วันที่ 4 พ.ค. ที่บริษัท สหมงคลฟิล์มฯ พหลโยธิน ซอย 2 นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก้อง ห้วยไร่ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมบวงสรวงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต "นายไข่เจียว เสี่ยว ตอปิโด" ถึงประเด็นความรักครั้งใหม่ที่หลายคนจับตามองว่ากำลังคบหาดูใจกับ นักร้องหมอลำสาวคณะเสียงอิสาน เบล-ขนิษฐา เบ้าหล่อเพชร หลังมีการเม้นต์พูดคุยหยอกล้อในเฟซบุ๊กบ่อยครั้ง รวมถึงยังมีภาพหนุ่มก้องตามไปให้กำลังใจนางเอกหมอลำเสียงอิสานติดขอบเวทีอีกด้วย แถมล่าสุดยังเปิดตัวลงภาพฝ่ายหญิงเป็นตากล้องให้ตัวเองอีกต่างหาก
โดย ก้อง เผยว่า "ที่ผมไม่ค่อยพูดถึงความรัก เพราะเราให้เกียรติความรักเก่า ความรักใหม่ และเราเข้าใจว่าสังคมทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่อึกๆอักๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเปิดเผยนะครับ มันเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนคนทั่วไปอยู่แล้วที่ต้องมีความรัก มีคนเข้ามาในชีวิต มีรักมีเลิกมีพบมีจาก มันเป็นเรื่องธรรมชาติมาก อยู่ที่ใครรับได้ก็มองเป็นเรื่องธรรมชาติ ใครรับไม่ได้ก็มองเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทุกอย่างไม่สามารถกำหนดได้เลย ทำไมเวลานักข่าวถามผมจะเบี่ยงเบน ไม่ใช่ว่ากลัวตัวเองไม่ดังเหมือนเดิม ไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะได้รับความนิยมน้อยลง ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ผมมาจากศูนย์อยู่แล้วถ้าผมกลับไปศูนย์อีกเมื่อไหร่ ผมก็เสมอตัวไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่สิ่งที่ผมไม่กล้าพูดเพราะวันพรุ่งนี้ผมอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ มันไม่เหมือนยุคพ่อแม่เราที่มีความรักแล้วมีรักเดียว ทุกวันนี้ใช้ไม่ได้แล้วไม่ว่าใครทุกวงการ"
พอมีข่าวออกมา ก็โดนด่า "ก็มีบ้างครับ มีโดนด่า โดนตำหนิ แต่เราต้องยอมรับมันให้ได้ มีคติประจำใจผมว่าเรามีวิธีปกปิดความลับที่ดีที่สุดคืออย่าทำ ถ้าผมทำยังไงก็ต้องโดนอยู่แล้วไม่วันนี้ก็วันพรุ่งนี้ ผมไม่ได้ปิดแต่ก็ไม่ได้เปิดทั้งหมด"
แต่เราก็มีภาพแซวกัน รูปเหมือนไปไหนด้วยกันโพสต์ในเฟซบุ๊กตลอด "ฟีลของเราอยากทำตัวให้เป็นปกติทั่วไป ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าปกปิดทำไม เราเปิด แต่เราก็ไม่ได้เปิดทั้งหมดประมาณนี้ค่ะ"
