงหนักด้วยการไม่ยอมตื่นนอนออกจากเตียง และนั่นทำให้ทางชนเผ่าตัดสินใจปรุงยาสมุนไพรสูตรพิเศษไว้เพื่อรักษาอาการขี้เกียจของเค้า

ผู้เฒ่าชนเผ่าบอกว่า "ที่นี่ไม่มียายุคโมเดิร์น และสมุนไพรคือวิธีที่เราใช้รักษาคนในชนเผ่า มันสามารถรักษาความขี้เกียจและนำความแข็งแรงกลับมาสู่ตัวผู้กินอีกด้วย"

แม้จะฟังดูตลก แต่อันที่จริงน่าจะเป็นกุศโลบายเสียมากกว่า และในที่สุด Ethan ก็เริ่มสำนึกและเริ่มทำตัวดีขึ้นขณะที่อยู่ในชนเผ่า ตอนแรกเค้าคิดจะล้มเลิกเรื่องการเรียนมหาวิทยาลัย แต่ภายหลังเค้าได้เปลี่ยนความคิดที่จะกลับไปเรียนต่ออีกครั้งและบอกว่า "ตอนนี้ผมได้ค้นพบแล้วว่าความทุ่มเทคือสิ่งสำคัญ ผมอยากสานสัมพันธ์กับครอบครัวอีกครั้ง ผมเหมือนค้นพบแรงบันดาลใจที่หล่นหายไป"

ส่วน Alex ก็บอกว่า "ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย มากซะยิ่งกว่าการใช้ชีวิตตลอด 16 ปีที่ผ่านมาของตัวเองซะอีก และการได้อยู่กลางป่ากับเผ่า Ashaninka ก็ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่จะติดตัวไปชั่วชีวิต"