ข้อความระบุว่า ขอให้ลูกศิษย์ทุกท่านโปรดอ่านข้อความด้านล่างนี้นะคะ...ท่านฝากเอาไว้เท่านี้ค่ะ
บวชมา 33 ปี มีตำนานเล่าว่า โยมแม่เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย หมอบอกว่าอยู่อีก 6 เดือน บวชมาโดยไม่ได้ตั้งใจจะอยู่นานแบบนี้ ได้ไปบนหลวงพ่อขาว ถ้าโยมแม่ไม่ตายภายใน 6 เดือน จะบวชให้ 30 พรรษา และอธิฐานว่าจะอยู่เท่ากับรัชกาลที่ 9 ถ้าสิ้นพระชนม์เมื่อใดถือว่าหมดสัญญา อยู่มาเกิน 3 ปีแล้ว 33 พรรษา ลาภยศ สรรเสริญ ชื่อเสียง ไม่ยึดติด บวชมาทำแต่ความดี ช่วยเหลือพระพุทธศาสนาทุกวัดทุกอาราม ช่วยเหลือสังคม พร้อมทั้งคนยากจน ไม่เคยขาด ตั้งแต่บวชมาสร้างวัดสร้างวาจนเจริญ ไม่เคยขาดความเมตตาต่อทุกคน แม้กระทั่งช้างม้าวัวควาย สัตว์ต่างๆ ภายในวัด ไม่เคยบกพร่องแม้แต่ชีวิตเดียว ไม่เคยโกหก ไม่เคยทำลายชื่อเสียงผู้อื่น ไม่เคยอยากได้อะไรจากผู้อื่น ไม่เคยขอข้าวของต่างๆ จากผู้หนึ่งผู้ใด แม้กระทั่งปัจจัย ไม่เคยเบียดเบียนญาติโยม ทำทุกอย่างถึงที่สุด ไม่เคยขัดแย้งกับพระกับเณรกับชี ส่งเสียให้เล่าเรียน ลูกศิษย์ทั้งหลายได้ดิบได้ดี เป็นครูบาอาจารย์ เป็นปลัดอำเภอ เป็นนายร้อยจปร. 21 นายร้อย เป็นผู้พิพากษา 2 ท่าน เราไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีตำหนิใดๆ กับผู้หนึ่งผู้ใด แม้กระทั่งญาติโยมและพระภายในวัด มีทั้งหมด 11 สาขา ล้วนแต่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ สร้างวัดวาอารามเจริญรุ่งเรืองทุกวัด เราทำดีที่สุดแล้ว เราไม่อยากทำให้พระพุทธศาสนาด่างพร้อยเพราะเรา เราชอบชนไก่เป็นชีวิตจิตใจ เริ่มแรกที่เลี้ยงไก่ชน เพราะเป็นไก่ของสมเด็จวัดชนะสงครามองค์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ออกลูกออกหลานมาเต็มวัด และเคยบริจาคให้กับประชาชนเอาไปแกงเอาไปกินเอาไปขาย ไม่ทำตามสัญญาว่าขอไปเพาะเลี้ยงทำพันธุ์ จึงเลี้ยงดูต่อสู้ตีกันตายทุกวัน จึงเลี้ยงเอาไปชนเพื่อเปิดให้สัตว์เดรัจฉานสร้างกุศลผลบุญ เวลาไปชนทุกครั้งจะเก็บปัจจัยรวบรวมทำบุญสร้างวัดเขาอิติสุคโต สร้างบ้านคนจน 11 หลัง รวมเป็นเงินหลายล้านบาท และเราก็ชอบ เลิกไม่ได้ สักวันหนึ่งจะต้องมีทุกข์มีภัยในการชนไก่ของเรา เพราะเราเลิกไม่ได้ ทนให้เขาตำหนิติติงมานานแล้ว อีกอย่างเคยขอร้องพระสาขาที่มีเรื่องกับข้าราชการ ได้ไปขอร้องผู้ว่าราชการประจวบคีรีขันธ์ หากย้ายข้าราชการคนนี้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาท เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างพระกับข้าราชการในพื้นที่ ท่านผู้ว่าได้ย้ายข้าราชการคนนั้นแล้ว จะให้ยุติการฟ้องร้อง แต่พระสาขาไม่ทำตามสัญญา ผิดสัจจะวาจากับผู้ว่าฯ เราละอายใจยิ่งนัก ที่รับปากผู้ว่าฯ จะยุติเรื่อง แต่พระสาขาไม่ยอมเชื่อ จึงรับผิดชอบปิดตำนานเกจิอาจารย์วัดเขาอิติสุคโต (ลาสึก)
อย่ามายึดติดบุคคล ศาสนาก็ดำรงค์อยู่ ขอให้ช่วยวัดเขาอิติสุคโต เราก็จะไม่ไปไหน ก็จะอยู่ช่วยทะนุบำรุงวัดเขาอิติสุคโตจนชีวิตหาไม่ ส่วนเครื่องรางของขลังที่ออกไปนั้น ไม่ต้องกลัวเสื่อม ให้เก็บเอาไว้ให้ดี จะมีราคาควรเมืองในวันข้างหน้า และอยากบอกว่าคนที่เราให้แสงสีทองไปเพื่อประกวดนางงามและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย จึงให้ไป แต่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ยอมเอาแสงสีทองที่หลวงพ่อมอบให้มาคืน ไม่รักษาสัจจะวาจา แสงสีทองนั้นปฏิบัติได้มา ไม่ยอมเอามาคืนตามสัญญา เราอยู่ไม่ได้แล้ว เราถือสัจจะวาจายิ่งกว่าชีวิต จึงขอปิดตำนานเจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต
ขอออกความคิดเห็นเรื่องท่านเจ้าอาวาส ให้พระนกรักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโตไปก่อน ให้พระกิตเป็นรองเจ้าอาวาส เมื่อถึงเวลา พระที่ไปเรียนวิปัสสนาอยู่ที่พม่า ให้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อ ขอฝากไว้แค่นี้
และคนนำ น้ำตาล ชลิตา ไปพาดพิงได้อย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ทางวัด ได้โพสต์ข้อความเชียร์ น้ำตาล ที่เป็นศิษย์วัด ด้วย
งานนี้คงต้องรอถามเจ้าตัวเองว่า เรื่องนี้มันเป็นอย่างไร และของขลังนี้จะเป็นสัจจะวาจาหรือไม่ ต้องคอยติดตาม