คนมองว่าเราคบซ้อนหรือเปล่า ก่อนจะมาคุยกับคนใหม่ "มันสามารถคิดได้ทุกรูปแบบ เรื่องความรักไม่มีใครสามารถอธิบายได้จากคนอื่น วันนี้เราอาจไปเจอเด็กคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ สวยเลย คนอาจคิดว่าอกหักแน่ๆ โดนแฟนทิ้งแน่ๆ แต่จริงๆไม่ใช่ เขาเหยียบแก้ว เลยร้องไห้เพราะเจ็บ เราไม่สามารถรู้ใจได้เลยว่าเป็นยังไง คนอื่นเช่นกันไม่สามารถรู้หรอกครับเรื่องคนสองคนว่าผมมีอะไร วันนี้ทำไมถึงรักกัน ทำไมถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน"
ยืนยันว่าไม่ได้คบซ้อน "ทุกอย่างมันจบแล้วก็เริ่มต้นใหม่ ทำไมผมถึงอึกอักที่ไม่กล้าพูด ไม่ใช่ว่าไม่อยากเปิดเผย แต่วันข้างหน้ามันอาจจะมีใหม่หรือไม่มีก็ได้หรือผมอาจจะไปชอบผู้ชายก็ได้เป็นไปได้หมด"
แต่บางคนก็มองว่าจบไม่สวยกับคนก่อน "จบสวยไม่สวยผมว่าทุกอย่างมันสวยงามหมด มันอยู่ที่มุมมองและคนสองคนมากกว่า อย่างผมกลับไปร้านอาหารที่ชอบกินประจำแต่มันปิด ผมก็คิดว่าเขารวยแล้วเขากลับบ้าน แต่คนข้างๆ ผมคิดว่าร้านเจ๊ง อีกคนคิดว่าโดนไล่ที่ นี่แค่ร้านอาหารปิดแต่มีหลายความคิดเห็นมาก ชีวิตผมเหมือนกันผมเลิกกับแฟนเลิกกับคนที่ผมเคยคุย ผมรู้กันแค่สองคน แต่คนอื่นสามารถตีความได้หมดเลย ผมไม่สามารถไปห้ามหรือบังคับจิตใจเขาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยอมรับคือคำด่า คำชม มาเลยครับ มันเป็นสิทธิ์ของเขา"
พอมีชื่อเสียงแล้วคนสนใจเรื่องความรักมากขึ้น "เขาอยากรู้ทุกอย่างมันก็เป็นความสุขชนิดหนึ่ง สำหรับคนที่เข้าใจคนที่เขาเปิดใจรับ ก็ดีใจจังเลยหลังพี่ก้องทำงานเหนื่อยๆมาก็มีคนดูใจ พี่ก้องคงมีกำลังใจในการทำงาน แต่คนไม่เข้าใจก็จะคิดว่าพอเราดังขึ้นมาหน่อยก็จะเลือกคนนั้นคนนี้ มันคิดได้หมด ซึ่งเราต้องยอมรับมันให้ได้"
พอมีข่าวว่าเราเปิดตัวคบกับคนใหม่ คนก่อนก็ออกมาโพสต์ทำนองแขวะ "มันก็เป็นไปได้ ทุกอย่างมันเริ่มต้นด้วยความรักไงครับ เราอย่าไปว่าอย่างอื่นเลย อย่าไปคิดถึงคนรักกันเลย อย่างพี่กับน้องมีใครบ้างที่ไม่เคยทะเลาะกับพี่กับน้องเลยแต่ด้วยความเป็นสายเลือดเดียวกัน ทะเลาะกันให้ตายยังไงก็ยังเป็นพี่เป็นน้องเหมือนเดิม มันไม่เหมือนคนรักกัน ยกตัวอย่างสามีภรรยาพอแยกกันอยู่แล้วไม่ได้เป็นญาติกันนะครับ เป็นคนอื่นทันทีไม่ใช่คนในครอบครัวแล้วนะ"
อยากชี้แจงกับคนที่เข้าใจเราผิดมั้ย "ผมปล่อยผ่านแล้วแต่คนจะคิดมากกว่าครับ ถ้าผมไปพูดเหมือนผมไม่ให้เกียรติแฟนเก่าและเป็นการถากถางแฟนใหม่ ผมนิ่งดีกว่า มันเกิดมาจากตัวเราอยู่แล้ว ความรักมันเกิดจากตัวเราถ้าโดนด่าก็ต้องยอมรับไปซิไม่ต้องไปแก้ตัวหรอก คนที่เจ็บที่สุดคือคนที่เราเลิกเขามา เขาเลิกกับเรา นั่นคือคนที่เจ็บที่สุด ไม่ใช่ตัวเรา คนใหม่ก็เจ็บ"
