เรียกได้ว่ากลายเป็นตำนานความหลอนที่หาเรื่องไหนมาแทนไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ ในเดือนกรกฎาคมปี 2009 เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียได้รับแจ้งจากชายผู้หนึ่งว่าแฟนสาวของเขานั้นได้หายตัวไปนานกว่า3วันแล้ว ไม่มีใครพบเห็นเธอเลย ซึ่งในตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกกันตามหากันอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ ซึ่งก็ผ่านไป1ปี จนทุกคนลืมเรื่องแฟนสาวของเธอไปแล้ว แฟนหนุ่มก็ย้ายออกจากอพาร์ทเมนต์ที่พวกเขาอยู่ด้วยกันไปหาที่อยู่แห่งใหม่
ซึ่งต่อมานั้นในปี 2015 ที่ผ่านมา ผู้เช่าหอพักต่อจากหนุ่มคนดังกล่าวมาได้3ปี เขาเคยสงสัยว่าในห้องนั้นมีกลิ่นเหม็นๆแปลกๆตลอด แต่ก็หาสาเหตุไม่เจอ ได้แต่หาอะไรมาดับกลิ่น สุดท้ายก็เริ่มชินไปเอง ซึ่งล่าสุดนั้น คนที่พักห้องนั้นได้มีการจะต่อเติมห้อง เลยจ้างคนมาทุบกำแพง
เมื่อช่างเข้ามาทำงานด้วยการรื้อผนังออกสิ่งที่ช่างพบก็คือร่างของมนุษย์ที่แห้งกรังถูกอัดอยู่ช่องว่างระหว่างผนัง ตามร่างกายของศพนั้นถูกห่อด้วยพลาสติกแบบเดียวกับที่ใช้ถนอมอาหาร ซึ่งหลังจากตรวจสอบ ศพดังกล่าวนั้นคือ แฟนสาวของหนุ่มที่เคยมาแจ้งความเมื่อหลายปีก่อน สุดท้ายคนที่ฆ่าหญิงสาวคนนี้ก็คือแฟนหนุ่มของเขานั้นเอง
สาเหตุที่ทำลงไปก็เพราะว่าอารมณ์หึงหวงและขาดสติชั่ววูบจึงใช้ค้อนหวดไปที่หน้าผาก เมื่อทำลงไปแล้วก็เกิดกลัวความผิดจึงนำฟิล์มถนอมอาหารมาพันรอบตัวของศพแฟนสาวและค่อยๆ ทุบผนัง โดยใช้เวลากว่า 3 วันกว่าจะนำศพไปซ่อนเสร็จ แล้วสร้างกำแพงอิฐขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งเขานั้นต้องทนอยู่ในห้องที่มีศพแฟนตัวเองนานถึง1ปี ก่อนที่จะย้ายออกไป เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย หลังจากที่มีคนใหม่มาอยู่ได้บอกว่า เขาชอบได้ยินเสียง แกร่กๆ อยู่ในผนังอยู่เป็นประจำและเสียงฮัมเพลงเบาๆ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นหนูวิ่งหรือไม่ก็หูฝาด เลยไม่ได้คิดอะไร พอตอนนี้รู้แล้วว่าเสียงแบบนั้นมาจากอะไร ทำให้เขานั้นตัดสินใจย้ายออกแบบรวดเร็วที่สุด !!