ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของชีวิตคนไทยแล้ว กับการได้รับหน้าที่ถวายงานแด่พ่อหลวง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อย่างวันนี้ (1 ตุลาคม 2560) มี นิว ทีวี ได้รายงานบทสัมภาษณ์บุคคลผู้ได้ทำหน้าที่ทรงงานแก่พระองค์ คือนายช่างอนันต์ ร่มรื่นวาณิชกิจ ประธานกรรมการบริษัท เอสเอ ออโต้ไฮเทค จำกัด บุคคลผู้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในฐานะช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่ง
โดย นายช่างอนันต์ เผยถึงจุดเริ่มต้นของหน้าที่รับผิดชอบนี้ คือจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2542 ตนเองได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งระบุตัวว่าเจ้าหน้าที่ของกองยาน เข้ามาพบตนที่อู่ พร้อมบอกความประสงค์ที่จะให้ตนทำสีรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งในตอนแรกตนเองคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น ไม่ได้คิดเป็นเรื่องจริงจังอะไร โดยที่เขาเผยว่าที่เดินทางมาครั้งนี้ ก็เพื่อมาตรวจสอบว่าตนพร้อมหรือสามารถทำหน้าที่ได้ จนกระทั่งมีรถยนต์ รยล. เข้ามาที่อู่ โดยมีเจ้าหน้าที่คนเดิมที่คราวนี้แต่งตัวแบบทางการ มาพร้อมกับจดหมายจากสำนักพระราชวัง แจ้งว่าให้แต่งชุดสุภาพเพื่อพบรองราชเลขาธิการในวันรุ่งขึ้น ตนจึงเชื่อแล้วว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
จนวันรุ่งขึ้นตนเองเดินทางเข้าพบรองราชเลขาธิการ พร้อมได้แจ้งข้อเสนอมาว่า จะให้ตนดูแลทำสีรถยนต์พระที่นั่งทั้งหมด ตนเองแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง และเมื่อได้ยินเช่นนั้น ตนเองก็ตอบรับคำโดยแทบจะไม่คิดเลย จนตนเองมารู้ว่าสาเหตุที่ได้รับเลือกเพื่อทำหน้าที่นี้ สืบเนื่องมาจากตอนนั้นเราได้รางวัลชนะเลิศจากโครงการช่างสีรถยนต์แห่งชาติจากทางกรมพัฒนาสังคมฯ กระทรวงแรงงาน ในปี 2530
ทั้งนี้ รถยนต์พระที่นั่งคันแรกที่ตนเองได้รับหน้าที่ดูแล คือ รถโรลส์รอยซ์ รถยนต์พระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ในพระราชพิธีสวนสนาม ในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี และนี่คือรถที่ตนเองประทับใจมากที่สุด เพราะเป็นรถที่พระองค์ทรงโปรดมากที่สุด ทะเบียน ร.ย.ล. 972 โดยที่วันแรกที่ได้เห็นรถตนเองถึงกับนั่งมองรถตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึงตี 3 และก่อนที่เราจะทำสีรถตนเองก็ก้มลงกราบที่เบื้องพระบาทขึ้นรถยนต์จึงเริ่มทำ
และครั้งนี้ตนเองก็ยอมลงทุนเป็นหมื่นบาทเพื่อติดกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักประกันด้านความปลอดภัยกับพระองค์ท่าน แม้ว่าตอนนั้นตนเองจะมีหนี้สินนับล้านบาท และเมื่อแม่ของตนเองทราบเรื่องก็เสนอว่าให้ซ่อมถวายพระองค์โดยไม่คิดมูลค่าเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ ในฐานะคนจีนที่โล้สำเภามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ และตนเองก็ยินดีทำตามคำแม่ด้วยความเต็มใจ แต่ทว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กลับมีรับสั่งให้สารถีมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรดที่นายช่างทำแบบนี้ คือ..ไม่ว่าเราจะทำเรื่องถวายอะไรก็ตาม ก็อยากให้รู้จักประมาณตนว่า อะไรควรถวาย อะไรไม่ควรถวาย ดูว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ และหลังจากนี้ตนเองก็ได้รับความไว้วางใจรับหน้าที่ดูแลรถยนต์พระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยตลอดมา
รถส่วนใหญ่ที่ตนเคยถวายงานมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 20-30 ปี ในสภาพที่เป็นรอยรอบคัน จนบางครั้งตนอดคิดไม่ได้เลยว่า ทำไมท่านถึงทรงงานหนักขนาดนั้น นี่แค่ใต้ท้องรถยังสภาพกรำงานมากขนาดนี้ แล้วพระวรกายท่านล่ะ ?
นายช่างอนันต์ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปี ที่ปฏิบัติงานถวาย ตนเองทุ่มเททำงที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด และได้รับนำเอาพระราชกระแสรับสั่งในการประมาณตน ยึดเป็นหลักในการใช้ในชีวิตมาโดยตลอด ตนเองรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในทุก ๆ วันนี้ ทำให้ตนอยู่ดีมีสุขมากขึ้น และนับจากนี้ ตนเองจะถ่ายทอดเรื่องราวอันดีงามของพระองค์ที่ผมมีส่วนเกี่ยวข้องออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กมาก ๆ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีให้กับพสกนิกรทุกคนของพระองค์ แม้แต่ช่างทำสีตัวเล็ก ๆ อย่างตน
"ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้ ผมไม่มีทางเปิดตัวเลยนะครับ..เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพระองค์ท่าน"