ไปเริ่มต้นกับคนใหม่ได้ยังไง "ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ ผมมองผ่านเพราะผมเคยมีประสบการณ์ที่ร้ายๆมาผมมองเป็นกำลังใจมากกว่า อย่างน้อยพอเลิกงานเสร็จแล้วได้โทรหาใครคนหนึ่ง ได้เม้นต์ในเฟซไปกวนใครคนหนึ่งในฐานะที่คบหาดูใจกันนะ ผมมองอย่างนั้นมากกว่า ผมไม่ได้มองว่าผมทำงานแล้วผมต้องมีเมียแล้วนะซึ่งผมไม่ได้มองขนาดนั้น ผมคิดว่าทำงานอะไรที่สุจริตแล้วอยู่ในวงการให้นานที่สุด เรื่องความรักมันยากที่จะเลี่ยงได้จริงๆ ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ครับ วันข้างหน้าอาจจะไม่ใช่เขาก็ได้ ผมก็คุยกับน้องเขาตรงๆว่ามีกระแสข่าวเข้ามาว่าเรารักกัน เราคบหากัน วันข้างหน้าถ้าเราเลิกกันล่ะทำใจให้มีความสุขนะ ตอนที่เรารักกันทำดีต่อกัน ถ้าเลิกกันก็มีสิ่งดีๆให้กันแค่นั้น"
น้องเขาว่ายังไงบ้างพอมีกระแสข่าวว่าเราคบกัน "พอมีกระแสข่าวออกมาผมก็ให้เขาตัดสินใจเอง อยากให้สัมภาษณ์ก็สัมภาษณ์เอง สังเกตมั้ยว่าสื่อตีพิมพ์ลงจะไม่มีสัมภาษณ์จากตัวผมเลย จะมีสัมภาษณ์จากคนนอก จากคนเก่าบ้าง ซึ่งผมตามข่าว เห็นคำด่า คำชมให้กำลังใจ เห็นทุกอย่างแต่สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับสิ่งที่เราทำ"
ขอเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว "ตั้งแต่แรกที่ผมเข้าวงการมาใหม่ๆ มีคนมาบอกว่า ผมไปเป็นสามีเขา ไปหลอกเอาเงินเขาบ้างอย่างนั้นอย่างนี้ คือผมก็ต้องแบกรับแทนที่จะไปนั่งแก้ข่าวแถลงข่าว ไม่เลย ใครเจ็บ ผมไม่ได้เจ็บ ให้มันหายไปเอง วันหนึ่งคนจะรู้เองว่าเราไม่ได้ทำ"
คาดหวังกับรักครั้งนี้ขนาดไหน "ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ไม่ได้วาดฝัน และทุกความรักของผมไม่เคยวาดฝันเลยนะครับ ผมเป็นคนไม่เพ้อฝัน ทำได้ถึงทำ ทำไม่ได้ไม่พูด ที่ผมไม่เปิดตัวเพราะว่าผมไม่แน่ใจว่าผมจะทำได้ อนาคตมันไม่แน่นอนไง ความรักมันกะเกณฑ์ไม่ได้"
เปิดตัวแล้วสบายใจขึ้นไหม "จริงๆ ผมยังไม่ได้ยอมรับว่าเปิดตัวนะครับ อาจจะมีสื่อตีข่าวก้อง ห้วยไร่ เปิดตัว แต่ทุกข่าวที่ลงไปไม่ได้มาจากผมเลย เลือกจะไม่พูด ไม่ใช่ว่าไม่แมนนะ ผมว่าผมไม่พูด ผมแมนมากกว่า คนที่พูดว่าคบกันครับ จะดูแลเขาตลอดชีวิต เขาน่ารักมาก สวยมาก แล้วถ้าอนาคตผมไปเจอผู้หญิงที่สวยกว่าเขาล่ะ แล้วถ้าเลิกกันล่ะ ก็เลยไม่พูดดีกว่า"
เลือกที่จะมีความสุขในการคบกันแบบนี้ "มีความสุขครับ มีคนคุยดีจะตาย ดีกว่าจะมาเล่นเกมไปวันๆนะ"
ชมคลิปด้านล่าง