เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 บนเพจเฟซบุ๊ก เรารักแปดริ้ว Welove8riew.com ได้แชร์เรื่องราวของ คุณก๊อท เกษมสิน ที่ถูกตำรวจจราจรเขียนใบสั่งในข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเจ้าของเรื่องราวนั่นยอมรับว่าไปเปลี่ยนท่อไอเสียมาจริง แต่ก็ไม่ได้เสียงดังเกินที่กฎหมายกำหนด เล่าเรื่องราวว่า
เรื่องจาก คุณก๊อท เกษมสิน
คนที่เปลี่ยนท่อรถควรจะอ่าน!!
เรื่องมีอยู่ว่าผมโดนจับข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบ(ท่อพักระงับเสียง)แต่จริงๆจะจับเรื่องเปลี่ยนท่อไม่ใส่ท่อเดิม รถผมผมทำท่อใหม่แต่มีหม้อพัก เสียงท่อไม่ต่างจากท่อเดิมโรงงานสักเท่าไร ตำรวจบอกว่ารถที่จดทะเบียนจะต้องใช้ท่อเดิมโรงงานเท่านั้น (เค้าบอกวันนี้จับมาเป็น10ๆคันแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่ตำรวจนายนี้พูดจริงทำไมคุณไม่ไปจับร้านท่อเลยละครับ)
ผมก็เลยขึ้นไปที่โรงพักตรงเปรียบเทียบปรับ จะไปบอกว่าไม่รับข้อกล่าวหาจากตำรวจ จะให้ทางตำรวจทำสำนวนส่งฟ้องศาล ผมจะได้เอาใบนี้ไปแจ้งความข้อหา157 ปฏิบัติหน้าที่โดนมิชอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทางเปรียบเทียบปรับบอกให้ไปคุยกับผู้กอง
เข้าไปเล่ารายละเอียดให้ฟัง ทางผู้กองก็เลยเสนอให้ผมไปขนส่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคน ให้ทางขนส่งชี้พอไปถึงหัวหน้าแผนกตรวจสภาพรถสรุปบอกว่าไม่ผิดแล้วฝากตำรวจไปบอกหัวหน้าด้วยว่า อย่ามายืมมือขนส่ง ให้ชี้ว่าอะไรถูกอะไรผิดขนส่งไม่เกี่ยว ขนส่งบอกว่าจับได้ท่อเสียงดังหรือรถมีควันดำมากจนเกินที่กำหนด
พอกลับมาที่โรงพักตำรวจกับมาบอกผู้กองว่า ขนส่งชี้แล้วไม่ผิดสามารถเปลี่ยนท่อได้ ผมก็เลยถามผู้กองว่าจะเอายังไง ผมไม่มีปัญหาการจะไปศาลอยู่แล้ว ผมมั่นใจว่าผมถูก
ผู้กองบอกว่าอย่าให้เรื่องไปถึงศาลเลยให้จบที่โรงพัก ทางผู้กองได้คืนใบขับขี่แล้วเขียนในใบสั่งว่าเป็นการตักเตือน
สรุปผมคิดว่านายกลัวลูกน้องจะโดนมาตรา157 ถ้าผมชนะคดีมันจะเป็น บรรทัดฐานในการอ้างของรถที่เปลี่ยนท่อว่ามันไม่ผิด ทำให้ตำรวจไม่สามารถจับข้ออุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบได้อีก
#เวลาตำรวจแจ้งข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบให้เค้าวงเล็บมาด้วยว่าจับเรื่องอะไรเราจะได้ฟ้องศาลได้