วันที่ 8 พ.ย.2560 ถือเป็นอุทาหรณ์ราคาแพงที่ไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาด ภายหลังพ่อหนุ่มรายหนึ่งเกิดปิ๊งสาวรุ่นน้องรายหนึ่ง ที่รู้จักกันในงานแต่งของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย จึงเข้าไปขอไลน์ ซึ่งน้องเขาก็ให้แต่โดยดี ก็ก็ไม่ได้คุยกับเขาสักเท่าไหร่นัก กระทั่งวันเวลาผ่านไป เธอได้หายไปจากสารบบ จู่ๆสาวรุ่นน้องรายนี้ก็ทักมา เนื่องจากสืบทราบมาว่าทางบ้านหนุ่มรายนี้ ค่อนข้างที่จะมีฐานะ ก่อนจะนัดทานข้าวในทันที และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ที่หนุ่มรายนี้ไม่อาจจะลืมได้ลง
ช้ำใจหนัก!! หนุ่มออกเดทแรก กับสาวรุ่นน้อง อาหารมาไม่ทันไร? หายนะมาเยือนเต็มๆ
เรื่องราวนี้เปิดเผยโดย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2972092 ได้แชร์ประสบการณ์เดทแรกกับสาวรุ่นน้อง ในหัวข้อ "เดทแรกสุดประทับใจ โดนสาวหน้าใสใจดีพาเพื่อนมาร่วมโต๊ะ โดนถล่มเละ แต่ผมใช้วิชานินจาเลยรอดมาได้ ..แบบไม่ค่อยสบายใจ อยากถาม" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ขอเล่าถึงเหตุการณ์สุดประทับใจ ไม่มีวันลืมของผม หากผิดพลาดอย่างไรขออภัย ณ ไว้ที่นี้
เริ่มเรื่อง ผมกับน้องผู้หญิงคนนี้ รู้จักกันผ่านรุ่นน้องที่มหาลัย จากงานแต่งใครสักคนหนึ่ง
ผมก็เข้าไปขอไลน์ คืออยากรู้จัก น้องเขาก็ให้มาจากนั้นก็ คุยกันเพียงระยะสั้นๆ
เนื่องจาก ดูท่าทางน้องเขาไม่ค่อยอยากจะคุยกับเราเท่าไหร่ ทักไปวันนี้ กว่าจะตอบอีกทีก็ข้ามวัน แต่ในเฟส ในไทม์ไลน์ ก็ยังโพสอยู่ บ่อยๆ
ก็เลยปล่อย ก็ไม่ได้ทักไปอีก
สักพักใหญ่ๆ เดือนหรือสองเดือนให้หลัง อยู่ๆ น้องเขาก็ทักมาถามว่า บ้านพี่ทำ...............เหรอ ผมก็ตอบไปว่า ใช่ๆครับ แต่ไม่ได้กำไรเยอะหรอกครับ
มีแต่หนี้ กับเงินหมุน....
จากนั้นเขาก็เริ่มชวนคุยบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะว่าความรู้สึกที่ชอบ อยากรู้จัก มันหายไปแล้ว แล้วผมได้คิดไปเองว่า เขาน่าจะมีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว จากการอ่านไทม์ไลน์ และการแชร์ สเตตัสต่างๆ รวมถึงการไปเที่ยวต่างจังหวัดและมีคนถ่ายรูปให้
อยู่มาวันนึงเขาก็มาทักในไลน์ถามว่า ว่างมั้ย มาเจอกันหน่อย กินข้าวกัน ผมก็อยู่แถวๆนั้นพอดี ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไร ก็แค่ไปกินข้าว
น้องเขาบอกว่า อยากไปกินอาหารญี่ปุ่น ผมก็โอเคก็เสนอไปว่า ฟูจิ เซน เฮียโรกุ หรือจะ โออิชิบัฟฟฟฟฟ ในใจคิดว่า น้องเขาคงไม่เลือก " ร้านนั้น " หรอก
สรุปคือน้องเขาเลือก " ร้านนั้น " ผมก็ oh noooooo not this one ..........
ร้านดังกล่าวเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ค่อนข้าง premium ผมเคยเข้าไปกินครั้งเดียวกับแฟนเก่า และบอกตัวเองว่า จะไม่มาอีกเพราะราคาโหดมาก ซึ่งผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรขนาดนั้น ซึ่งผมก็แย้งไปว่า มันมีร้านซูชิตรงนั้นอีกนะ แต่น้องเขาบอกว่า เขาชอบร้านนี้มากกว่า
น้องเขาเลือก " ร้านนั้น " ซึ่งผมก็ทำใจ และคิดว่า คงไม่ถึง 5พัน มั้ง น้องเขาไม่น่ากินเยอะขนาดนั้น .......แต่ก็ยังเสียดายเงินอยู่ และด้วยความที่กลัวเสียหน้า พอรู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ในร้าน เปิดเมนูไป ได้แต่เก็บอาการอยู่ในใจไป ว่าแม ่งงงงงเอ้ย จะกินอะไรได้บ้างวะเนี้ยยย
สักพักน้องเขาก็สั่งๆๆๆ ผมก็ฟังๆ แล้วเปิดเมนูดูราคาตามที่น้องเขาสั่ง และพลางก็คำนวณในใจไปด้วย ...เออออ โอเค ไม่ถึง 2000ว่ะ สบายใจแล้ว..
ส่วนผมก็ไม่กล้าสั่งเยอะ สั่งแค่ซาชิมิจานละ 3-400 ร้อย แล้วบอกกับน้องเขาแก้เขินไปว่า พอดีกินที่บ้านมาแล้ว ยังไม่ค่อยหิว...
