7 มิถุนายน 2522 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ไปทรงเยี่ยมโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ป่าเด็ง-ป่าละอู ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีสตรีท่านหนึ่ง นำลูกน้อยวัย 1 ขวบเศษ มาร่วมถวายพระพร ซึ่งต่อมาได้มีการตามหาบุคคลดังกล่าวจนพบ และมีการตรวจสอบพิสูจน์ชัดเจน จนพบว่า เด็กชายในภาพนั้นคือ นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ
ทั้งนี้ นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ หรือ หม่อม ปัจจุบัน ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างในร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ ใน อ. หัวหิน โดยที่มารดา นางสุนีย์ ภูมิประเทศ กล่าวว่า ตนและสามีเป็นครอบครัวทหารผ่านศึก ได้ย้ายจาก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มาทำกินที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในขณะนั้น ครอบครัวมีฐานะยากจน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2522 ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มาที่หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่-ป่าเด็ง-ป่าละอู ในหลวงก็ทรงเยี่ยมคนในหมู่บ้าน และมีหมายกำหนดการเสด็จไปยังเรือนพักรับรอง ซึ่งครั้งนั้นได้เลือกให้บ้านของนางสุนีย์เป็นเรือนพักรับรอง แต่เนื่องจากเวลาไม่พอ เมื่อเสด็จมาถึงจึงไม่ได้มาประทับ
ครั้งนั้น นายขวัญแก้ว วัชโรทัย ได้ตามเสด็จด้วย และเห็นว่าบุตรชายเป็นผู้มีบุญ นายขวัญแก้วจึงได้แนะนำให้ถวายบุตรแด่พระองค์ท่าน นางสุนีย์และสามี จึงถวายบุตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระองค์จึงถามว่า ทำไมจึงถวายเด็กแก่พระองค์ นางสุนีย์จึงตอบว่า ตอนที่ตั้งท้องฝันว่าได้ถวายงานพายเรือแด่ในหลวง ในหลวงจึงถามว่า จะให้เอาไปเลยหรือเปล่า นางสุนีย์จึงตอบว่า บุตรชายยังเล็ก หวั่นว่าจะสร้างความลำบากแก่พระองค์ จึงขอเลี้ยงไว้ก่อน
จากนั้น ในหลวงจึงตรัสว่า ถ้าอย่างนั้นให้ฝากเลี้ยงไว้ก่อน เลี้ยงเขาให้ดีอย่าไปไหน ให้เขาทำกินที่ห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ยื่นพระหัตถ์ซ้ายมาสัมผัสศีรษะของบุตรชาย และทรงเรียกว่า "หม่อม" ซึ่งก็มีชาวบ้านในละแวกนั้นเห็นเป็นจำนวนมาก และเรียกบุตรชายตนเองว่า หม่อม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มาหาที่บ้านของตน และยืนยันว่าบุคคลในภาพคือบุตรชายของตน ทำให้ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง และลูกชาย จะได้ถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งทางครอบครัวต่างเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ประทับที่ พระราชวังไกลกังวล ตนและครอบครัวก็จะตามไปรับเสด็จทุกครั้ง
ด้านนายอัตรภูมิ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่มาหา พ่อแม่ได้เล่าเรื่องที่ถวายตนให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนรถยนต์พระที่นั่งที่จอดหน้าบ้าน ซึ่งบิดาได้เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ลูบศีรษะและเรียกตนว่า หม่อม อันถือเป็นมงคลสูงสุดของชีิวิต