จากกระแสข่าวลือที่ว่า หมอเมย์ หรือ พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ ได้ลาออกจากโรงพยาบาลพระรามเก้าต้นสังกัด เนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติให้ลา 2 เดือน เพื่อร่วมวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าว กับนักร้องร็อกสตาร์ ตูน บอดี้สแลม หลังจากนั้นทางทีมงานก้าวได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความริงแต่อย่างใดและโรงพยาบาลสนับสนุนโครงการดังกล่าวเป็นอย่างดี
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. หมอเมย์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวใจความดังนี้ ภาพที่เห็นยิ่งใหญ่แต่ไม่เท่าความรู้สึกที่สัมผัสอยู่ตรงนั้น ทุกวินาทีมีปาฎิหารย์เล็กๆเกิดขึ้น ผ่านไป 16 วันด้วยดี เพราะบุคคลเบื้องหลังมากมาย ที่ยังไม่มีโอกาสขอบคุณ อาทิวราห์ คงมาลัย และทีมก้าวคนละก้าว มูลนิธิรพพระมงกุฎเกล้าและคณาจารย์ทุกท่านรวมถึงคณาจารย์ทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูทุกท่าน โรงพยาบาลพระรามเก้า อาจารย์อาวุโสและทีมผู้บริหาร ผู้บริหารทีมกายภาพบำบัดและนักกายภาพบำบัดทุกท่าน นอกจากเป้าหมายระดมทุนเพื่อ11 โรงพยาบาล เพื่อให้คนไทยเห็นการออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพ และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับประเทศไทย ขอบคุณพลังใจมากมายที่ส่งมาให้ และการช่วยเหลืออย่างดีจากทุกท่าน หมอเมย์ขอเป็นตัวแทนของแพทย์และบุคคลากรโรงพยาบาลพระรามเก้า ในการทำสิ่งดีๆทุ่มเทให้กับสังคมและประโยชน์ส่วนรวมจนสิ้นสุดโครงการนี้ค่ะ หมอเมย์
พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ หรือหมอเมย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยหมอเมย์มีหน้าที่ดูแลโปรแกรมการวิ่ง การเช็คร่างกายก่อนวิ่ง การใช้พลังงาน การกิน รวมถึงการบาดเจ็บ กายภาพบำบัด ฟื้นฟูกล้ามเนื้อของนักวิ่งตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ร่วมวิ่งกับตูนอีกด้วย ซึ่งจากเดิมที่เป็นคนชอบวิ่งอยู่แล้ว หมอเมย์ ได้เปิดเผยกับ siamdiscovery ตอนหนึ่งว่า 15 ปีที่ผ่านมาเป็นคนชอบเข้ายิม โยคะ ออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนให้ความสนใจกับการวิ่งแบบจริงจัง
แต่ด้วยความที่เป็นหมอเวชศาสตร์ฟื้นฟูตั้งแต่แรก งานหลักๆคือการรักษาคนไข้เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ โรคออฟฟิศซินโดรม ทำกายภาพบำบัดต่างๆ พอได้เริ่มมาวิ่ง ก็เริ่มรู้ถึงปัญหา เข้าถึงอาการที่นักวิ่งประสบพบเจอแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี แล้วเรามีองค์ความรู้เกี่ยวกับเวชศาสตร์ฟื้นฟูก็เริ่มเอามาใช้กับตัวเองก่อน แล้วก็เอามารักษาคนไข้ได้อย่างเข้าใจ วินิจฉัยได้ตรงมากขึ้น ซึ่งตอนนี้จากคนไข้ทั้งหมด กว่า 80% เป็นผู้ที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง
"นี่คือสิ่งที่เราสามารถผสมผสานระหว่างความชอบในกิจกรรมส่วนตัวและการทำงานไปได้อย่างสนุก เพราะเราใช้ประสบการณ์การยืดเหยียด เทคนิคการออกกำลังมารักษาคนไข้ได้" นอกจากนี้หมอเมย์ยังเป็นแอดมินเฟซบุ๊กเพจ "Goodhealth สุขภาพดีอย่างมีกึ๋น" โดยรวบรวมเคล็ดลับต่างๆของนักวิ่งหรือผู้สนใจสุขภาพ