เปิดคำพูด!! เอลซ่า ที่ทำ เจ้าหญิงนิทรา เจ็บ จนความเป็นเพื่อนพัง!!

มานี่มีนิทานจะเล่าให้ฟัง ก่อนฟังเปิดเพลงแร็พเตอร์ฟังคลอไปด้วย "คำว่าสหายนั้นสื่อความหมาย ไม่ยิ่งใหญ่แต่ว่าสุจริตใจให้คุณออออ"

นิทานหัวข้อนี้คือเรื่องของกรุ๊ปเจ้าฟ้าหญิงเพื่อนสนิทที่เกิดมีปัญหากัน เจ้าฟ้าหญิงนิทรามีคนรักพระราชโอรสรูปงาม ซึ่งเจ้าฟ้าหญิงนิทราเป็นคนเกลียดนอนดึกดื่น ช่วงเวลากลางวันก็จะอยู่กับพระราชโอรสรูปงามไปไหนมาไหนร่วมกัน ตกเย็นแฟนชายหนุ่มก็จะมาส่งคู่รักกลับไปอยู่บ้านนอน หลังจากนั้นแฟนชายหนุ่มก็จะไปแฮงเอาต์งานเลี้ยงต่อที่ศีรษะเมือง

ซึ่งที่งานเลี้ยงก็ทำให้พระราชโอรสรูปงามพบสาวคนใหม่สินเดอเรลลา ทั้งสองกำเนิดปิ๊งๆกัน แต่ว่าในที่นั้น เอลซ่า เจ้าฟ้าหญิงน้ำแข็ง เพื่อนสนิทของเจ้าฟ้าหญิงนิทราก็อยู่ในงานเลี้ยงด้วย แถมเอลซ่าก็เริ่มคุ้นเคยกับ สินเดอเรลลา ด้วย

ซึ่ง เอลซ่า เองเป็นคนเย็นๆสมกับเป็นชาวกรุงน้ำแข็ง คุณกับคนง่าย อยู่กับผู้ใดก็ได้ ใจเย็นชิลๆทำให้ เอลซ่า มองโลกในทางบวกว่า พระราชโอรสรูปงามก็อาจจะไม่ได้อะไรตั้งใจจริงกับ สินเดอเรลลา แม้กระนั้นผิดไปจากที่คิดพระราชโอรสรูปงามดันเอาจริงเอาจังซะนี้

ในที่สุดโป๊ะจ้ายแตกเพราะเหตุว่า สินเดอเรลลา โทรไปพบ เจ้าฟ้าหญิงนิทรา ประกาศตัวว่าเป็นตัวจริง จะสมรสกับพระราชโอรสรูปงามปีถัดไป เมื่อเรื่องแดง เจ้าฟ้าหญิงนิทรา จากที่ไม่รู้จักอะไรเลย ก็เริ่มรับทราบเรื่องราวต่างๆมากยิ่งขึ้นๆก็เลยตกลงใจถามกับ เอลซ่า ว่าเพราะอะไรไม่บอกกัน คำตอบของ เอลซ่าหมายถึง"อ้าวพึ่งจะทราบหรอ"

คำบอกเล่าสั้นๆประโยคเดียว เจ้าฟ้าหญิงนิทรา ช็อกเสียความรู้สึกร้ายแรง เรื่อง พระราชโอรสรูปงาม นั้นเล็กน้อย สบายมากมายเพียงแค่เลิกกับแฟน แม้กระนั้นคำตอบแบบเฉยของเพื่อนพ้องทำเอาคุณจุกอก แม้บอกกันว่า ก็ไม่รู้จักจะบอกอย่างไร ยังไม่เจ็บเท่าคำตอบนี้

เจ้าฟ้าหญิงนิทรา ตกลงใจก้าวออกมาจากความเป็นมิตร ถึงแม้คนไหนจะคัดค้านขนาดไหน แม้กระนั้นคุณรับรองว่าเจ็บมากมายกับคำบอกเล่านี้ ส่วนฝั่ง เอลซ่า คุณเองก็มิได้มีความรู้สึกว่าเรื่องจะดำเนินมาถึงจุดนี้ แล้วจะให้ เอลซ่า ทำเช่นไร

มองดู 2 มุมก็รู้เรื่องความรู้สึกอีกทั้งฝั่ง เจ้าฟ้าหญิงนิทรา รวมทั้ง เอลซ่า บางทีเรื่องความรู้สึกถ้าเกิดมันกระทบใจแล้วมันก็ยากจะดึงกลับมา ซึ่ง เอลซ่า เองก็ไม่คิดจริงๆว่าเรื่องจะจบลงแบบงี้

"รักษามันไว้ให้นาน เผื่อวันใดวันหนึ่งกลับมาเผชิญ ขอให้คุณโชคดี...เพื่อนฝูงเอ่ย" เพลงแร็พเตอร์จบพอดิบพอดี พร้อมนิทานที่จบลง สรุปว่าฟังให้เป็นนิทานนะเพื่อนฝูงเอ๋ย อย่าคิดมาก.

ขอบคุณที่มา - thairath