น้องเขย เอาแตงกวามาให้ฉันทุกวัน พอรู้สาเหตุ ทำเอาฉันทนไม่ไหว จัดการขั้นเด็ดขาด!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีผู้หญิงอายุ 32 ปีคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ระบายความรู้สึกที่เก็บมานานให้ทุกคนฟัง ผู้หญิงที่อายุ 32 ปี ยังไม่แต่งงานนั้นถือว่าอายุมากแล้ว ทำให้พ่อแม่พูดกรอกหูทุกวันให้รีบหาคู่แต่งงานได้แล้ว แต่สำหรับฉันนั้นคิดว่า การหาผู้ชายที่ดีสักคนหนึ่งนั้นมันยากมาก เพราะรอบๆข้างฉันมีแต่ผู้ชายที่ทำให้ปวดหัว มีแต่ผู้ชายที่พึ่งไม่ได้ ทำให้ไม่กล้าที่จะลองคบ กลัวว่าคนที่เสียเปรียบมากที่สุดก็คือตัวเอง เพราะฉะนั้นฉันทุ่มเททำงานเก็บเงินและพยายามเปลี่ยนตัวเองให้สวย,แข็งแกร่ง,มีเงิน,พยายามดิ้นรนต่อสู้ในการทำงานเพื่อให้ได้ตำแหน่งการงานที่ดี ตอนนี้ฉันทำตำแหน่งผู้บริหารธุรกิจของบริษัทแห่งหนึ่ง เงินเดือนราว 400,000 บาท แต่คนรักของฉันละ อยู่ที่ไหน?

สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจมากคือ น้องสาวที่อายุอ่อนกว่าฉัน 5 ปีประกาศแต่งงานแล้ว โอ๊ย........ฟ้าสวรรค์ทำไมแกล้งกันอย่างนี้ ทำไมไม่ให้ฉันได้แต่งงานก่อน แต่เมื่อน้องสาวพาว่าที่เจ้าบ่าวกลับบ้านนั้น ฉันถึงเข้าใจว่าสวรรค์กำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่นั้นเอง เพราะผู้ชายคนนั้นก็คือ อดีตแฟนหนุ่มของฉันนั้นเอง
ตอนนั้นเราทั้งสองทำเป็นไม่รู้จักกันมาก่อน ฮือฮือ ฉันไม่อยากจะเจอหน้าเขาจริงๆ เพราะคนนั้นๆนี้คบกับฉันได้ 3 เดือน ก็โดนฉันจับได้ว่านอกใจกำลังมีกิ๊กถึง 3 ครั้งกับผู้หญิง 3 คน คิดดูว่าผู้ชายประเภทนี้นิสัยเหมือนตัวอะไร ไม่อยากพูดถึงมันอีก
ฉันพยายามพูดเกลี้ยกล่อมน้องสาวหลายรอบ แต่น้องสาวก็ไม่ฟัง และยังคิดว่าฉันรังเกียจว่าที่เจ้าบ่าวและอิจฉาเธอ ทำให้ฉันรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคงล้างสมองน้องสาวฉันหมดแล้วแน่ๆเลย ฉันแค่หวังอยากให้น้องสาวพบคนที่ดีและมีความสุขเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น เรื่องนี้ทำให้น้องสาวโกรธฉันมาก เธอไม่ยอมพูดคุยกับฉันอีกเลย กลายเป็นสงครามเย็นไปซะงั้น ฉันเลยถอดใจ ในเมื่อไม่ฟังก็ปล่อยให้น้องสาวเผชิญความจริงเอง

