วันนี้ทางทีมงานได้ติดตามคดีสะเทือนขวัญ น้องรัน หรือ นายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน อายุ 25 ปี หนุ่มมหาวิทยานอร์ทกรุงเทพ ได้หายตัวลึกลับไปเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 จากการ
โทรมาหาแม่บอกให้ทอดไข่เจียวอร่อย ๆ ไว้รอ เพราะหิวข้าวมาก จากนั้นก็ขาดการติดต่อไปจนมาถึงวันที่ 27 กลายเป็นข่าวเศร้า เมื่อชาวบ้านออกไปหาแหย่ไข่มด พบศพชายหน้าหล่อดังกล่าวถูกเผาและฝังในป่ายูคาลิปตัส บ้านโศกตลับ ต.โคกสูง อ. เมือง จ. ชัยภูมิ และทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้คือ นายน็อต หรือ นายวัชระ สาแก้ว อายุ 22 ปี และ นายหมูหยอง อายุ 17 ปี โดยจะล่อผู้ตายมาหาที่ห้องในวันที่ 8 จากนั้นก็ให้นายน็อตล๊อกตัว แล้วนายหมูหยองเป็นคนนำมีดมาแทงสยอง 10 รู จากนั้นเพื่อปกปิดร่องรอยการทำความผิดตัว จึงได้นำร่างผู้ตายไปเผาและฝังในป่ายูคาลิปตัสดังกล่าว
นายหมูหยอง ได้ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนรู้จักกับนายนิรันดร์ มาตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการเล่นโปรแกรม bigo ในโซเชียลกลุ่มเพื่อนชายอย่างบังเอิญ และได้มีการพูดคุยกันมาตลอด จากนั้นวันที่ 8 เม.ย. จึงได้วางแผนร่วมกับนายวัชระ พี่ชายที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ว่าให้หลอกมาหาเพื่อจะฆ่าชิงทรัพย์เพราะผู้ตายมีรถเก๋ง โดยมีการวางแผนร่วมกันมาตั้งแต่วันที่ 5 เมษยน โดยมีการเตรียมจอบและเสียมไว้ จากนั้นตนได้พาผู้ตายไปที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือแทงจนเสียชีวิตแล้วนำผ้ามาห่อศพไว้ ก่อนจะไปรับพี่ชายมาอุ้มศพขึ้นรถไปเผาแล้วฝังซ้ำอีกที ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่าเพราะอยากได้รถผู้ตายไปขายแล้วนำเงินไปซื้อบิ๊กไบค์ขับนั่นเอง
และจากการสืบทราบประวัตินายหมูหยอง เคยก่อคดีตั้งแต่อายุ 13 ปี และช่วงปี2559 เคย ก่อคดีฆ่าคนตาย ล่าสุดปี 2560 ก็มาก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์อีกครั้ง โดยสังคมตั้งคำถามว่า หมูหยองถูกเลี้ยงดูมายังไง ทำไมใจคอถึงโหดเหี้ยม
ล่าสุดทางครอบครัวของหมูหยองและน็อต ได้ออกมาสัมภาษณ์สดทางรายการต่างคนต่างคิด ด้าน นางลำดวน คุ้มบุ่งค้า แม่บุญธรรมของน็อต กล่าวว่า ตนเองนั้นไม่ทราบข่าวการก่อคดีของทั้งคู่ จนวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาที่บ้านและถามหาน็อต ก่อนคุมตัวน็อตไปดำเนินคดี ซึ่งอาของหมูหยอง กล่าวว่า "น็อตเป็นคนดีไม่มีนิสัยเกเร แต่ที่ต้องถูกจับกุมนั้น เพราะคืนที่เกิดเหตุนั้นหมูหยอง ได้ขับรถของผู้ตายเข้ามาหาที่บ้าน แล้วบังคับให้น็อตนำจอบไปด้วย ซึ่งมารู้ที่หลังว่าเอาศพไปฝัง"แต่ไม่ได้ไปที่บังกะโลแน่นอน คาดว่า น็อตกลัวหมูหยองทำร้ายจึงจำยอมไปด้วย หลังจากคืนวันก่อเหตุ "น็อต"กลับมีท่าทีหวาดระแวง กลัว"หมูหยอง" ซึ่งตนไม่รู้ว่า น็อตไปเจออะไรมา และเชื่อว่าถ้าน็อตได้เงินมาแบบชั่วๆน็อตก็ไม่อยากได้ ส่วนเรื่องการประกันตัวลูกชายตนเองยังไม่มีเงินประกันตัว และหากหลักฐานยืนยันได้ว่าน็อตมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตนก็จะไม่ว่าใคร เพราะลูกได้ทำผิด และรับไม่ได้ถ้าหากน็อตต้องติดคุก ทั้งนี้แม่น้องน็อตพูดอีกว่า ไม่อยากให้หมูหยองออกมา เพราะกลัวสังคมจะเดือดร้อน เพราะถ้ามันออกมา มันฆ่าหมด มันโหด
