เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ โรสลิน แม็กกินนิส ยังมีอายุเพียง 11 ปี เธอได้รู้จักกับ เฮนรี่ ไมเคิล เพตตี ชายอเมริกัน ซึ่งกำลังจะมาเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ แต่แล้วเขากลับพาเธอไปจัดฉากแต่งงานกับตัวเขาเอง ที่้ท้ายรถแวนคันหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานกับแม่ของเธอในวันรุ่งขึ้น
แต่แล้วหลังจากนั้นแม่ของแม็กกินนิสก็ตัดสินใจทิ้งชายคนนี้ และพาตัวเธอหนีออกมาด้วย เนื่องจากทนรับพฤติกรรมใช้ความรุนแรงของเขาไม่ไหว โดยไม่คาดคิดเลยว่าชายที่เหมือนปีศาจร้ายนี้จะตามมาลักพาตัวแม็กกินนิสในวัย 12 ปี ออกไปจากโรงเรียนในรัฐโอคลาโฮมา สหรัฐฯ นำไปกักขังไว้ที่เต้นท์ในย่านชนบทของเม็กซิโก
นับจากนั้นวันคืนแห่งความโหดร้ายเก็เริ่มขึ้น แม็กกินนิสเผยว่าเป็นเวลายาวนานถึง 19 ปีเต็ม ที่เธอต้องทนทุกข์อยู่กับชายคนนี้ เขาแนะนำให้ลูก ๆ ของเขารู้จักเธอในฐานะ "แม่คนใหม่" ก่อนจะเริ่มใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายสารพัด ทั้งใช้ไม้เบสบอลฟาด ใช้มีดแทง บีบคอจนหมดสติ รวมถึงข่มขืนซ้ำ ๆ เกือบทุกวัน
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการติดตามตัว เพตตียังได้ทำการย้ายที่อยู่ไปหลายต่อหลายที่ ทั้งย้ายไปทั่วสหรัฐฯ รวมถึงข้ามพรมแดนมากบดานยังเมืองต่าง ๆ ในเม็กซิโก ในช่วงเวลาเหล่านั้นเหยื่อสาวก็ได้ให้กำเนิดลูกของเขาถึง 9 คน แต่ในวันหนึ่งทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อแม็กกินนิสสบโอกาส สามารถหนีออกมาจากขุมนรกนั้นได้ในที่สุด โดยพาลูก ๆ 8 คนออกมาด้วย ส่วนลูกคนโตของเธอนั้นได้หนีออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว
"ฉันรู้ว่าถ้าฉันไม่หนีออกมาจากที่นั่น ฉันคงจะเป็นบ้า ไม่ก็จบลงด้วยความตาย โดยทิ้งลูก ๆ ของฉันไว้กับชายคนนั้น" แม็กกินนิส เผยต่อนิตยสารพีเพิลส์
หลังจากนั้นแม็กกินนิสเริ่มตระเวนออกขอเงินและอาหารจากข้างถนน ก่อนจะเริ่มหาช่องทางมาขายกาแฟ น้ำผึ้ง และไอศกรีมโฮมเมด เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูลูก ๆ ของเธอ จนเมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งแล้ว ในเดือนมิถุนายน 2559 เธอจึงได้ติดต่อไปหาองค์กร National Centre for Missing and Exploited Children (NCMEC) เพื่อเล่าให้ฟังพวกเขาได้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ
"มันเป็นเรื่องดีที่สามารถบอกความจริงแก่ใครสักคนได้ ฉันยังคงหวาดกลัว แต่มันดีแล้วที่ไม่ต้องโกหกอีกต่อไป" แม็กกินนิส กล่าว
จากนั้นแม็กกินนิสและลูก ๆ ยังต้องซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ อีกนานถึง 2 เดือน ในระหว่างที่ NCMEC ช่วยประสานกับทางสถานทูตสหรัฐฯ ในเม็กซิโก เพื่อออกหนังสือเดินทางฉุกเฉินให้เธอกับลูก ๆ ได้หนีกลับมายังสหรัฐฯ ได้ในที่สุด
ทั้งนี้หลังจากที่หนีพ้นเงื้อมมือชายคนดังกล่าวมาได้แล้ว แม็กกินนิส ซึ่งขณะนี้มีอายุได้ 33 ปี ก็ตัดสินใจออกมาเผยเรื่องราวทั้งหมด เพื่อหวังให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวและนำเพตตีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เป็นเวลาหลายเดือนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเอฟบีไอได้ร่วมกันติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี กระทั่งในที่สุดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2560 เฮนรี่ ไมเคิล เพตตี วัย 62 ปี ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในเม็กซิโกจับกุมได้ และอยู่ระหว่างส่งตัวมาที่สหรัฐฯ ซึ่งเขาจะต้องเผชิญหน้ากับข้อหาหนักหลายอย่าง ทั้งข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกายเด็ก และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ทางทีมสืบสวนเชื่อว่าชายคนนี้น่าจะน่าจะมีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับองค์กรอาชญากรรมในเม็กซิโกด้วย