จากกรณี "ข่าวสด" ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของ น้องไทเกอร์ ธนกร พิศนุภูมิ อายุ 16 ปี อดีตดาราเด็กสู้ชีวิต ที่ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และต้องเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่าเทอมในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย หลังสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ทำให้ต้องดิ้นรนด้วยการไปทำงานพิเศษ ซึ่งเมื่อเรื่้องถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้เข้ามาช่วยเหลือ และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
โดย น้องไทเกอร์ ได้เปิดใจกับอีกครั้งว่า หลังเรื่องของผมถูกนำเสนอออกไป มีผู้ช่วยเหลือบริจาคเงินเข้ามาจำนวนหนึ่ง ผมขอขอบคุณทุกคนมาก ขอบคุณจริงๆ รวมถึงผู้ที่เข้ามาชี้แนะช่องทางในการทำงาน และให้กำลังใจกับผม ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ผมสัญญาว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้สำหรับเรื่องเรียนเพียงอย่างเดียว โดยจะใช้ให้คุ้มค่าและประหยัดที่สุด ทั้งยังจะช่วยให้ผมไม่ต้องทำงานพิเศษอย่างหนักเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งต้องทำโดยไม่ได้หยุดพักผ่อน ทำให้ส่งผลกระทบกับร่างกายอย่างมาก และยังจะทำให้ผมมีเวลาทบทวนตำราเรียน แต่อย่างไรก็ตามผมยังไม่ทิ้งงานที่ทำทุกวันนี้อย่างแน่นอน อย่างน้อยๆตั้งใจว่าจะทำไปจนกว่าจะเปิดเทอม ในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้มีรายได้ในการใช้จ่ายชีวิตประจำวัน
น้องไทเกอร์ บอกอีกว่า ส่วนที่มีผู้แนะนำให้ไปเป็นติวเตอร์สอนเด็กนั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำได้ดีขนาดไหน แต่สิ่งที่ผมถนัดอีกอย่างหนึ่งคือความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าได้ทำงาน และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมไปด้วยระหว่างเรียนน่าจะทำให้สามารถนำไปพัฒนาด้านการเรียนได้มากทีเดียว ส่วนที่มีคนตั้งข้อสงสัยกับเงินบริจาคที่เคยได้รับเมื่อหลายปีก่อนนั้น ยืนยันว่าเงินดังกล่าวหมดไปกับเรื่องเรียนทั้งหมดแล้ว ไม่ได้นำไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแต่อย่างใด และถ้ายังมีเงินเหลืออยู่จริง ผมคงไม่ต้องมาทำงาน และดิ้นรนอย่างนี้
"ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนที่ผมโดนน้ำร้อนลวก พี่อั้ม พัชราภา เคยนำเงิน 50,000 บาท มาช่วย และบอกว่าหากมีอะไรเดือดร้อนให้ติดต่อไป แต่ผมก็ไม่อยากรบกวนพี่เขา เพราะที่ผ่านมาพี่เขาก็ช่วยเรามาตลอด ทั้งนี้ในส่วนที่พี่พชร อานนท์(พจน์ อานนท์) มาคอมเมนท์ในอินสตราแกรมว่าจะช่วยเหลือนั้น ตนเห็นแล้ว และก็ขึ้นอยู่กับพี่เขาว่าจะช่วยอะไร ถ้าพี่เขาจะชวนไปเล่นหนัง หรือทำงานในวงการบันเทิงก็อยากจะลองกลับไปสักครั้ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเมตตา" น้องไทเกอร์ กล่าวพร้อมกับบอกว่า
"ด้วยโอกาสที่ทุกคนหยิบยื่นให้ผม ผมจะตั้งใจเรียน และหวังว่าเมื่อเรียนจบจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีไปใช้เขียนโปรแกรมที่เป็นประโยชน์กับผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสเหมือนผม เผื่อจะช่วยให้เขาได้บ้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"