น้ำตาตก! เมื่อได้ยินแม่บอก จะไม่ไปงานแต่งฉัน แต่พอรู้สาเหตุถึงกับตัดสินใจยกเลิกงานแต่งทันที!

น้ำตาตก! เมื่อได้ยินแม่บอก จะไม่ไปงานแต่งฉัน แต่พอรู้สาเหตุถึงกับตัดสินใจยกเลิกงานแต่งทันที!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เป็นเหตุการณ์ความรักของคู่รักคู่หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า ฉันและแฟนหนุ่มรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราทั้งสองอาศัยอยู่หมู่บ้านใกล้ๆกัน เขาขอร้องให้ฉันกลับบ้านพร้อมกับเขาอยู่บ่อยๆ นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราทั้งสองเริ่มสนิทกันและตกลงคบหากันในที่สุด

น้ำตาตก! เมื่อได้ยินแม่บอก จะไม่ไปงานแต่งฉัน แต่พอรู้สาเหตุถึงกับตัดสินใจยกเลิกงานแต่งทันที!

หลังเรียนจบฉันทำงานเป็นครูสอนหนังสืออยู่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ส่วนเขาพ่อเปิดบริษัทจึงจัดเตรียมตำแหน่งหน้าที่การงานให้เขาทำ เราทั้งสองมีการงานที่มั่นคง ในปีนี้เองเขาก็ขอฉันแต่งงาน ฉันตอบตกลง จากนั้นเขาก็พาฉันไปพบพ่อแม่ของเขา
แม่ของเขาต่อเห็นหน้าดูเป็นคนมีมารยาทขี้เกรงใจมาก แต่นั้นทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ เขาเป็นเด็กที่เติบโตในเมือง มีบ้านหลังใหญ่โต ตอนนัดกินข้าวกับครอบครัวของฉัน แม่ของเขาทำท่าทางดูเหมือนรังเกียจครอบครัวของฉันมาก แต่เพราะว่าฉันมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ไม่เลว และบวกกับเขารักฉันมาก พ่อแม่ของเขาจึงยอมตกลงเรื่องแต่งงาน อาหารมื้อนั้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกกดขี่ ข่มเหงอย่างไงอย่างงั้น

น้ำตาตก! เมื่อได้ยินแม่บอก จะไม่ไปงานแต่งฉัน แต่พอรู้สาเหตุถึงกับตัดสินใจยกเลิกงานแต่งทันที!

ตอนแรกฉันตัดสินใจจะบอกเลิกเขาไป แต่เพราะว่าฉันดันมาตรวจพบว่าตนเองท้องซะก่อน จึงเลิกล้มความคิดนี้ทิ้งไป เรื่องการแต่งงานครอบครัวฝ่ายชายขอเป็นคนจัดการทั้งหมด และไม่เคยถามความคิดเห็นจากฉันเลย แม้แต่อย่างเดียว

น้ำตาตก! เมื่อได้ยินแม่บอก จะไม่ไปงานแต่งฉัน แต่พอรู้สาเหตุถึงกับตัดสินใจยกเลิกงานแต่งทันที!

หลังจากนั้นมาเพียงไม่กี่วันแม่ของฉันก็โทรมาหาฉันแล้วบอกว่า "ลูกจ๋า งานแต่งงานของลูกแม่กับพ่อคงไปร่วมด้วยไม่ได้" ฉันจึงถามแม่ว่า "ทำไมคะ? เกิดอะไรขึ้น? พ่อต้องมางานแต่งจูงมือหนูเพื่อยื่นให้เจ้าบ่าวสวมแหวนนะคะ" แม่ร้องไห้ใหญ่ เมื่อได้ยินที่ฉันพูด ฉันเค้นความจริงจากปากของแม่ ในที่สุดฉันก็รู้สาเหตุ เป็นเพราะแม่ของเขาโทรมาหาแม่ของฉัน แล้วบอกว่า "พ่อแม่และญาติทางฝ่ายเจ้าสาวอย่ามาร่วมงานแต่งของลูกชายฉันนะ เพราะในวันงานจะมีแต่แขกที่มีหน้ามีตาทางสัมคมมากมาย กลัวว่าเมื่อมาเห็นญาติฝ่ายเจ้าสาวแล้วจะทำขายขี้หน้า กลายเป็นเรื่องนินทาของชาวบ้านอีก"

เมื่อฉันรู้เรื่องนี้ ก็รู้สึกโกรธมากจนตัวสั่นและตัดสินใจไปทำแท้ง ณ วันนั้นเลย ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดใจมากที่ทำร้ายลูก แต่ฉันก็ไม่อยากให้เขาเกิดมาแล้วต้องมาเจอกับปัญหาเหล่านี้ หรือกลายเป็นลูกไม่มีพ่อ และที่สำคัญฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาดูถูกเหยียดหยามพ่อแม่ของฉันแน่นอน ฉันก็ไม่อยากจะแต่งเข้าบ้านที่มีความคิดแบบนี้ด้วย เรื่องทำแท้งฉันไม่ได้บอกใครและไม่มีใครรู้
คืนก่อนวันแต่งงาน ฉันจึงบอกกับครอบครัวของเขาว่า "ฉันจะยกเลิกงานแต่ง" ทำเอาพ่อแม่ของเขาตะลึงอ้างปากค้างเลยทีเดียว ตอนแรกฉันคิดว่าจะยอมทนเพื่อลูก แต่พอคิดไปคิดมาหากลูกต้องเกิดในครอบครัวแบบนี้ก็คงไม่มีความสุข อาจต้องกลายเป็นลูกที่กำพร้าพ่อหรือแม่ก็เป็นได้!!

ที่มา liekr

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u340180469
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 01:38 น. ]
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์