สังคมไทยในปัจจุบัน ปัญหาเด็กที่ท้องในวัยเรียนมีสูงมาก เพราะวันรุ่นมองว่าการคบเพื่อนต่างเพศเป็นเรื่องปกติ คบกันได้แต่ต้องมีขอบเขตจำกัด เด็กบางคนมีอิสระในการใช้ชีวิต สามารถทำอะไรได้ตามใจตัวเอง การท้องในวัยเรียนเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่พร้อม หลายคนหาทางออกด้วยการทำแท้ง บางคนก็ครอบครัวเข้าใจและช่วยกันแก้ไข วันนี้ทีมงานที่สุดขอนำเสนอเรื่องราวดีๆของสมาชิกผู้ใช้เว๊บไซต์พันทิป ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์คุณแม่ ท้องในวัยเรียน เราไปดูกันว่าเธอมีทางออกอย่างไร
ย้อนกลับไปตอน 2 ปีที่แล้วนะคะ เราอายุ 18 อยู่ ม.6 ค่ะ คบกันแฟนได้แค่2-3เดือนก็ย้ายไปอยู่บ้านแฟน (ช่างเป็นเด็กแรดเหลือเกินนะเรา) เวลามีอะไรกันก็ไม่คิดจะป้องกันค่ะ ไม่รุ้เหมือนกันว่าทำไม แค่คิดมักง่ายว่าถ้าท้องก็ไปเอาออก ไม่เห็นซีเรียส แล้วพอท้องจริงๆก็ยังไม่เครียดนะ คะปล่อยเลยไปจน 4 เกือบจะ 5เดือน พึ่งรุ้ตัวว่าควรจะไปเอาออก ก็เอาทองไปขายหาเงินไปเอาลูกออก แล้วก็ไปกับแฟน2คนค่ะ ที่คลินิกชุมชนแห่งหนึ่ง เพื่อนแนะนำมาค่ะ แต่ทีนี้เป็นบุญมากที่เค้าไม่รับเพราะเลย 3 เดือนเค้าไม่ทำให้ เราก็เดินออกมาจากคลนิก ก็มีลุงคนนึงขับรถโดยสารเดินมาทัก
ลุง " น้องท้องกี่เดือนแล้ว
เรา "4แล้วค่ะ
ลุง " ที่นี่เขาไม่รับหรอก ลุงมีที่นึงเป็นหมอเค้ามีคลินิกเอง ถ้าสนใจจะให้เบอโทรคุยกับหมอตกลงค่าใช้จ่าย แล้วลุงจะพาไป
(ลุงคนนี้เค้าเหมือนเป็นนายหน้าอ่ะ) แล้วเราก็ตกลงโทรคุยกับหมอ ค่าใช้จ่าย 7000 กว่าบาท ดีนะที่เงินไม่พอเราเลยกลับบ้านมาก่อน จะขอยืมพี่แฟนพี่ก็เกือบจะช่วยแล้วแหละ แต่พี่ไปคิดมาอีกทีก็คิดว่าจะบอก แม่แฟนดีกว่า เราก็เลยจะให้เค้าเป็นคนบอก เพราะเรากับแฟนไม่กล้า พอเค้าบอกเราก็ไม่กล้าสู้หน้าแม่เค้านะกลัวโดนด่าอ่ะ ไม่รุ้ทำหน้ายังไง ก็เอาแต่หมกอยู่ในห้องนอน แล้วแม่แฟนก็โทรไปยอกแม่เรา แม่เราก็โทรมาถามตกใจนิดหน่อย ด่าว่าทำไมไม่ป้องกัน แล้วจะเอายังไง เรื่องเรียน เราก็เลยบอกว่าจะไปเรียนอยู่ หน้าหนาวถ้าท้องมันป่องก็ใส่เสื้อคลุมเอา ใกล้จะจบแล้วไม่อยากดรอป
