สำหรับโครงการ "ก้าวคนละก้าว" เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่หนุ่ม ตูน บอดี้แสลม ผู้จัดตั้งโครงการ ได้ออกวิ่งเพื่อหาเงินสบทบทุนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีจุดเริ่มต้น จาก อำเภอ เบตง จังหวัดยะลา และสิ้นสุดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมด 2,191 กิโลเมตร โดยในขณะนี้ ยอดเงินทะลุสูงถึง 149 ล้านแล้ว
ล่าสุดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ "เรื่องเล่าจากโรงหมอ" ได้ออกมาโพสต์ ขอบคุณ พี่ตูน และพลังของคนไทยทุกคน ซึ่งเชื่อว่าใครได้อ่านก็คง ปลื้มไปตามๆ กัน โดยจากโพสต์ระบุว่า..
"พี่ตูน...ก้าว...คนละก้าว"
พี่ตูน...นักร้องดัง คนที่วิ่งตั้งแต่ภาคใต้...สุดปลายประเทศ...
มีจุดหมายที่ทางเหนือ...เพื่อหาเงินให้โรงพยาบาล... น้องสาวผมถามว่า...พี่คิดยังไงเหรอ พี่ตูนช่วยโรงพยาบาล... เขียนอะไรขอบคุณพี่ตูนหน่อยสิ... ผมตอบน้องว่า...เงินน่ะ ไม่มีผลอะไรเท่าไหร่หรอก... ได้มาเท่าไหร่ก็ไม่มากเลยเวลาใช้... โรงพยาบาลในประเทศนี้ ที่ขาดที่สุดไม่ใช่เงิน หรือเครื่องมือ แต่เป็นคนที่จะทำงาน...
ถ้ามีคน...ที่มีใจ...ที่มีความสามารถ สู้และอดทนพอ... เงินก็จะมี ของก็จะมา...อาจจะต้องรอหน่อยนะ
หากความจริงในใจแล้ว... ผมและบุคลากรสาธารณสุขทุกๆคน ขอบคุณคุณตูนมากๆ สิ่งสำคัญจากการ...ก้าว...ครั้งนี้... นอกจากเงินบริจาคซึ่งก็น่าจะมากพอดู สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นเครื่องมือดีๆ มาใช้ต่อชีวิตให้กับคนไข้จำนวนมาก... แต่...แรงกระเพื่อมในสังคม...ที่คุณตูนเริ่ม...ก้าว...จนมีคนก้าวตาม การให้...และการอุทิศตน ของคุณตูน... ไปสู่การให้ ช่วยเหลือเกื้อกูล การให้...ของคนไทยทั้งประเทศ นี่สิ...น่าสนใจกว่า ...อย่างน้อยๆที่เป็นรูปธรรม...
รัฐบาลน่าจะตอบรับแล้ว กับการเปลี่ยนให้สามารถนำเงินบริจาคให้โรงพยาบาล ไปลดหย่อนภาษีได้เป็นสองเท่าของจำนวนเงิน... เชื่อแน่ว่า...ลำพังเปลี่ยนแค่สิทธิประโยชน์นี้เรื่องเดียว การบริจาคเงินให้โรงพยาบาลรัฐ น่าจะเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์... และน่าจะยั่งยืนด้วย ส่วนเรื่องที่จะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนของโรงพยาบาลรัฐได้จริงๆ...ปัญหาการจัดสรร...บริหารงบประมาณ... และการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชนนั้น... ก็เป็นหน้าที่ที่ผู้รับผิดชอบ และพวกเราจะสู้กันต่อ... อ้อ...ที่คุณตูนกับหลายๆคนอาจจะไม่รู้ก็คือ... พวกคุณเติมกำลังใจให้กับพวกเรามากเหลือเกิน...การที่ยังมีคนยังเห็นค่า ศรัทธากับสิ่งที่พวกเราทำ... ...มันมีความหมายมาก... สำหรับสถานการณ์ขณะนี้... ที่พวกเราอ่อนล้าทั้งกายและใจ... ทำยังไง ก็ไม่พอ...สู้ยังไงก็ไม่ชนะ... และตั้งใจยังไงก็ไม่พ้นถูกด่า...เพราะมันยังไม่ดีสมใจบางท่าน...
วันนี้...ตรวจคนไข้ตั้งแต่เช้า จนบ่าย...ผ่าตัดต่อไปอีกหกราย...ได้กินข้าวเที่ยงตอนค่ำนี้เอง...และตอนนี้ก็มีคนไข้ช็อค ตกเลือดในท้องกำลังรอผ่าตัดอีกแล้ว...แถมบนกระดานมีชื่อคนไข้รอผ่าตัดพรุ่งนี้อีกตั้งหลายคนด้วย...เราก็จะสู้ต่ออย่างคุณตูนเหมือนกัน...ถึงมีบางท่านบอกว่าทนทำทำไม ออกมาเถอะ...
รัฐบาลใช้งานเรามากเกินไป...เค้าอาจจะไม่เข้าใจ...เราไม่ได้ถูกใช้งาน...เราทำตามที่ควรต้องทำ...
เราช่วยด้วยใจ...ไม่ใช่เพราะหน้าที่รึถูกบังคับ...เพราะเราก็มี...."ความเชื่อ"...ของเราขอบคุณ คุณตูน และคนไทยทุกคนนะครับ...นี่จากใจชาวโรงพยาบาลทั้งประเทศเลยนะ... "มันเกือบจะล้มมันเหนื่อยมันล้าเหมือนแทบขาดใจเดินมาจนท้อไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝันจะกลับดีไหมถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น ยังถามใจ ตลอดชีวิตฉันเชื่อในสิ่งที่คิดหรือมันจะเป็นอะไรที่ผิด และฉันเองที่หลงทาง ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่ มันจะไปจบที่ตรงไหน เมื่อเดินเท่าไหร่มันก็ไปไม่ถึง เดินต่อช้าๆไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือ ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น ถ้าในวันนี้เรี่ยวแรงยังเหลือก็ยังต้องฝัน ต้องก้าวไป ตลอดชีวิตฉันเชื่อในสิ่งที่คิด แม้ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด จะขอทำสุดหัวใจ ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่ มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป"
ปล.สิ่งที่คุณตูน...ให้พวกเรามาก่อนหน้านี้
โดยเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ก็คือ... เพลงของคุณมันสร้างแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจเวลาที่เหนื่อยๆได้ดีชะมัด... ในรถผมมีดีวีดีที่เปิดบ่อยๆแผ่นเดียว...คือ bodyslam... แต่ที่ยังทำตามไม่ได้คือ "เรือเล็กควรออกจากฝั่งนี่ละ"