จบทริปเมืองไทย 1 เดือนครึ่ง และเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ อเล็กซานเดอร์ นากาเชฟสกี หนุ่มยูเครน วัย 24 ปี กลายเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ หลังจากใช้วิชาแสดงการเล่นจั๊กกลิ้ง เปิดหมวกหาเงินซื้อตั๋วกลับบ้าน เพราะจองตั๋วผิดไป 1 เดือน ที่ริมทางเท้าย่านสยาม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.
ชาวโซเชี่ยลมีเดียต่างกดไลก์และแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม ทั้งเสียงชื่นชมที่รู้จักเอาตัวรอดในยามคับขัน แต่ก็มีเสียงติเตียนว่าอาศัยน้ำใจคนไทยหลอกเอาเงินไปเที่ยวต่อ วางแผนเรื่องเงินไม่ดีจะมาเที่ยวทำไม ฯลฯ
หนุ่มอเล็กซานเดอร์เปิดใจกับ "ข่าวสด" เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ถึงกระแสจากคนไทย พร้อมอธิบายข้อสงสัยให้คนไทยได้กระจ่างขึ้น
อเล็กซานเดอร์เล่าว่า หลังเป็นวณิพกจำเป็นอยู่ 1 วัน สายการบินแจ้งมายืนยันว่า เปลี่ยนตั๋วเดินทางกลับเป็นที่ 30 เม.ย. ได้จริงๆ แต่ตนเองยังออกไปเล่นจั๊กกลิ้งใกล้ย่านสยาม จนมีตำรวจเข้ามาบอกว่าห้ามเล่น วันนั้นได้เงินมา 300 บาท พออยู่จนถึงวันเดินทางกลับ วันที่ 29 เม.ย. ฝึกฝนจั๊กกลิ้งรอบโฮสเต็ลราคาถูกและวันที่ 30 เม.ย. ขึ้นรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ 8 โมง เช็คอิน 9 โมง และบินไปถึงบ้านเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.
ถาม : คนถามกันเยอะว่าทำไมไม่ติดต่อสถานทูตหรือครอบครัว และมีคนสงสัยว่าโชว์จั๊กกลิ้งหลอกขอเงินไปเที่ยวต่อหรือไม่
"ผมไม่แม้แต่จะคิดถึงสถานทูต ส่วนพ่อแม่ผมไม่อยากให้กังวลและบอกไปว่าผมมีเงินพอ ผมชอบเล่นจั๊กกลิ้งให้คนดู แต่ไม่ชอบคนให้แต่เงินแล้วไม่ดูความสวยงามของมัน"
"เป็นเรื่องธรรมดาที่คนโชว์การแสดงริมถนนในยุโรป ผมหลงใหลในเสน่ห์ของมัน และไม่ได้มีแต่คนจนที่มาเล่น ผมไม่ชอบเลยที่เรื่องราวของผมแสดงให้เห็นว่าผมเป็นคนจน"
"ผมกับแฟนช้อปปิ้ง 1 วันก่อนเดินทางที่ผมตกเที่ยวบิน และเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่วางแผนใช้จ่ายในทริปเมืองไทย หากผมต้องอยู่เมืองไทยยาว (ถึงวันที่ 27 พ.ค. ตามตั๋วที่จองผิด) ผมคงไม่หาเงินจากริมถนนแน่นอนครับ"
ถาม : อะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของการจองตั๋วผิด
"ผมมีบัตรเครดิตการ์ด 2 ใบ ใบหนึ่งผมซื้อตั๋วเครื่องบินขากลับให้แฟน ส่วนอีกใบหนึ่งผมซื้อตั๋วของผม แต่ราคาตั๋วเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ผมจึงรอตอนกลางคืนและเช็คราคาจนถึงนาทีสุดท้า คืนนั้นเป็นวันที่ 27 มี.ค. ผมนอนดึกและง่วงมาก ทำให้รีบร้อน ขาดสติ และเครียด จึงกดปุ่มซื้อทันทีโดยไม่เช็คให้ดีก่อน"
ถาม : โกรธไหมที่แฟนกลับบ้านไปก่อนคุณ?
"ไม่โกรธครับ เธอเสียใจเหมือนกันที่เดินทางกลับบ้านคนเดียว ผมก็อยู่คนเดียวที่เมืองไทย คงคิดถึงกันมากกว่า เรารู้จักกันมา 10 ปีแล้ว และคบกันมา 7 ปี ผมไม่หึงหวงนะ เมื่อก่อนบางครั้งแฟนผมยิ้มให้ผู้ชาย ผมหึงหวงนิดหน่อยนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช้แล้ว เพราะเชื่อใจกัน เหมือนที่เราเชื่อใจเพื่อนและพ่อแม่"
ถาม : แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณเริ่มเล่นจั๊กกลิ้ง?
"พี่ชายของผม ดมิตรี เป็นนักจั๊กกลิ้งเหมือนกัน โชว์ให้ผมดู ส่วนผมดูคลิปวิดีโอนักจั๊กกลิ้งชาวญี่ปุ่นจากเทศกาลไฟนาริตะ 2005 ผมเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ศึกษาอย่างลึกซึ้งในการเล่นจั๊กกลิ้ง 4 ลูก (ปกติแล้วจะเล่น 3 ลูก) ผมมีความฝันเป็นเป้าหมาย จึงฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน จินตนาการสร้างสรรค์ความเป็นจริงของเรา"
ถาม : ทำไมเลือกทริปมาอินเดียและไทยสำหรับทริปเอเชีย?
"เพื่อนของผมแนะนำสองประเทศนี้ อินเดียเป็นประเทศใหญ่จึงเที่ยว 2 เดือนครึ่ง แต่มีขยะและผู้คนมากมาย หลากหลายภาษาวัฒนธรรม มีภูเขาสูง ส่วนเมืองไทยมีหมู่เกาะ คนไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษ แต่ยิ้มแย้มให้ ค่าครองชีพแพงกว่าอินเดีย สำหรับสองประเทศนี้ ธรรมชาติแตกต่าง แต่สวยเหมือนกัน อาหารแตกต่าง แต่รสชาติเหมือนกัน"
ถาม : เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายหรือไม่ที่มีสื่อไทยอย่าง "ข่าวสด" ให้ความสนใจ?
"ผมคาดไม่ถึงว่า สื่อไทยจะสามารถค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจของผมได้ ผมชอบที่คนไทยอ่านเรื่องราวของผม แต่ต่างคนต่างเข้าใจไม่เหมือนกัน แม้แต่เพื่อนผมที่เมืองไทยยังกังวลผมมาก
อย่างไรก็ตาม ผมขอบคุณ "ข่าวสด" ที่นำเสนอเรื่องราวของผม จนเพื่อนคนไทยถามไถ่กันมาเป็นจำนวนมาก"