สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานถึงเรื่องราวนางสาวเทอร์รี โกบันกา นักเทศน์และผู้ดูแลสมาชิกของโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงไนโรบีของเคนยา ในขณะที่กำลังเข้าพิธีสมรส กับนายแฮร์รี่ คู่หมั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เทอร์รีเจ้าสาวถูกลักพาตัวข่มขืนและทิ้งไว้ให้ตายข้างถนน แต่ปาฏิหารย์บังเกิดเทอร์รีรอดตายหวุดหวิด เทอร์รีจึงได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาตีแผ่เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับสังคม
ว่าที่เจ้าสาวถูกชาย 3 คนรุมข่มขืนในวันแต่งงาน แต่ว่าที่สามียังยืนยันจะแต่งด้วย หลังแต่งได้ไม่ถึงเดือนเขาก็จากไป!?
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นขนาดใหญ่มาก เทอร์รีเป็นศิษยาภิบาลดังนั้นสมาชิกในคริสตจักรทุกคนของเราจึงมารวมทั้งญาติของเราทุกคน คู่หมั้นแฮร์รี่และเทอร์รีรู้สึกตื่นเต้นมากในงานแต่งงานในมหาวิหารออลเซนต์ในไนโรบีและเทอร์รีได้เช่าชุดเจ้าสาวที่สวยงามมาก
เหตุการณ์ในคืนก่อนงานแต่งงาน เทอร์รีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมชุดชั้นใน และเน็กไท ดังนั้นเพื่อนเจ้าสาวที่ค้างอยู่ในคืนนี้จึงอาสาไปเอาของให้ในตอนเช้าตรู่ที่บ้านเจ้าบ่าว และ เทอร์รี ก็ได้เดินไปส่งเพื่อนเจ้าสาวคนดังกล่าวขึ้นรถประจำทางในตอนเช้ามืด
ขณะที่กำลังเดินทางกลับ เทอร์รีเดินผ่านผู้ชายที่นั่งอยู่บนฝากระโปรงรถ ทันใดนั้นเขาก็ฉุดเธอและทิ้งไว้ที่เบาะหลัง มีชายสองคนอยู่ข้างในและขับรถออกไป ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมากเทอร์รี พยายามที่จะกรีดร้อง และต่อสู้ และพยายามบอกว่า "วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉัน!" ผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า "ถ้าไม่อยากตายอย่าขัดขืน"เทอร์รียังคงต่อสู้เพื่อให้รอดชีวิต เมื่อผู้ชายคนหนึ่งควักอวัยวะเพศออกมาเทอร์รีกัดอวัยวะเพศของเขาและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหนึ่งในนั้นใช้มีดแทง เทอร์รีเข้าที่ท้อง จากนั้นก็เปิดประตูและโยน เทอร์รีออกจากรถที่กำลังเคลื่อนที่
เทอร์รีอยู่ไกลจากบ้านนอกไนโรบี เกินหกชั่วโมงหลังจากที่ เทอร์รีลักพาตัว มีเด็กคนหนึ่งเห็น เทอร์รีถูกโยนออกมาจากรถและเรียกย่าเข้ามาช่วยเหลือ ตำรวจได้นำส่งโรงพยาบาลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในเคนย่าเทอร์รีในสภาพเปลือยกายและเปรอะด้วยเลือดใบหน้าบวมจากการถูกทำร้าย ตำรวจคาดเดาว่า เทอร์รีอาจเป็นเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานเลยให้พยาบาลติดต่อที่โบสถ์เพื่อสอบถามว่ามีคนหายตัวไปหรือไม่ โบสถ์แห่งแรกที่พวกเขาเรียกกันคือโบสถ์ออลเซนต์ส "มีเจ้าสาวหายตัวมั้ย?" พยาบาลถาม
7 เดือนต่อมา เทอร์รีตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับแฮร์รีอีกครั้ง โดยคราวนี้มีองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเหยื่อการข่มขืนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ เทอร์รีเริ่มมีความหวังในชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
ย้อนกลับไปที่โบสถ์สำหรับงานศพก็น่ากลัว เพียงแค่หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เทอร์รี ก็อยู่ที่นั่นในชุดสีขาวแฮร์รี่ยืนอยู่ด้านหน้าดูหล่อเหลาในชุดสูทของเขา ตอนนี้เทอร์รีถูกผู้คนเรียกว่าเป็น "หญิงต้องสาป" ถูกกล่าวหาว่าฆ่าสามีของตัวเอง นั่นทำให้เทอร์รีรู้สึกเศร้าหมอง
อยู่ในภาวะซึมเศร้า ยากที่จะทำใจยอมรับกับการสูญเสีย นั่นเป็นความจริงที่เจ็บปวดรุนแรงมากและเริ่มเชื่อว่าตนเองต้องสาปจริง ๆ เหมือนอย่างที่ชาวบ้านพูดกัน เทอร์รีตั้งใจว่าไม่อยากให้ชายใดมารับเคราะห์จะไม่ขอแต่งงานอีกต่อไป เพราะไม่อาจทำใจต่อการสูญเสียคนรักไปอีกครั้งได้
แต่ชะตาเริ่มพลิกผัน มีชายคนหนึ่งชื่อ ทอนนี่ โกบันกา เข้ามาติดพันและขอเทอร์รีแต่งงาน เทอร์รีบอกให้เขาซื้อนิตยสารอ่านเรื่องราวของเธอและบอกเขาว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้ แต่ทอนนี่ก็ยังต้องการที่จะแต่งงานกับเทอร์รีถึงแม้ว่าทางเพื่อนและครอบครัวได้สั่งห้ามก็ตาม งานแต่งถูกจัดขึ้น โดยทางทอนนี่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานแต่งงาน แต่ก็เดินหน้าต่อไป เนื่องจากมีแขก 800 คน ที่มาร่วมงาน
ขอบคุณที่มา BBC