ความฝันของภรรยาคือ หาผู้หญิงให้สามี พอรู้เหตุผลที่แท้จริง ทำกลั้นน้ำตาไม่อยู่!

2014 ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานขึ้น หลังแต่งงาน 1 เดือน เธอจึงตัดสินใจไปร่วมรายการ โชว์ความฝัน (ของประเทศจีน) เพราะเธอกลัวว่า หลังผ่าตัดครั้งที่ 2 มีโอกาสเสี่ยงมาก หากเธอไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ก็อยากที่จะหาผู้หญิงที่ดีสักคนคอยอยู่เป็นคู่ชีวิตกับสามี จึงอยากให้รายการช่วยหาหญิงที่เหมาะสมเป็นคู่ชีวิตให้กับสามี

โดยเธอบอกว่า "หากหลังผ่าตัดเธอไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ก็ขอให้รายการช่วยนำความฝันของเธอบอกแก่สามี แต่หากปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้"

บรรยากาศในรายการนี้ทำให้ผู้ชมในห้องส่งและคณะกรรมถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กับสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญ ในขณะเดียวกันเธอยังคงร่าเริงยิ้มแย้ม เข้มแข็งต่อโรคร้ายที่ต้องพบเจอได้ เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น!

การผ่าตัดด้วยการเปิดกะโหลกศีรษะนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก มีความเสี่ยงสูงมาก การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะครั้งที่ 2 อันตรายยิ่งกว่าครั้งที่ 1 เพื่อลดความเสี่ยงของการผ่าตัด รายการ โชว์ความฝัน จึงได้ย้ายการผ่าตัด เผิง หยิง ย้ายไปยังโรงพยาบาลในเมืองปักกิ่ง

ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอเข้าไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามีของเธอ หยาง ไฮ่ ปิงก็อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้เธอตลอดเวลา ไม่เคยห่างไปไหน เผิง หยิงจำเป็นต้องโกนหัวล้าน ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัด สามีของเธอก็โกนหัวล้านเป็นเพื่อน และให้กำลังใจเธอ

หลังการผ่าตัดผ่านไป 9 ชั่วโมง ทีมหมอที่ผ่าตัดให้เธอก็ออกมา พร้อมกับพูดว่า "การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี" เผิง หยิงรู้สึกตัวเร็วมากคืนวันนั้นเอง เธอก็ลืมตาขึ้นมา แต่ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่พูดคุยได้เป็นปกติ นั้นแสดงว่าการผ่าตัดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

เหมือนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เธอร่างกายฟื้นฟูค่อยๆดีขึ้น เธออยากที่จะเปิดร้านอาหารเล็กๆ เพื่อทำคุณประโยนช์ให้กับสังคม เมื่อปีนี้ในวันครบรอบ 23 ปี ของเธอ หยาง ไฮ่ ปิง ก็ช่วยสานฝันให้ภรรยาสาวเป็นจริง โดยเปิดร้านอาหารเล็กขึ้น ภายในร้านอาหารได้แขวนรูปภาพแห่งความทรงจำของเผิง หยิงไว้เต็มฝาผนัง รูปภาพที่เธอต้องต่อสู้กับมะเร็งร้าย โดยสามีบันทึกตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้จักกัน จนกระทั่งถึงวินาทีที่เธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายและหลังผ่าตัด ตลอดจนการดูแลหลังผ่าตัด ดูสิพวกเขารักกันมากแค่ไหน

สามีของเธอกล่าวว่า "ตั้งแต่เผิง หยิงออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องใช้จ่ายสูงมาก เดือนหนึ่งแค่ค่ายาก็ต้องจ่าย 4,000 หยวน หรือราว 20,000 บาท"

ปัจจุบันเผิง หยิง ได้หยุดยามาแล้วกว่าครึ่งปี ร่างกายเริ่มฟื้นฟูเป็นปกติ และเนื่องจากฐานะการเงินของทางบ้าน ทำให้พี่สาวของสามีได้ลงทุนเปิดร้านอาหารเล็กขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถมีรายได้ และอีกอย่างเพื่อตอบแทนสังคม หากไม่มีความรักความห่วงใยจากสังคมในวันนั้นก็จะไม่มีเผิง หยิงในวันนี้

ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงอยากที่จะเปิดร้านอาหารเล็กๆ เพื่อทำเมนูอาหารแห่งความรัก ทางเข้าประตูหน้าร้านมีกล่องเก็บอุณหภูมิ และมีกระดาษเขียนติดไว้ว่า "พนักงานสุขาภิบาลเชิญหยิบฟรี"

เผิง หยิงบอกว่า "ในช่วงหลายปีที่เธอต่อสู้กับโรคร้ายอยู่นั้น เธอได้รับความรักและความห่วงใย กำลังใจจากเพื่อนๆในสังคมมากมาย ทำให้เธอคิดว่าหากมีชีวิตอยู่รอดมาได้ ก็จะเปิดร้านอาหารเล็ก เพื่อทำอาหารให้เพื่อนๆที่ทำงานเพื่อสังคม ในช่วงฤดูร้อนก็จะมีถั่วเขียวต้ม พอถึงฤดูหนาวก็จะมีน้ำอุ่นหรือชาเตรียมไว้ให้บริการฟรี"

เธอบอกว่าในช่วงที่พวกเขาแต่งงานกัน 3 ปี มานี้ ตนเองมีอารมณ์ขึ้นๆลง ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่หงุดหงิดง่าย แต่สามีของเธอก็อยู่เคียงข้างไม่ไปไหน ยังคงรักเธอตลอดมา และพยายามดูแลอาหารทุกมื้อให้เธอไม่ขาด ทำให้เธอรู้สึกว่า อยากจะขอบพระคุณสามีเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าตอนนี้อาการของเผิง หยิงค่อนข้างปกติดีแล้ว แต่เธอก็อยากดูแลร้านอาหารให้เปิดตลอดไป ด้วยความรัก และถ้าหากอาการของฉันกำเริบขึ้นมาอีก อย่างน้อยสามีก็จะได้มีอาชีพการงานทำ ไม่รู้สึกเดียวดายอีกต่อไป

เราทุกคนไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอะไร เลวร้ายแค่ไหน ขอให้เราใช้ทุกวินาทีให้มีค่ามากที่สุด เผชิญมันด้วยความร่าเริงแจ่มใส ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายทุกคนนะคะ

ชมคลิปด้านล่าง

 

VVV

VV

V

VV