เวลาต่อมาทั้งสองก็ไปจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยก็ตาม หลังแต่งงาน น้องสาวและน้องเขยฉันไม่มีบ้านอยู่ เขาทั้งสองอยากที่จะเก็บเงินให้มากกว่านี้เพื่อซื้อบ้าน จึงอยากขอพักบ้านฉันสักระยะหนึ่ง ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าน้องเขยของฉันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทำไงได้ นั้นน้องสาวแท้ๆของฉัน จึงต้องตอบตกลงไปโดยดี หลังจากที่ทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของฉัน น้องเขย (อดีตแฟนเก่า) ที่อายุน้อยกว่าฉัน 5 ปีก็เอาแตงกวามาให้ฉัน บอกว่าเห็นฉันอารมณ์ร้อนบ่อยๆ แตงกวาช่วยดับอารมณ์ร้อนได้ จะไม่ให้อารมณ์ร้อนโมโหได้อย่างไง น้องสาวก็สมองกลวงเชื่อคำของน้องเขยไปหมด บอกว่าดูสิเขาดีกับพี่แค่ไหน นึกว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าเขากำลังคิดอะไอยู่
ผ่านไป 1 เดือน บริษัทส่งตัวน้องสาวไปทำงานต่างจังหวัด น้องเขยก็เริ่มออกลาย เผยธาตุแท้ของตนเองออกมา
เมื่อวันก่อนเขาเอาแตงกวามาให้ฉันถึงในห้อง(ตอนนั้นฉันนึกว่าเขาไปทำงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขาแอบลางาน ทำให้ฉันไม่ระวังที่จะล็อคประตูห้องนอน) บอกว่า "ผมรู้ว่าคุณชอบกินแตงกวามาก ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นผมจึงเอาแตงกวามาให้ทุกวันไงละ เพื่อให้คุณจำตอนที่เรามีความสุขมากที่สุดไว้"
ฉันจึงตะโกนไปว่า "ใครชอบกินแตงกวา ไม่ใช่เพราะเธออยากกินหรอ ฉันแค่กินเป็นเพื่อนเธอเท่านั้นเอง ความจริงฉันไม่ชอบกินเลย" ฉันจึงเดินออกนอกห้อง นาทีที่ฉันเผลอ น้องเขยยังแอบมาจับหน้าอกฉันและกอดฉันอย่างแน่น จับฉันนอนลงบนเตียง ตอนนั้นฉันโกรธและโมโหมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตะโกนออกไปว่า "ไอ้โรคจิต ประสาทหรือไง?" จากนั้นฉันก็เอาโคมไฟบนหัวเตียงฟาดเข้าที่หัวของน้องเขยอย่างแรงหลายที จนเหลือไหลไม่หยุด จากนั้นฉันก็บอกไปว่า "ยังมีหน้ามากอดฉันอีกหรอ แกไม่มีค่าพอที่จะให้กอดหรอก ดูสารรูปตอนนี้ซิ! เหมือนหมาไม่มีผิด ไอ้โรคจิตเอ้ย!"

ฉันเห็นเลือดไหลไม่หยุด จึงพาน้องเขยไปส่งโรงพยาบาล เมื่อน้องสาวรู้เรื่องเข้าก็ปวดใจและเกลียดฉันมากขึ้น ฟังคำโกโหของน้องเขย ไม่เชื่อพี่สาวอย่างฉันเลย พ่อแม่ก็เหมือนกันเข้าใจผิดหมด ฉันพยายามอธิบายแล้วแต่ก็ไม่มีใครเชื่อฉันเลย เพราะน้องเขยทำให้พวกเขาตายใจเชื่อว่าฉันเป็นคนผิด ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำอย่างไงดี? ฉันจึงแอบติดกล้องในห้องนอนและห้องรับแขกเพื่อหาหลักฐานช่วยเหลือตนเอง และจับคนที่พูดโกโหออกมาประจานให้ทุกคนรู้
หลังจากที่น้องเขยหายดี ผีโรคจิตก็เข้าสิงตัวเขาอีก วันนั้นน้องสาวต้องไปทำงานต่างจังหวัด ฉันจึงล็อคประตูห้องนอนอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้อย่างไง จู่ๆก็เข้ามาถอดเสื้อผ้าหวังจะข่มขืนฉัน ตอนนั้นฉันหมดความอดทนกับผู้ชายประเภทนี้แล้ว จึงเอามีดที่ลิ้นชักโต๊ะตรงหัวเตียงออกมา หวังจะแทงเขา แต่แล้วพ่อแม่ฉันก็มากดกริ่งหน้าประตูบ้านพอดี ทำให้เขารอดตายไป เขาจึงรีบออกไปเปิดประตูและบอกว่า "พ่อครับแม่ครับ ช่วยผมด้วย พี่สาวจะฆ่าผม"
เมื่อทั้งสองวิ่งเข้ามาก็เห็นฉันกำลังเอามีดเก็บในลิ้นชักโต๊ะพอดี พ่อแม่ก็เหมือนเคยหาว่าฉันประสาทไปแล้วแน่ๆเลย ทำไมถึงทำแบบนี้ ฉันจึงยื่นคำขาดว่า "ในเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วมีปัญหามากมายขนาดนี้ งั้นก็ย้ายออกไปทั้งสองคนเลย ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว ออกไป!"

หลังจากที่น้องสาวกลับมาก็เก็บข้าวของย้ายออกไปทั้งสองคน ทำให้ฉันรู้สึกว่าบ้านที่สงบสุขของฉันก็กลับมาอีกครั้ง! ฉันไม่อยากทำเรื่องให้ใหญ่โต จึงไม่ได้เอาคลิปในวันนั้นออกมาให้ทุกคนดู เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตลอดมา ตอนนี้มันอัดอั้นอยู่ในสมองของฉันตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะเอาให้พวกเขาดูดีไหม? จึงได้นำเรื่องมาโพสต์ถามเพื่อนชาวเน็ต?? ฉันจะทำอย่างไงดี??