ทางผู้ใหญ่เค้าก็ช่วยแก้ปัญหา แม่เราเลยให้จัดงานแต่งเล็กๆ ที่บ้าน เรื่องสินสอดให้มาแค่โชว์แขกเท่านั้น เสร็จงานคืนไปหมด ดูครอบครัวทางแม่แฟนก็เหมือนจะผิดหวังในตัวลูกชายเค้านะคะ เพราะเค้าบอกตั้งแต่แรกว่าให้ป้องกัน T^T จากนั้นก็ลำบากเรื่องไปเรียนล่ะทีนี้ ท้องเริ่มใหญ่ ใส่เสื้อหนาวยังพองเลยก็เลยอาศัยเอากระเป๋าเป้มาปิดหน้าท้องเวลาเดิน ลำบากมากๆภาวนาให้ปิดเทอมเร็วๆ เพื่อนๆก็ดูแลดีนะคะ เอาเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ๆมาให้ยืมตลอดเลย แล้ววันไหนที่มีเรียนเต้นลีลาศเราจะไม่ไปเรียนเพราะโดดไม่ได้ (เพื่อนช่วยโกหกครูว่าไม่สบาย )
เราอยากคลอดลูกเร็วๆมาก ขอหมอเลยว่าครบ 38 สัปดาห์ขอผ่าเลยนะคะ เพราะจะต้องไปสอบโอเน็ต นั่งหลายชั่วโมงไม่สะดวก พอครบ 38 สัปดาห์ ก็นัดผ่าเลยค่ะ ตรงกับวันจันทร์ที่ 14 กุมภา ขอบอกประสบการณ์ผ่า โคตรเจ็บเลยค่ะ กระดิกไปทางไหนก็เจ็บ ลูกคลอดออกมาเพื่อนๆก็พากันมาเยี่ยมเกือบจะทั้งห้อง เป็นวันที่ดีใจสุดๆ เราเลี้ยงลูกกันเองกะแฟน2คนค่ะเพราะอยู่บ้านแฟนกัน 2 คน แม่เค้าอยู่อีกบ้านนึง ขอบอกว่าลำบากมากแทบไม่ได้หลับได้นอน แล้วยังต้องตื่นเช้าไปสอบอีก และแล้วช่วงเวลาแห่งการปิดเทอมก็ผ่านไป... รอดแล้ว จบมอหก สักที
ช่วงวัยมหาลัยเข้าปี 1 ก็จะเอาลูกไปฝากแม่เราเลี้ยง ที่บ้านเราคนเยอะค่ะช่วยเลี้ยงหลายคน เลิกเรียนก็มาเลี้ยงต่อ ตอนนี้ก็โตจน 2 ขวบครึ่งแล้วค่ะ รู้สึกรักลูกมากๆ โชคดีที่ไม่ได้เอาเค้าออก พอมีลูกก็เริ่มอยากทำมาหากินด้วยตัวเอง ไม่อยากพึ่งพ่อแม่ เราก็เลยขายของในเน็ต รายได้ 8000-10000 บาท แล้วแฟนก็เปิดร้านเกมส์เล็กๆในหมู่บ้าน การเรียนก็ไม่ทิ้งนะคะ ดาวน์รถยนต์มาหนึ่งคัน ก็ช่วยกันผ่อนกับแฟน สังสรรค์กับเพื่อนเดือนละ 2 ครั้ง มีบางเดือนที่เงินช็อตก็มีค่ะ 555 ก็ขอแม่เพิ่ม เป็นความโชคดีของเรานะคะ ที่มีแฟน ไม่กินไม่เที่ยว รุ้จักเก็บเงิน ตั้งแต่มีลูกเราก็สามารถมีความคิดที่จะหาเงินใช้เอง คิดถึงอนาคตมากขึ้น คิดจะเก็บเงิน จากเมื่อก่อนไม่มีลูกเที่ยวเตร่ไปวันๆ แล้วตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ค่ะ ลูกไปฝากเนอสเซอรี่ สรุปชีวิตเรานะคะ การมีลูกก็ไม่ได้ทำให้เสียอนาคตค่ะ ในเมื่อพลาดมาแล้วควรเลี้ยงเค้าไว้ แล้วเราจะรุ้สึกรักเค้ามากๆ จะร้สึกขอบคุนที่เราไม่ได้ทำแท้ง ปู่ ย่า ตา ยาย ก็รักหลาน คุนแม่ยังสาวแบบนี้แฮปปี้สุดๆค่ะในตอนนี้
***แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ท้องในวัยเรียนนะคะ ควรจะป้องกันค่ะ แต่ถ้าพลาดมาแล้วก็แก้ปัญหาให้มันถูกทาง