ด้านนายบุญโฮม สาแก้ว พ่อของนายสาทิตย์ สาแก้ว หรือ หมูหยอง ได้เล่าถึงชีวิตครอบครัวว่า ลูกชายเป็นเด็กมีปัญหา หากมีเรื่องกันก็ต้องจบด้วยความรุนแรง เพราะหมูหยองเป็นคนอารมณ์ร้อน จนทุกคนในบ้านหมดความอดทน จึงพากันย้ายออกไปจากบ้านเพื่อไปหาที่อยู่ใหม่กับลูกสองคน หมูหยองเคยทำร้ายร่างกายตนเองจนเลือดกบปาก เจ็บใจที่ลูกทำกับตนเองแบบนี้ แต่ที่ไม่แจ้งตำรวจเพราะสงสารลูก แม้ในขณะนี้สังคมจะอยากให้หมูหยองโดนโทษถึงประหาร พ่อก็รับได้ทุกอย่าง ประหารก็ประหาร เพราะมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว หมดอาลัยตายอยาก สอนอะไรไม่ได้แล้ว โดยวันที่ไปเยี่ยม "หมูหยอง" ตนเองก็ถามว่า ทำไมต้องไปฆ่าเขา หมูหยองตอบว่า หมั่นไส้ ซึ่งตนถึงกับรับไม่จนต้องลุกหนี
ด้านนาย นิติธร แก้วโต ทนายความ ได้บอกถึงกรณี น็อต ว่าสามารถดูพฤติการณ์ของผู้ลงมือกระทำว่าเขามีเจตนาร่วมกันหรือไหม เช่น เขามีการวางแผนร่วมกัน ช่วยกันหาสถานที่ในการก่อเหตุก็ถือว่าเข้าข่าย แต่หากน็อตถูกบังคับขู่เข็ญหรืออยู่ในสภาพบังคับเช่นมีมีด อาวุธ หรือตกอยู่ในสภาพบังคับที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลและพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมเอาไว้ หากหมูหยองให้คำรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ น็อตก็จะรอดพ้นจากคดี ต้องดูพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ถึงจะสู้คดีได้
ส่วนกรณีของ หมูหยอง นั้น หากถามว่ามีสิทธิ์รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตหรือไหมนั้น ต้องให้ศาลใช้ดุลพินิจในการโอนคดีจากศาลปกติมาพิจารณาในศาลเยาวชนและครอบครัวได้ ซึ่งหากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเด็กนั้นมีสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ ฯ ที่ดูแล้วเหมือนคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ขึ้นไป ศาลอาจสั่งให้โอนคดีไปพิจารณาในศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดาได้ ตามมาตรา 97 วรรค 2 ซึ่งหลักกฎหมายมาตรา 97 วรรค 2 นั้น กฎหมายไม่ได้ระบุขอบเขตของการโอนคดีไปศาลธรรมดาแต่ได้ให้ดุลพินิจแก่ศาลในการพินิจพิเคราะห์อย่างกว้าง ซึ่งสุดท้ายนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคดีนี้จะจบอย่างไร อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลเท่านั้น หากมีการรับสารภาพศาลก็จะพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
พ่อของหมูหยอง เผยว่า ถ้าหมูหยองรอดพ้นจากคดีนี้ ตนเองก็พร้อมที่จะเลี้ยงดู เพราะ มันดี ไม่ดีก็ลูกเราอยู่วันยังค่ำ ผมสอนลูกอยากให้มันได้ดี และสัปดาห์หน้าทางครอบครัวเตรียมตัวไปขอขมาครอบครัวน้องรันอีกด้วย