เมื่อภรรยาใส่ “ห่วงยางอนามัย” แต่ท้องได้!! วันที่ทำคลอด ทารกเกิดเป็นแบบนี้? แม้แต่แพทย์ยังงง!!!

เหตุเกิดที่ประเทศจีน เมื่อคุณแม่อายุ 32 ปีคนหนึ่ง เธอได้คลอดบุตรชายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เธอและสามีจึงตัดสินใจคุมกำเนิด ภรรยาจึงใส่ห่วงอนามัยหรือ แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้พบว่าท้องเธอใหญ่ผิดปกติ และประจำเดือนก็ไม่มา 3 เดือนแล้ว...จึงรีบไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่าเธอได้ตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนกว่าแล้ว!

เธอบอกแพทย์ว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้วเธอได้ใส่ห่วงอนามัยหรือ หลังจากที่คลอดลูกคนแรก เธอสงสัยว่าผลตรวจจะผิดปกติ แพทย์จึงนำรายงานผลการตรวจมาชี้แจงโดยละเอียดอีกครั้ง เมื่อเธอและสามียอมรับในผลตรวจสอบของแพทย์ จึงคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ครอบครัวเธอ จึงตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้

เมื่อถึงวันครบกำหนดคลอด การคลอดผ่านไปด้วยดี แต่สิ่งที่ทำให้แพทย์ต้องตะลึงคือ มือของทารกกำห่วงอนามัยจากร่างกายของแม่ไว้แน่น! ที่แท้ห่วงอนามัยที่คุณแม่ได้ใส่ไว้ก่อนหน้านั้น ยังติดอยู่ในผนังมดลูก ขณะทำคลอดน้ำคร่ำและรกได้ออกมาพร้อมกัน แต่สิ่งที่ทารกนำติดออกมาก็คือห่วงอนามัย นับว่าโชคดีที่ห่วงอนามัยไม่ได้ทำให้ร่างกายทารกเกิดบาดแผล อีกทั้งยังช่วยคุณแม่นำห่วงอนามัยออกมาด้วย นับว่าโชคดีทีเดียวที่เธอตัดสินใจคลอดลูกคนนี้!

เคสที่เกิดขึ้นนับว่าเกิดจากการที่คุณแม่ไม่ได้ระมัดระวังเพียงพอหลังจากที่สวมใส่ห่วงอนามัยไปแล้ว นับว่าโชคดีมากที่ทั้งแม่และลูกปลอดภัยทั้งคู่! และขอนำเสนอข้อควรระวัง 5 ข้อสำหรับผู้ที่สวมใส่ห่วงอนามัย ต้องจำไว้ให้ดี!

1.ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในระยะเวลาที่กำหนดไว้

ผู้หญิงห้ามมีเพศสัมพันธ์ ก่อนสวมใส่ห่วงอนามัย 3 วัน และหลังสวมใส่ 2 สัปดาห์

2.ถึงแม้จะใส่ห่วงอนามัยแล้ว ก็ต้องคอยให้แพทย์ตรวจตามเวลาที่กำหนด

ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบห่วงอนามัยอีกครั้งในเดือนที่ 1, 3, 6 แรกหลังจากที่ใส่ห่วงอนามัยแล้ว และหลังจากนั้นให้ตรวจสอบเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

3.หมั่นตรวจสอบว่าห่วงอนามัยได้หลุดออกหรือไม่

สำหรับบางคนที่มีเลือดออกมากในช่วงเป็นประจำเดือน อาจทำให้ห่วงอนามัยหลุดออกได้ หากเกิดการหลุดขึ้นมักมีอาหารปวดบวมตรงบริเวณท้องน้อย ดังนั้นในช่วงประจำเดือนควรหมั่นตรวจสอบอย่างละเอียดว่าห่วงอนามัยได้หลุดออกมาพร้อมกับเลือดประจำเดือนหรือไม่ ห่วงอนามัยที่หลุดแล้วสามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้ง แต่ถ้าหลุดบ่อยเกินไปก็ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดรูปแบบอื่นแทน

4.ระมัดระวังเสมอว่าประจำเดือนมาตรงเวลาหรือไม่

ถ้าหากประจำเดือนไม่มาเป็นระยะเวลา 1-2 เดือน ก็อาจหมายความว่าตั้งครรภ์ ให้พบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการตรวจสอบ

5.หากพบว่าตั้งครรภ์ในช่วงใส่ห่วงอนามัย ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน

หากเกิดการตั้งครรภ์ในช่วงที่สวมใส่ห่วงอนามัย ควรพบแพทย์โดยด่วนที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายของสุขภาพแม่ได้ดีที่สุด