ระหว่างรออาหารน้องเขาเล่นแต่โทรศัพท์ หัวเราะคิกคัก แล้วก็มีการคุยเป็น voice msg ส่งกันไปมากับเพื่อนๆเขา คือไม่ได้เงยหน้ามองผมเลย
ผมเห็นแบบนั้นมันก็ทำให้ผมคิดว่า เออ.....เรียกเรามาทำไมเนี้ยยยย แล้วเรามาทำอะไรตรงนี้......ช่างมันเถอะ พลาดเอง
อาหารมาแล้ว...
น้องเขาก็พูดขึ้นมาว่า พี่คะ เพื่อนๆ หนูอยู่แถวนี้ เพื่อนเข้ามาหา พี่โอเคหรือปล่าวคะ ?
ผมก็ต้องบอกว่า โอเคสิ แต่ที่จริงมันไม่โอเคคคคคคคคคคคคเลยยยย เพราะมันมีแววไม่ดีมากๆ
ไม่ถึง 5 นาที เพื่อนๆน้องก็เข้ามา 3 คน บริกรในร้านชาวพม่า เขมร วิ่งกรูกันเข้ามาพร้อมยื่นเมนูให้อย่างดี พร้อมถาม " จาระอาราดีค้าาาาา "
ผมก็คิดว่า คงเข้ามาแล้วก็ไป นี่มัน เข้ามาแล้ว..สั่งกินด้วย โอ้ ไม่นะ พระเจ้าอย่าทำแบบนั้นเลย
ทั้งหมด 4 ชีวิต นั่งสั่งกันกระจาย ไอน้องเขาก็เชียร์ว่า สั่งเลยๆๆๆๆ
จากการประมาณการของผม จากการคาดเดาราคาในใจ นี่มันทะลุหมื่นแล้ว.....
น้องๆเขาคงมีความสุขดีนะ เห็นกินกันเล่นโชยุกันไป หัวเราะคิกคัก คุยกันเรื่องอื่น โดยไม่ได้สนใจผมเลยสักนิด
จนช่วงเวลาแห่งการคิดเลขในใจผ่านไป.................เมื่อเรียกเก็บตังค์
ทุกสายตาจ้องมาที่ผมถือบิล ไม่มีใครมีท่าทางจะควักอะไรออกมา นอกจากยิ้มๆ แล้วคุยกันเรื่องอื่น
ทั้งหมด "2x,xxx " บาทค่ะ ถ้าคุณลูกค้าจ่ายเงินสดลด xx% ค่ะ
ผมเห็นบิลแล้ว ผมช็อกมาก พาแม่ไป red sky ยังไม่ขนาดนี้
ผมเลยพูดว่า ถ้าจ่ายเงินสดลดอีก xx % ใช่ไหมครับ ตอนนี้เงินสดผมไม่พอ ต้องขออนุญาตไปกดครับ
ผมเดินออกไปทางห้องน้ำ เพื่อที่จะไปกดเงิน ระหว่างทางมันช่างยาวนานเสียเหลือเกิน เดินผ่าน board บอกเวลารอบหนัง และสิ่งต่างๆ
พอมาถึงหน้าห้องน้ำ (ทำไมต้องเอาตู้กดเงินมาอยู่หน้าห้องน้ำ อันนี้อยากรู้) เจอตู้กดเงินสีเขียวที่เราคุ้นเคย ก็กดออกมาตามจำนวนบิล แล้วเข้าห้องน้ำ
ไม่ได้ปวดอุจจาระ แต่เข้าไปนั่งในห้องน้ำ เพื่อคิดว่า ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ เงินจำนวนนี้ เราทำงานกี่วัน ได้ค่างวดรถ ค่าบ้าน พิซซ่ากี่ถาด โทรศัพท์ซัมซุงตัวทอป เวย์กี่กระปุก ได้แต่นั่งเศร้า และเครียดมาก
ผมเดินกลับไปร้านเพื่อที่จะจ่ายตัง ระหว่างทางมีหนังที่เราอยากดูอยู่เรื่องหนึ่ง เห็นว่าฉายไป 5 นาทีแล้ว เราก็เอออยากดูว่ะ ซื้อตั๋วหนัง
แล้วก็เข้าไปดูหนัง พร้อมปิดโทรศัพท์ โดยไม่คำนึงถึงชะตากรรมพวกคนเหล่านั้นเลย
หลังจากหนังจบ ผมก็เปิดโทรศัพท์ เห็นข้อความร้อยกว่าข้อความ และกลุ่มไลน์เฉพาะกิจที่เข้าตั้งเพื่อมาด่าผมโดยเฉพาะแต่ผมไม่ได้เข้าไปอ่าน
ผมไม่รู้ ไม่ได้สนใจพวกเขาว่าจ่ายกันเองยังไง หรือล้างจาน หรืออะไรยังไง ไม่ได้ติดตาม ผมลบข้อความไลน์ บล็อกไลน์ บล็อกเฟส ไม่อ่าน
ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกผิดกับเรื่องนี้อยู่บ้าง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ .....ผมก็ยังจะทำแบบนี้แหละครับ
จบเพียงเท่านี้ครับ
ผมอยากถามว่าการที่ผมทำแบบนี้ ผมผิดมากแค่ไหนหรือครับ มันเป็นเรื่องไม่สมควรหรือไม่ครับ
อาจจะเล่าตกหล่นไปบ้าง ขออภัยครับ
ที่มา : clicknews-tv